เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’ ‘EQ Power’ปลั๊กอินไฮบริด

เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’ ‘EQ Power’ปลั๊กอินไฮบริด – เปิดตัวยานยนต์รักษ์โลกอีก 2 รุ่นย่อย ค่าย ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ภายใต้แบรนด์ ‘EQ’

ประกอบด้วย ‘C 300 e AMG Dynamic’ และ‘C 300 e Avantgarde’ แตกต่างกันที่อุปกรณ์ตกแต่งภายนอก-ภายในเล็กน้อย

ที่สำคัญเป็นรุ่นประกอบในประเทศจึงทำราคาได้น่าสนใจมาก

เริ่มกันที่ C 300 e Avantgarde ใช้กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว

เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’

ส่วน C 300 e AMG Dynamic กระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงินพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม

ULTRA RANGE Highbeam ทำงานอัตโนมัติหากระบบตรวจจับได้ว่า ไม่มี ผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่กำลังใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ

เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’

ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว โดยมีกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling

มีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟที่เลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต และมีโครงสร้าง ที่ดูต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียว

รุ่น C 300 e Avantgarde มาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control เบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO

ในขณะที่ C 300 e AMG Dynamic พวงมาลัยที่มาพร้อมกับระบบมัลติฟังก์ชัน ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ต และมาพร้อมกับ Memory Seat Package

เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’

นำเทคโนโลยี และรูปแบบการใช้งานมาจากรถยนต์ The S-Class โดยมีระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic Sporty และ Progressive

ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับระบบกุญแจแบบ KEYLESS-START ในขณะที่รุ่น C 300 e AMG Dynamic จะมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย

ความบันเทิงแบบเดียวกัน หน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบ Touch pad ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester

ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี

C 300 e AMG Dynamic ยังมาพร้อมกับระบบแผนที่นำทางที่ติดตั้งเฉพาะ

เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1,991 ซีซี พละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบ 1,200 -1,400 ต่อนาที

เมื่อผสานพลังกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 122 แรงม้า ทำให้ได้กำลังสูงสุด 320 แรงม้าที่ 4,500 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิดถึง 700 นิวตันเมตร

แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนรุ่นใหม่ความจุ 13.5 kWh มากกว่าเดิมถึง 111% สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 10% จน เต็ม 100% ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที หากชาร์จด้วยเครื่องประจุไฟฟ้าวอลล์บอกซ์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุด

ส่งพลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบใหม่ (9G-TRONIC)

เมอร์เซเดส-เบนซ์‘C 300 e’

เทคโนโลยีความปลอดภัย คล้ายคลึงกับระบบที่ใช้ในรถยนต์‘The S-Class’ อาทิ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist

ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) ระบบเตือนแรงดันลมยาง เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ

C 300 e Avantgarde ราคา 2,699,000 บาท

C 300 e AMG Dynamic ราคา 3,215,000 บาท

——————-

‘โรลันด์ โฟลเกอร์’ ประธาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ฯ

“ในฐานะผู้นำด้านยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมอร์เซเดส-เบนซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จะตอบโจทย์ของความยั่งยืน ล่าสุดเปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (EQ Power) เจนเนอเรชั่นที่ 3 Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของรถยนต์ในตระกูล C-Class กับเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่างลงตัว ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบสมรรถนะทรงพลัง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน