สส.บช.น.ร่วม บก.น.9 รวบ 21 คน โกงคนละครึ่ง เผยมีทั้งเจ้าของร้าน-ลูกค้า แฉพฤติกรรม ไม่ได้ซื้อสินค้าแต่นำมารูดเงินสด โดนหักหัวคิว50บาท

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ เเจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ห่วงใยเรื่องสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอประเด็นกลโกง’เราชนะ’ รับ ซื้อ-ขายสิทธิโดย ชาวเน็ตให้ข้อมูลร้านค้าหลายแห่งที่เปิดให้ประชาชนแลกเงินในโครงการต่างๆ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

อ่าน ทุนจม-เงินขาดมือ แม่ค้าเซ็ง‘คนละครึ่ง-เราชนะ’ขายดี แต่เงินไม่เข้าบัญชี
อ่าน ชาวแม่ริมงง! ใช้สิทธิ์ ‘เราชนะ-คนละครึ่ง’ ร้านคิดภาษี 7 เปอร์เซ็นต์ จ่ายแพงกว่าเดิม
อ่าน คลัง ไม่เอาไว้ โกง ‘คนละครึ่ง’ ส่งตร.ฟัน 160 ร้าน โดนแบล็กลิสต์ด้วย สอบอีก 1 พันร้าน

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน

ร่วมกันแถลงผลงานการดำเนินคดีผู้ต้องหา 21 คน ฐานฉ้อโกง หลังสืบทราบว่า มีการใช้สิทธิ์ตามโครงการคนละครึ่งอย่างผิดกฎหมายไม่ตรงตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด

พ.ต.อ.ธีระชัย เผยว่า บก.สส.บช.น.ได้รับข้อมูลจากสำนักเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง ว่า มีร้านขายของชำร้านหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 725 ถนนเอกชัยซอย 46 แขวงและเขตบางบอน กทม.ซึ่งร้านค้าดังกล่าวลงทะเบียนร่วมโครงการคนละครึ่ง กับกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย

ต่อมาการสืบสวนพบว่า รายละเอียดการสแกนซื้อสินค้าและจ่ายเงินมีความผิดปกติ โดยมีการโอนเงินเข้า-ออกจากแอพพลิเคชั่น แต่ไม่มีการซื้อสินค้ากันจริงๆ ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และทำให้รัฐบาลได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ล่าสุดการสืบสวนพบผู้กระทำความผิดลักษณะเดียวกันในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมีอยู่ทุกภาค แต่ในท้องที่ บช.น.พบ 21 ราย พื้นที่สน.บางขุนเทียน มีการทำผิดกันหลายกรรมหลายวาระ จึงเดินทางมาแจ้งความกับทาง สน.บางขุนเทียน และดำเนินการกับผู้ต้องหาทั้ง 21 ราย ตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 21 คน นั้น ประกอบด้วย เจ้าของร้านขายของชำ 1 ราย ญาติๆ 3 ราย และลูกค้า 17 ราย จากการสืบสวนหาพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดพบว่า แต่ละคนมีการสแกนซื้อสินค้าหลอกๆ เพื่อนำเงิน 150 บาท จากโครงการคนละครึ่ง มาใช้จริง โดยร้านค้าจะจ่ายให้ลูกค้า 100 บาท และเจ้าของร้านจะเก็บไว้เอง 50 บาท

ผู้กระทำความผิดแต่ละรายสแกนแลกเงินกันหลายครั้ง หลายวาระ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการสอบสวนรอออกหมายเรียกตัวทั้ง 21 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวนในข้อหาฉ้อโกง แล้ว ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณีมีการทำผิดหลายกรรม หลายครั้ง โทษรวมกันจะสูงขึ้นอีก จึงขอเตือนประชาชนและเจ้าของร้านทุกท่านด้วยว่าอย่าโกงกัน เนื่องจากมีโทษหนักและจะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนมากขึ้น

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน