กองปราบ นำกำลังบุกรวบหนุ่มเนรคุณ ยกเค้าบ้านเพื่อน หลังทำทีมาช่วยดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงจนเชื่อใจ สบโอกาสฉกทรัพย์สูญนับ 10 ล้าน แฉประวัติ

วันที่ 27 ส.ค.2566 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. และ พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายศุภนรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ 70/2566 ลงวันที่ 7 มี.ค.2566 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

กองปราบ นำกำลังบุกรวบหนุ่มเนรคุณ ยกเค้าบ้านเพื่อน หลังทำทีมาช่วยดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงจนเชื่อใจ

กองปราบ นำกำลังบุกรวบหนุ่มเนรคุณ ยกเค้าบ้านเพื่อน หลังทำทีมาช่วยดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงจนเชื่อใจ

สืบเนื่องจากมี นายไตรรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เจ้าของร้านประดับยนต์แห่งหนึ่งที่ จ.พัทลุง เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเกรงคดีจะไม่คืบหน้า หลังถูกนายศุภนรินทร์ ผู้ต้องหารายนี้ เชิดทรัพย์สินมีค่าทั้งทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ เครื่องเพชร และยกเค้าที่บ้านญาติของตน ได้ทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า รู้จักกับผู้ต้องหาขณะทำงานอยู่ที่ กทม.เมื่อหลายปีก่อน จนเมื่อเดือน มี.ค.2565 มาเจอกันอีกครั้ง ขณะนั้นนายศุภนรินทร์เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ คดีพยายามฆ่าพ่อเลี้ยง ไม่มีที่ไปไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ตนสงสารจึงพามาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อให้โอกาสเพื่อน โดยเชื่อว่าคงทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จึงให้มาช่วยดูแลคุณแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง จนทุกคนในครอบครัวต่างหลงเชื่อใจ แต่เมื่อสบโอกาสเพื่อนก็ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง กระทั่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเอาไว้

ต่อมาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.พงศ์ปณต เพื่อให้กองปราบช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มักจะย้ายที่อยู่ไปในพื้นที่หลายจังหวัด จนทราบว่าหลบหนีมากบดานอยู่ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบของกลางเป็นทรัพย์สินจำนวนหนึ่งที่ขโมยมาจากบ้านเพื่อน แต่ผู้ต้องหายังหัวหมอ ให้การปฏิเสธในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน อ้างขโมยมาจริง แต่ลงมือช่วงเวลากลางวัน ทรัพย์สินต่าง ๆ นั้นตนนำไปขายในสื่อสังคมออนไลน์จนเกือบหมดแล้ว หลังก่อเหตุตนก็หลบหนีไปเรื่อย ๆ ทั้ง กรุงเทพฯ, อุบลราชธานี และตรัง ก่อนจะมาจนมุมดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติคดีของผู้ต้องหาพบเคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์และฉ้อโกง ในหลายท้องที่ หลายจังหวัด รวมทั้งสิ้นถึง 8 คดี จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองพัทลุง ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน