ตำรวจสนธิกำลังบุกตรวจค้น 6 จุด จับผู้ต้องหาร่วมขวบการ แฮกข้อมูล ขายสิทธิฉีดวัคซีน ศูนย์กลางบางซื่อ ด้าน อนุทิน-ศักดิ์สยาม เตรียมแถลงข่าว

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 27 ก.ย.2564 พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ (ผบก.รฟ.) นำชุดปฏิบัติการ บก.รฟ. พร้อมด้วย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และ กองบังคับการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำหมายศาลเข้าตรวจค้น 6 จุด เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา นางศิริลักษณ์ อุบลเหนือ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการด้านอำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้มาดำเนินคดีร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายที่เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ และทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมรายชื่อผู้มีสิทธิที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

ตำรวจสนธิกำลังบุกตรวจค้น 6 จุด จับผู้ต้องหาร่วมขวบการ แฮกข้อมูล ขายสิทธิฉีดวัคซีน ศูนย์กลางบางซื่อ

ตำรวจสนธิกำลังบุกตรวจค้น 6 จุด จับผู้ต้องหาร่วมขวบการ แฮกข้อมูล ขายสิทธิฉีดวัคซีน ศูนย์กลางบางซื่อ

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวต่อว่า ซึ่งผู้มีรายชื่อดังกล่าวไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่จะทำการฉีดวัคซีนให้ โดยก่อนเกิดเหตุ สถาบันโรคผิวหนัง ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมการแพทย์ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบกำกับดูแลและบริการจัดการศูนย์ดังกล่าว ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ ประชาชนทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายตามนโยบาย สธ.

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวอีกว่า ซึ่งเมื่อมีการลงทะเบียนกรอกข้อมูลรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีน แล้วผ่านโปรแกรม softconvaccine ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของกรมการแพทย์ ซึ่งตั้งอยู่ในระบบกลางภาครัฐและผู้มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนสามารถตรวจสอบข้อมูลการนัดหมาย รับการฉีดวัคซีนได้บนแอพพลิเคชันวัคซีนบางซื่อ

 

สำหรับการกรอกข้อมูลดังกล่าวบุคลากรที่มีหน้าที่ลงทะเบียนกรอกข้อมูลจะได้รับชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน โดยเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์เป็นผู้กำหนด เพื่อให้ใช้สำหรับการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ไอ.ที.ของศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ ตรวจสอบพบรายชื่อบุคคลที่มีการลงทะเบียนนอกเวลาทำการ หลัง 20.00 น.จำนวนผิดปกติมาก

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ตรวจสอบพบว่ามีการนำข้อมูลรายชื่อบุคคลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นอกเวลาทำการประมาณ 1,000 คน ตั้งแต่เวลา 21.00-24.00 น. จึงสั่งให้ยกเลิกและนำรายชื่อที่ลงทะเบียน นอกเวลาทำการทั้งหมด ออกจากระบบ

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวอีกว่า วันที่ 28 ก.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. มีประชาชนที่มีรายชื่อนัดหมายในวันดังกล่าว และมีชื่อลงทะเบียนนอกเวลาทำการมาตามกำหนดนัดเพื่อรับวัคซีนที่จุดลงทะเบียน แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบข้อมูล เนื่องจากยกเลิกรายชื่อไปแล้ว ทำให้ประชาชนที่มีชื่อลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจ และพูดทำนองว่า “เสียเงินแล้วแต่ทำไมไม่ได้ฉีด” จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายเรียกเก็บเงินในการเพิ่มรายชื่อเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นรายละ 200-1,000 บาท ซึ่งทางกรมการแพทย์ไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินค่าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด

ผบก.รฟ. กล่าวว่า จึงมีการสอบถามประชาชนกลุ่มดังกล่าว โดยให้กรอกข้อมูลเป็นเอกสารไว้ ต่อมาจึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ส.รฟ.นพวงศ์ กก.1 บก.รฟ. เพื่อให้ทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม,

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ประสานให้ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.), พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดโดยเร็ว หลังมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง

จึงประมวลเรื่องเสนอทาง บช.ก.พิจารณา ซึ่งบช.ก.เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ และเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความรอบคอบ ต่อเนื่อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงลงนามในคำสั่ง 156/2564 ลงวันที่ 30 ก.ค. แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อรับผิดชอบสอบสวนคดีดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผบช.ก. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน

พ.ต.อ.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ รองผบก.อก.บช.ก. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และรองหัวหน้าคณะฯทำการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวโดยสอบพยานที่เกี่ยวข้องประมาณ 200 ปาก และตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ของผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานในคดีและยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา

ซึ่งศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดประกอบด้วย 1.น.ส.ภคมน (ขอสงวนนามสกุล) 2.นายวิชญพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) 3.นางสุรีนาฎ (ขอสงวนนามสกุล) 4.นายจุมพล (ขอสงวนนามสกุล) 5.น.ส.บัณฑิตา (ขอสงวนนามสกุล) 6.น.ส.กรรติมา (ขอสงวนนามสกุล) และ 7.นายหทัยชนก (ขอสงวนนามสกุล) โดยผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย บางรายเป็นพนักงานเอาต์ซอร์สเครือข่ายบริษัทมือถือ ในความผิดฐาน ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,

ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน โดยร่วมกันกระทำต่อระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะหรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ,

ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบโดยร่วมกันกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศความปลอดภัยสาธารณะหรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับการตรวจค้นทั้ง 6 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้รวม 5 คน ซึ่งทาง นายอนุทิน นายศักดิ์สยาม พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ พล.ต.ต.จิรภพ จะแถลงรายละเอียดอีกครั้งที่สถานีกลางบางซื่อ ในเวลา 10.00 น.วันนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน