‘ฟอร์ด’แนะ5เคล็ดลับ ขับรถปลอดภัยหน้าฝน

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาสำหรับ ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่พ้นปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ ที่ต้องพบเจอ

สำคัญที่สุดคืออุบัติเหตุจาก ฝนตกหนัก น้ำขัง ถนนลื่น และอื่นๆ

ฟอร์ด ประเทศไทย จึงแนะนำเคล็ดลับเล็กๆ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน

เริ่มจาก

1.‘เตรียมรถให้พร้อม’

ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจเช็ก ดูแลรถยนต์ และเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ โดยควรให้ความสนใจสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษ คือใบปัดน้ำฝน เพื่อปัดน้ำฝนไม่ให้บดบังวิสัยทัศน์ซึ่งปกติมีระยะเวลาใช้งานประมาณ 1 ปี

น้ำฉีดกระจก เตรียมไว้ในกรณีที่มีดินหรือโคลนกระเด็นใส่กระจกหน้าด้วยเหตุนี้เอง จึงควรเช็กปริมาณน้ำฉีดกระจกและเติมน้ำสะอาดในถังน้ำฉีดกระจกให้ถึงขีดที่กำหนดทุกเดือน

ไฟหน้า-หลังรถ ช่วยให้มองเห็นข้างหน้าได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นและให้รถคันอื่นมองเห็นรถของคุณ

และสภาพยาง เพื่อให้ล้อรถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ควรเปลี่ยนยางรถทุก 4-5 ปี เนื่องจากโดยทั่วไปอายุของยางมักจะไม่เกิน 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ผลิต หรือควรเปลี่ยนยางเมื่อสภาพไม่อำนวยต่อการขับขี่อย่างปลอดภัย เช่น โครงสร้างของยางชำรุด ความลึกของดอกยางต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร เป็นต้น

2.‘วิธีขับรถไม่ให้ไถล’

เนื่องจากฝนตกทำให้ถนนเปียกและลื่น รวมถึงการยึดจับของยางกับถนนจะลดลงเมื่อขับเร็วขึ้น ดังนั้น การขับรถเร็วเกินความเหมาะสมในขณะที่ถนนเปียกจะส่งผลให้รถเสียหลักและไถลลื่นได้ โดยควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งไม่ควรขับเกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการเหินน้ำของรถ ป้องกันการลื่นไถลและเพื่อที่ผู้ขับจะสามารถควบคุมรถได้

3.‘รับมือกับฝนตกหนักจนมองไม่เห็นถนน’

หากฝนตกในช่วง 10 นาทีแรก ควรเริ่มลดความเร็ว หากฝนตกหนักเกินกว่าที่ผู้ขับขี่จะสามารถมองเห็นถนนและข้างทางและไม่สามารถขับรถต่อได้อย่างปลอดภัยได้ ผู้ขับขี่ควรหาจุดจอดรถที่ปลอดภัย และโทร.แจ้งสถานการณ์ต่อคนใกล้ชิดหรือคนรู้จัก

4.ห้ามเบรกกะทันหัน

ถนนลื่นเป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อฝนตก การเบรกกะทันหันบนถนนเปียกอาจส่งผลให้เบรกไม่อยู่ เสียการควบคุมรถ จนเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ผู้ขับขี่จึงควรทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามากกว่าปกติ หรือราว 2 เท่าของระยะทิ้งห่างเมื่อขับรถในสภาพอากาศปกติ

เพื่อให้สามารถหยุดรถได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องเบรกอย่างกะทันหัน และหลีกเลี่ยงการชนคนเดินถนนหรือรถคันอื่นบนท้องถนน

และ 5.‘ขับรถลุยน้ำยังไงไม่ให้รถดับ’

เมื่อพบว่าถนนที่ขับไปมีน้ำท่วมขังหรือแอ่งน้ำ ให้สังเกตระดับความลึกของน้ำจากฟุตปาธและสภาพแวดล้อมข้างทาง หรือจากรถ คันข้างหน้า เพื่อประเมินความลึกและสถานการณ์

ถ้าระดับน้ำไม่สูงมากสามารถขับผ่านไปได้ เบื้องต้นควรปิดแอร์ และใช้เกียร์ต่ำ แต่ถ้าระดับน้ำสูงเกินและฝืนขับลุยต่อไปอาจส่งผลให้น้ำเข้าเครื่องยนต์และเกิดความเสียหายต่อรถได้

นอกจากการขับรถอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษแล้ว การเลือกขับรถที่มีฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยก็สามารถช่วยให้การขับขี่ในสายฝนปลอดภัยยิ่งขึ้นได้ เช่น ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว สามารถปรับเบรกและกำลังของเครื่องยนต์ ช่วยรักษาสมดุลของรถในกรณีฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกข้างทาง

ระบบเตือนการชนด้านหน้า และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดิน

นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังสามารถลุยน้ำได้ที่ความลึกสูงถึง 800 มิลลิเมตร โดยห้องเครื่องถูกออกแบบให้สามารถรับมือกับการลุยน้ำลึกได้

ทั้งหมดนั้นคือเคล็ดลับเบื้องต้นในการขับรถปลอดภัยใน หน้าฝน

แต่แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ‘ไม่ประมาท’นั่นเอง

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน