ถกเครียด 5 ชั่วโมง! คดี ‘แอม ไซยาไนด์’ จ่อเรียกอดีตสามีสอบซ้ำ ไม่มีข้อมูลสั่งยาจากต่างประเทศ แจงสอบครอบครัว ‘หนิม’ เหยื่อล่าสุด ปมเงิน 6 แสน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 เม.ย.66 ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนในคดี “แอม ไซยาไนด์” ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์นานกว่า 5 ชั่วโมง

พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในวันนี้เป็นเรื่องของการนำข้อมูลในแต่ละท้องที่เกิดเหตุเข้ามาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ล่าสุดเหยื่อในคดีตามข้อมูลในสำนวนตอนนี้ยังคงอยู่ที่ 13 ศพ และรอดชีวิต 1 ราย โดยกองปราบ ยังคงทำคดี “ก้อย” เพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ซึ่งยังคงเน้นย้ำให้ ผบช.ภ.7 ตั้งศูนย์วอรูม เพื่อรับเรื่องราวของเหยื่อ และสามารถเข้ามาแจ้งเรื่องดังกล่าวได้ ส่วนกระแสข่าวเรื่องการออกหมายจับเพิ่มในวันนี้ ยืนยัน ยังไม่มี เพราะล่าสุดคดีที่ออกหมายจับเพิ่มแอม คือ คดีของสารวัตรปู ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม เท่านั้น

ขณะที่ประเด็นการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รอง ผกก.(สอบสวน) อดีตสามีแอมเมื่อวานนี้ เป็นสิทธิที่เขาจะให้การอย่างไรก็ได้ เพราะจะต้องสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการอยู่แล้ว รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน โทรศัพท์ของทั้งสองคนว่ามีความสัมพันธ์ หรือมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง หลังจากนี้จะต้องเชิญอดีตสามีแอมกลับมาให้ปากคำอีกครั้ง

ส่วนกรณีเมื่อวานนี้ที่ได้เรียกครอบครัวของ น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หรือหนิม หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่พบเป็นรายล่าสุด มาสอบปากคำ เนื่องจากพบเส้นทางการเงินที่แอมโอนไปให้ 6 แสนบาท เบื้องต้นมีข้อมูลว่ามีการโอนเงินให้หลักแสนบาท ในส่วนนี้จากการสืบสวนพบว่า แอมมีหลายบัญชีในเรื่องของการเบิกจ่ายเงิน จึงต้องไปตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับใครหรือไม่

โดยการตรวจสอบรถเก๋งสีดำของแอมแล้วปรากฏว่าพบ “ไซยาไนด์” ประเด็นนี้ต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ขณะเดียวกันกระแสข่าวที่พบกล่องวัสดุที่สั่งซื้อยามาจากต่างประเทศ และระบุชื่อชัดเจนนั้น ยังไม่พบข้อมูล

นอกจากนี้จากการสอบปากคำ นายกอล์ฟ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทที่ไปเก็บเงินกู้กับ นายแด้ ผู้เสียชีวิต ที่ จ.อุดรธานี โดยเรียกมาสอบในฐานะ “พยาน” เพราะว่าพบว่ามีความสนิทสนมกับแอม และ นายแด้ โดยเจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ และยังไม่ได้รับสารภาพตามกระแสข่าว

ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ พบผู้เสียชีวิตที่ปรากฏชัดเจนว่า แอมวางไซยาไนด์ 2 ศพ ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง และ อ.เมืองนครปฐม คือ น.ส.ก้อย และสารวัตรปู โดยผลการตรวจพบไซยาไนด์ มีปริมาณเป็นเหตุทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในปริมาณเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ทั้งหมดอยู่ในสำนวนแล้ว

ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและมีการเผาศพไปแล้วนั้น ยืนยันว่า จะหาหลักฐานความผิดอื่นๆ ที่จะเชื่อมโยงเอาผิดกับแอมได้ ซึ่งพยานหลักฐานไม่ได้มีเพียงเรื่องสารพิษในร่างกายศพเพียงปัจจัยเดียว ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลเห็นว่าผู้กระทำผิดกระทำผิดจริง ขณะนี้มีแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเสียชีวิตจากสารพิษจริง แต่ไม่ขอระบุรายละเอียด

เมื่อสอบถามถึงปริมาณไซยาไนด์ว่าต้องใช้เท่าไหร่ ถึงจะทำให้ผู้ที่กินเข้าไปแล้วเสียชีวิตได้นั้น เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เรื่องการกินเข้าไปขณะท้องว่างหรือมีอาหารในกระเพาะ ซึ่งมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) เวลา 9.00 น. ตำรวจได้เชิญตัว นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อในคดีไซยาไนด์ มาให้ข้อมูล ของคนเหยื่อที่เสียชีวิต ที่กองบังคับการปราบปราม

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน