คณะสงฆ์ขอนแก่นสั่งสึก พระครูปลัดหนุ่มวัย 32 ขับฟอร์จูนเนอร์ไปชนเจ็บ แฉยับใช้รูปขณะเป็นฆราวาสเล่นแอพหาคู่เกย์นัดเจอกันที่โรงแรม แต่อีกฝ่ายปฏิเสธเพราะไม่ตรงปก จับลากขึ้นรถจนต้องหักพวงมาลัยชนหนีหื่น ค้นกุฏิยังเจออุปกรณ์เสพ

วันที่ 27 มี.ค.2567 จากกรณีโลกโซเชียลและเพจต่างๆทั่วทั้งจ.ขอนแก่น พากันแชร์เรื่องราวของ พระครูปลัด อายุ 32 ปี ขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไปประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนนศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งรพ. พร้อมข้อความว่า

“จากเหตุเมื่อวานกำลังตรวจสอบทั้งหมดเบื้องต้นค้นกุฏิเช้านี้พบยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์ นัดกันผ่านแอพหาคู่เกย์ น้องมาจากนครพนม พอมาถึงไม่ตรงปก พระเลยขืนใจจับขึ้นรถ น้องเลยตัดสินใจ หักพวงมาลัย พระคือฉุดน้องมาจากโรงแรม น่ากลัวมาก ระวังกันแน่เด้อ ไม่ทราบพระวัดไหน ”

โดยเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า คณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมตรวจสอบภายในกุฏิของพระครูปลัดผู้บาดเจ็บ และเป็นคนขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำ ภายในวัดแห่งหนึ่ง อ.มัญจาคีรี จากการตรวจค้นกุฏิพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ พร้อมยาไอซ์จำนวนหนึ่ง และถุงซิปล็อกขนาดเล็กหลายถุงภายในลิ้นชักในกุฏิ โดยมีเจ้าอาวาส คณะกรรมการวัด ลูกศิษย์วัด และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจค้นกุฏิวันนี้

พระครูวิสุทธิธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ และเป็น รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คณะสงฆ์ทราบจากทางสื่อโซเชียล ว่าพระรูปนี้ซึ่งเป็นพระในสังกัดวัดแห่งหนึ่งในต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุในเมืองขอนแก่น โดยในรถพบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ด้วย คณะสงฆ์จึงได้มีการตรวจสอบ

พร้อมทั้งสั่งการไปยังเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี เจ้าคณะตำบล ตำรวจพระ และประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ ขอเข้าตรวจค้นภายในกุฎิ ก็พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด แต่ไม่พบยาเสพติด คณะสงฆ์ได้ประชุมและมีมติให้ลาสิกขาหลังแพทย์ให้กลับได้ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของทางโลก ซึ่งได้แจ้งให้พระรูปนี้ทราบในเบื้องต้นแล้ว เจ้าตัวก็ยอมรับและจะลาสิกขาหลังจากออกจากรพ.

พระครูวิสุทธิธีรคุณ กล่าวต่อว่า กรณีพระรูปนี้เข้ากลุ่มนัดพบตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งจะต้องรอให้ออกจากรพ.ก่อน จะได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นทราบว่าภาพโปรไฟล์ที่พระใช้เข้ากลุ่มในแอพนัดเจอกันเป็นภาพขณะที่เป็นฆราวาส และพระอีกรูปที่นัดพบมาจากนครพนม สอดคล้องกับข้อมูลในโซเชียลแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ก็มีการพิสูจน์อยู่แล้วไม่สามารถปฏิเสธได้ และกรณีที่พระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะต้องสึกเท่านั้น

คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่นได้ประกาศข้อห้ามชัดเจน ห้ามพระสงฆ์ขับรถอย่างเด็ดขาดตั้งแต่ปี 2557 หลังจากสึกไปแล้วพระรูปนี้ไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ เนื่องจากช่วงที่เป็นพระมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดเรื่องการเสพเมถุนร่วมด้วย ก็จะเป็นการผิดวินัยส่งร้ายแรง คณะสงฆ์จะมีการสลักหน้าใบสุทธิด้วยว่าให้สึกด้วยสาเหตุใด ปัจจุบันการตรวจสอบประวัติของพระสงฆ์ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่า ใครทำผิดคดีอาญาอะไรบ้าง “

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน