‘AMG ไดรวิ่ง อคาเดมี’ ที่สุดอบรมขับขี่ปลอดภัย
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
‘AMG ไดรวิ่ง อคาเดมี’ – นับเป็นกิจกรรมที่ค่ายดาวสามแฉก ‘เมอร์เซเดส –เบนซ์’ภูมิใจสุดๆ ด้วยเพราะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงการขับขี่ที่ถูกต้อง ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และยังมีความปลอดภัย ให้กับลูกค้าที่เลือกใช้งานรถยนต์ตระกูล AMG
เปิดอบรมตั้งแต่ปี 2550 ใน 15 ประเทศที่เข้าไปทำตลาด มีผู้ที่ผ่านการอบรมไปแล้ว กว่า 14,000 คน
ล่าสุดนำกิจกรรมนี้มาให้ลูกค้าคนไทย และสื่อมวลชนได้สัมผัสกันอย่างเต็มรูปแบบ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
กิจกรรม ‘AMG ไดรวิ่ง อคาเดมี’ มี 6 ระดับตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการก้าวไปเป็นนักแข่งมืออาชีพ
กิจกรรมที่นำมาใช้ในบ้านเราเป็นระดับ 2 เรียกว่า ‘เพอร์ฟอร์แมน เทรนนิ่ง’ ทุกคนที่ผ่านหลักสูตรนี้แล้วจะมีชื่ออยู่ในทำเนียบ AMG ทั่วโลก สามารถขยับขึ้นไปอบรมหลักสูตรต่อๆ ไปได้อีก
นำรถยนต์ AMG ในพอร์ตฟอร์ลิโอทั้ง 14 รุ่น มาให้ได้ทดสอบสมรรถนะรวมถึงฝึกอบรม
มี ‘เมอร์เซเดส–เอเอ็มจี ซี 63 เอส คูเป้’ เป็นตัวไฮไลต์ ที่ทุกคนจะได้ใกล้ชิด
ทีมงานผู้ฝึกสอนแต่ละคนไม่ธรรมดา นำโดย ‘เบิร์น ชไนเดอร์’ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ AMG ดีกรีนักแข่งมอเตอร์สปอร์ตจากเมืองเบียร์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่เยอรมัน 5 สมัย และแชมป์ 2 สมัย นูร์เบอร์กริง
หัวหน้าทีมผู้ฝึกสอน ‘ปีเตอร์ แฮ็กเค็ต’ ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 20 ปี และยังเป็นแชมป์การแข่งขัน CAMS Australian Endurance Championship
กิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 วัน แต่ละวันมีภารกิจที่ทุกคนต้องเข้าฝึกอบรมแตกต่างกันไป
บ่ายวันแรกเริ่มต้นที่การจำลองการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต โดยรถสองคันจะถูกปล่อยตัวพร้อมกัน วิ่งไประยะทางระดับหนึ่งพอได้ความเร็ว แล้วต้องเบรกให้อยู่ในจุดที่กำหนด
สถานีต่อไปเพิ่มความสามารถในการควบคุมรถ จำลองเหตุการณ์ให้เหมือนรถลื่นด้วยการนำปลอกพลาสติกมาหุ้มล้อหลังไว้ แล้วให้ขับเข้าโค้งตามที่กำหนด ทั้งแบบที่มีระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ซึ่งเป็นระบบปกติที่ใช้งานทั่วไป และแบบปลดออก เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่าง ว่าเมื่อมีระบบนี้แล้ว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้นแค่ไหน
ต่อกันที่สถานีไฮไลต์ของวันแรก ทดสอบการควบคุมเบรกฉุกเฉิน ที่ความเร็ว 100-110-120 ก.ม./ชั่วโมง ตามลำดับ มีเงื่อนไขที่ว่าเมื่อเบรกแล้วต้องหักหลบไปตามเส้นทางที่กำหนด จากไฟสีเขียวซ้าย–ขวา ซึ่งอยู่บนโครงเหล็กที่ตัวรถกำลังจะพุ่งผ่านไป พร้อมทั้งเหยียบเบรกค้างไว้จนถึงจุดให้หยุดสนิท
เป็นการจำลองสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง แล้วปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ขับขี่มีเพียงพอที่จะผ่านไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
จบกันที่สถานีสุดท้าย นำพื้นที่ในสนามมาให้ได้ทดสอบการเข้าโค้ง 7-8-9 ที่ถือได้ว่าเป็นโค้งปราบเซียน เพื่อให้ได้เรียนรู้การเข้าโค้งที่ถูกต้อง ก่อนที่จะเจอของจริงเต็มรูปแบบในวันรุ่งขึ้น
กิจกรรมวันที่สองนำทักษะที่ได้ฝึกฝนจากวันแรกมาใช้กันอย่างเต็มที่ แต่ละคนจะได้ขับรถตระกูล AMG กันครบทุกคันวิ่งเต็มรอบสนาม
นอกจากจะได้รับรู้สมรรถนะ และบุคลิกของรถแต่ละคันว่ามีความแรงมากน้อยเพียงใดแล้ว ยังพิสูจน์ความสามารถในการควบคุมรถ กับสนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ที่มีความยาวรอบสนาม 4.55 ก.ม. 12 โค้ง
ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนจะได้เจอกับไฮไลต์ที่โค้ง 4 เพราะแม้จะเป็นโค้งรับทำความเร็วได้สูงสุดถึง 200 ก.ม.ต่อชั่วโมง แต่ต้องรักษาอาการรถให้หนีแรงเหวี่ยงพิสูจน์ว่าเข้าโค้งได้ถูกไลน์ บนความเร็วที่เหมาะสมหรือไม่
ที่หลายคนน่าจะชื่นชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นทางตรงยาว 1 ก.ม. ซึ่งรถเมอร์เซเดส–เอเอ็มจี สามารถรีดพลังออกมาจนความเร็วขึ้นไปได้กว่า 200 ก.ม.ต่อชั่วโมง เป็นรถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ให้สมรรถนะไม่ต่างจากรถแข่ง
‘AMG ไดรวิ่ง อคาเดมี’ นอกจากจะมอบความรู้ทั้งในเรื่องของสมรรถนะรถ เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเพิ่มความสามารถในการขับขี่ให้ได้ปลอดภัยยิ่งขึ้นแล้ว
ยังได้ใจลูกค้าไปแบบเต็มๆ อีกด้วย เพราะถ้าไม่ใช่ลูกค้าค่ายดาวสามแฉกแล้ว คงยากที่จะได้รับประสบการณ์ระดับโลกแบบนี้