เปิดปฏิบัติการกวาดล้าง เครือข่ายยาเสพติด 90 คดี ยาบ้ากว่า 40,000 เม็ด ยึดทรัพย์กว่า 11 ล้านบาท จับผู้ต้องหาตามหมายจับ 18 หมาย
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 เม.ย.2567 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 และ นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.ปปส.กทม. ปล่อยแถวระดมปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
ซึ่งทางตำรวจนครบาลมีผลการจับกุมความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ตั้งแต่เดือนต.ค.2566 – มี.ค. 2567 จำนวน 2,507 คดี สามารถยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดเพื่อตรวจสอบ มูลค่ารวม 1,091,511,966 บาท สืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดเป้าหมายจำนวน 65 เครือข่าย
เปิดปฏิบัติการกวาดล้าง เครือข่ายยาเสพติด 90 คดี ยาบ้ากว่า 40,000 เม็ด ยึดทรัพย์กว่า 11 ล้านบาท จับผู้ต้องหาตามหมายจับ 18 หมาย
ตามนโยบายรัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงยาเสพติดเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการระดมกวาดล้างยาเสพติดรายสำคัญ ทั่วประเทศ ในห้วงเดือนเมษายน 2567
โดยมุ่งเน้นการปราบปรามทำลายศักยภาพ กลุ่มหรือเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยการปฏิบัติการสืบสวนขยายผลบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดเป็นข่ายงานการค้ายาเสพติด
และนำมาตรการทางด้านตรวจสอบทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมาตรการทางกฎหมายอื่น เช่น พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือประมวลรัษฎากร มาใช้บังคับเพื่อทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด
กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงกำหนดให้มีปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด รายสำคัญ พร้อมกันทุกหน่วย ในห้วงระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย. 2567 โดยมีเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 101 เป้าหมาย
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 90 คดี เป็นการจับกุมความผิดร้ายแรง (ครอบครองฯขึ้นไป) จำนวน 35 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า จำนวน 42,039 เม็ด, ไอซ์ 332 กรัม, คีตามีน 527 กรัม จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 18 หมาย ตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่ารวม จำนวน 11,235,119 บาท
อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และ สำนักงาน ป.ป.ส. ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการกระทำที่อาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยการรับจ้างเปิดบัญชีม้า ซิมการ์ดม้าเพื่อรับโอนเงินจากยาเสพติด หรือใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 129 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท
และอาจเป็นความผิดฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือ และสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามมาตรา 125 หรือ 127 อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท อีกด้วย
ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ถึงช่องทางการแจ้งเบาะแสยาเสพติด โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ทาง สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติหมายเลข 191 และ สายด่วนสำนักงาน ป.ป.ส. หมายเลข 1386
