สรุปไว้ให้แล้ว เปิดไทม์ไลน์เดือด กะเทยไทย Vs กะเทยฟิลิปปินส์ #สุขุมวิท11 ฝ่าวงล้อมตำรวจ ผกก.สน.ลุมพินี เจรจาวุ่น ก่อนควบคุมตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปโรงพัก

วันที่ 5 มี.ค.2567 พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.20 น.ของวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ปากซอยสุขุมวิท 11/1 หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบสาวประเภทสองสัญชาติไทยประมาณ 50 คน จากการสอบถามได้รับแจ้งว่า กลุ่มเพื่อนสาวประเภทสองของตนเองถูกคู่กรณีสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์ทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.00 น. บริเวณปากซอยสุขุมวิท 5

สรุปไว้ให้แล้ว เปิดไทม์ไลน์เดือด กะเทยไทย Vs กะเทยฟิลิปปินส์ #สุขุมวิท11 ฝ่าวงล้อมตำรวจ ผกก.สน.ลุมพินี เจรจาวุ่น

สรุปไว้ให้แล้ว เปิดไทม์ไลน์เดือด กะเทยไทย Vs กะเทยฟิลิปปินส์ #สุขุมวิท11 ฝ่าวงล้อมตำรวจ ผกก.สน.ลุมพินี เจรจาวุ่น

ในวันนี่ (4 มี.ค.67) ตนเองพร้อมกลุ่มผู้เสียหายจึงเดินทางมาเพื่อขอไกล่เกลี่ย พร้อมกันนั้นได้ทำการไลฟ์สด เมื่อกลุ่มสาวประเภทสองได้ชมไลฟ์สดดังกล่าว จึงได้เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ

จากนั้น กำลังฝ่ายสืบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อเชิญตัวคู่กรณีสาวประเภทสองชาวฟิลิปปินส์มายัง สน.ลุมพินี เพื่อพบพนักงานสอบสวนตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งกลุ่มสาวประเภทสองชาวไทยได้ตามมาที่สน.ลุมพินี รวมกลุ่มกันเพื่อให้กำลังใจผู้เสียหาย และเพื่อขอดูหน้าผู้ก่อเหตุ

พ.ต.อ.ยิ่งยศ พร้อมกำลังจึงได้เข้าทำการเจรจาจนเป็นที่พอใจ และขอให้กลุ่มสาวประเภทสองที่ไม่เกี่ยวข้องกลับไปที่พักเพื่อให้ไม่เกิดเหตุวุ่นวาย กลุ่มสาวประเภทสองชาวไทยจึงยอมแยกย้ายกลับที่พัก ส่วนคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายนำพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า คู่กรณีแยกย้ายกลับเรียบร้อยนั้น เนื่องจากปรากฏว่ามีการท้าทายจากคู่กรณีชาวฟิลิปปินส์ ที่พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง คู่กรณีสาวประเภทสองชาวไทยจึงกลับมารวมตัวกันที่บริเวณโรงแรมซึ่งเป็นที่พักของคู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์อีก

และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดีที่ สน.ลุมพินี หากไม่ดำเนินการจะไม่ยอมกลับ สน.ลุมพินี จึงให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจไปรักษาความปลอดภัยที่โรงแรมและพยายามเจรจาให้กลับที่พักเนื่องจากตอนนี้อยู่ในกระบวนการของการสอบสวนแล้ว

แต่คู่กรณีฝั่งไทยไม่ยอมกลับ อีกทั้งมีกลุ่มสาวประเภทสองมาสมทบเพิ่มเติมจากสื่อโซเชียล จนมีกลุ่มสาวประเภทสองชาวไทยประมาณ 100 คนอยู่ที่บริเวณโรงแรม

พ.ต.อ.ยิ่งยศ จึงได้เข้าไปเจรจาและขอให้กลับที่พักเพราะคดีอยู่ในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ไม่เป็นผล อีกทั้งกลุ่มสาวประเภทสองชาวไทย ยังมีพฤติกรรมจะพยายามบุกเข้ามาในโรงแรม

เวลาประมาณ 03.00 น. ผกก.สน.ลุมพินี จึงขอกำลังเสริมโดยได้กำลังเสริมจาก สน.ข้างเคียง ประมาณ 20 นาย เพื่อมาช่วยในการรักษาความสงบ กระทั่ง เวลาประมาณ 03.20 น. กำลังเสริมมาถึง

ผกก.สน.ลุมพินี จึงได้พูดคุยเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นสาวประเภทสองชาวไทย เกรงว่า ขณะนี้สาวประเภทสองชาวไทยได้มาสมทบที่บริเวณโรงแรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะไม่ปลอดภัยกับคู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์และแขกรายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องในห้องพักภายในโรงแรม

และขอให้นำคู่กรณีผู้เกี่ยวข้องชาวฟิลิปปินส์ที่ยังตกค้างอีก 2 คน ไปยัง สน.ลุมพินี โดยเร็ว ซึ่งในขณะนั้น กลุ่มสาวประเภทสองชาวไทย มีแนวโน้มที่จะก่อความวุ่นวาย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำคู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์ไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อความปลอดภัยและลดความตึงเครียดในบริเวณโรงแรม

จึงได้ขอให้ฝั่งไทยซึ่งเป็นผู้เสียหายเจรจากลับกลุ่มสาวประเภทสองชาวไทยว่าจะนำคู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์ไปดำเนินกระบวนการสอบสวนที่ สน.ลุมพินี โดยขอให้ยินยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำคู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์ออกจากโรงแรมไป สน.ลุมพินี และห้ามทำร้ายคู่กรณีโดยเด็ดขาด

ซึ่งการเจรจาทางฝั่งสาวประเภทสองของไทยก็หลีกทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและรับปากจะไม่มีการทำร้ายแต่อย่างใด

เวลาประมาณ 04.15 น. จึงได้พาคู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 คนขึ้นรถที่เตรียมไว้ โดยได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทั้งของ สน.ลุมพินีนี และกำลังเสริมรวมประมาณ 40 นาย และได้จัดเจ้าหน้าที่คุ้มกันผู้เกี่ยวข้องไว้ด้วย

หากแต่ขณะที่คู่กรณีฝั่งฟิลิปปินส์ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 กำลังขึ้นรถกลุ่มสาวประเภทสองชาวไทยได้ผลักดันจนเจ้าหน้าที่ตำรวจล้มลง เป็นเหตุให้มีการเข้ามาลงมือทำร้ายผู้เกี่ยวข้องชาวฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ อาการเบื้องต้นมีอาการฟกช้ำบริเวณลำตัวและใบหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน