เปิดเงื่อนไขศาล หลัง ‘ลุงพล’ ได้ประกัน ห้ามผู้ต้องหาหลบหนี ข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อเหตุอันตรายประการอื่น ตั้งผญบ.กำกับดูแล ทำผิดข้อกำหนดเพิกถอนทันที

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64 ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธ นำตัวนายไชยพล หรือลุงพล วิภา อายุ 45ปี ผู้ต้องหาหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร ในความผิดฐาน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร ,ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตายและกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป”

โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ช่วงเวลา 9.00-9.45 น.ผู้ต้องหาได้พาตัวน้องชมพู่ อายุ 3 ปี 2 เดือนซึ่งเป็นลูกสาวของนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดา และนายอนามัย วงศ์ศรีชา บิดา ไปในขณะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ. มุกดาหาร โดยปราศจากเหตุอันสมควร จากนั้นนำตัวน้องชมพู่ ไปซุกซ่อนและทอดทิ้งไว้ที่บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง ขึ้นเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังโดยปราศจากผู้ดูแล แล้วไปทำธุระรับส่งพระหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันออกติดตามหาตัวน้องชมพู่ แต่ไม่พบ

ภายหลังเมื่อผู้ต้องหาเสร็จธุระส่งพระ จึงย้อนกลับมานำตัวเด็กน้องชมพู่ ซึ่งยังไม่เสียชีวิตและพยายามเดินหาทางกลับบ้านขึ้นไปซุกซ่อนและปล่อยทอดทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังอีกครั้งให้พ้นไปเสียจากตน โดยปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้น้องชมพู่ ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพราะเป็นเด็กมีอายุเพียง 3 ปี 2 เดือนไม่สามารถออกจากบริเวณเขาภูเหล็กไฟที่ถูกปล่อยทอดทิ้งไว้ได้ จนกระทั่งหมดแรงและเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟในเวลาต่อมา

จากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปกระทำการแก่ศพของน้องชมพู่ และสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพโดยถอดเสื้อผ้าจัดท่าทางของศพ เพื่อให้เข้าใจว่ามีการประทุษร้ายต่อน้องชมพู่ และใช้ของแข็งมีคมตัดสับฟันไปที่เส้นผมของน้องชมพู่ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ อันเป็นการกระทำการแก่ศพและสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป โดยได้พบศพน้องชมพู่นอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟชั้นที่ 5 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอกไปประมาณ 1.3 กิโลเมตร ในวันที่ 14 พ.ค.63 เวลาประมาณ 19.00 น.

ต่อมาตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารลงวันที่ 1 มิ.ย.64 นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดให้ผู้ต้องหาทราบในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306 มาตรา 308 และมาตรา 317และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ทวิมีอายุความดำเนินคดี 15ปี

พนักงานสอบสวนได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 เวลา 16.33 น. ซึ่งได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาโดยตลอดจะครบ 48 ชั่วโมง ในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา16.33 น. หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมในคดีอีก 15 ปากรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา ด้วยความจำเป็นดังกล่าว จึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือก่อเหตุร้ายประการอื่นจึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา

พนักงานสอบสวนมีความประสงค์ขอดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อ ๆ ไปทุกครั้ง โดยมีรายงานว่าคดีนี้มีผู้คัดการปล่อยชั่วคราว โดยศาลไต่สวนผู้เสียหาย 3 ปาก ที่คัดค้านการประกัน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิจารณาและมีคำสั่งให้ประกันตัวลุงพล หลังทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 180,000 บาท ท่ามกลางความดีใจของป้าแต๋นและแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจ

โดยศาลพิเคราะห์คำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน คำร้องขอปล่อยชั่วคราวคำคัดค้านของพนักงานสอบสวน คำร้องขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้เสียหายและพยานหลักฐานของผู้คัดค้านแล้ว

เห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน หากผิดสัญญาปรับ 180,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาหลบหนี ข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อเหตุอันตรายประการอื่น ห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้น แต่ได้รับอนุญาตจากศาลแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

และให้แต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านกกตูม ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เป็นผู้กำกับดูแลผู้ต้องหา เพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด หากผู้ต้องหาผิดข้อกำหนดเงื่อนไข ศาลจะพิจารณาสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวหรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร

แม่น้องชมพู่ เปิดใจหลังศาลให้ประกันตัวลุงพลว่า เมื่อทุกอย่างชัดเจน เราก็ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยยืนยันต่อสู้เพื่อลูก หลังจากนี้เรื่องความปลอดภัยนั้น ยอมรับอยากขอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลความปลอดภัย โดยน้อมรับคำตัดสินของศาล ซึ่งจะใช้ชีวิตประจำวันเหมือนเดิม แต่ต้องระวังมากขึ้น ทุกคนต้องการความคุ้มครอง โดยยืนยันเรื่องคดีจะสู้ต่อไป วันนี้แค่สู้เรื่องการค้านประกันตัว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน