รวบ ‘เค ร้อยล้าน’ คาสนามบิน คดีคลั่งปล่อยงูกลางแยก โดนเอาผิด 6 ข้อหา นำตัวผู้ต้องหาส่งสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.65 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. และพล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น. ในฐานะรองโฆษกบช.น. ประชาสัมพันธ์ข่าวตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ กรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.65 เวลาประมาณ 17.00 น. มีเหตุชายขับรถยนต์มาจอดกีดขวางบริเวณถนนราชดำริ หน้าห้างสรรพสินค้าฯ ใกล้แยกราชประสงค์ โดยมีพฤติการณ์คลั่งทำร้ายร่างกายตนเองและปล่อยงูเห่าลงบนถนนสร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนผู้พบเห็นนั้น

โดยในวันเวลาดังกล่าวตำรวจ สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุและเข้าไประงับเหตุโดยทันที เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการบาดเจ็บ จึงส่งตัวผู้ก่อเหตุไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมาย และพิสูจน์ทราบว่าผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวชื่อนายคเณศพิศณุเทพ อายุ 47 ปี หรือที่รู้จักกันในฉายา “เค ร้อยล้าน” ซึ่งเคยก่อเหตุกรณีเช่นเดียวกันมาก่อนโดยพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ประสานให้ญาตินำตัวผู้ก่อเหตุมาพบทันที หลังจากแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล แต่สืบทราบว่านายคเณศพิศณุเทพ ได้เดินทางออกนอกประเทศไป

ต่อมาวันที่ 6 มี.ค.65 ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 สืบทราบว่า นายคเณศพิศณุเทพ ได้โดยสารเครื่องบินจากประเทศอินเดียเข้ามายังประเทศไทย จึงร่วมกันวางแผนเข้าทำจับกุมตัวตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ฯ ในข้อหา 1. พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร 2. ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ 3. จอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร

4. ทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยลงบนพื้นที่สาธารณะ 5. มีสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ป่าอันตรายไว้ในครอบครอง 6. ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและสัตว์ป่าอันตราย โดยสามารถจับกุมได้บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อนำตัวมารับการตรวจประเมินและรักษาตามคำร้องขอของแพทย์ที่มีหนังสือมายัง สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2565 โดยพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ต้องรอผลการวินิจฉัยจากแพทย์สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาก่อน จึงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน