ควบ‘เชฟโรเลต ไฮคันทรี่’ ตะลุยเนินโหดบนเขาค้อ

ควบ‘เชฟโรเลต ไฮคันทรี่’ ตะลุยเนินโหดบนเขาค้อแม้จริงๆ แล้ว ‘ข่าวสด ยานยนต์’ เคยทดสอบรถปิกอัพสายพันธุ์มะกัน ‘เชฟ โรเลต โคโลราโด’ มาแล้วหลายครั้ง ทั้งไปร่วมทริปที่เชฟโรเลต ประเทศไทย จัดขึ้น และนำมาทดสอบเอง

แต่ด้วยเส้นทางที่ทีมงานได้เตรียมให้ทดสอบ ในครั้งล่าสุดนี้ที่ผาตัด อ.เขาค้อ ค่อนข้างเร้าใจ เรียกว่าเป็นการพิสูจน์สมรรถนะ กำลังเครื่องยนต์ช่วงล่าง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ว่าจะมีความอึดขนาดไหนได้เป็นอย่างดี

จึงไม่รอช้าที่จะตอบตกลงในทันทีที่มีโทรศัพท์แจ้งเข้ามาถึงทริปทดสอบครั้งนี้

นัดเจอช่วงสายๆ เพื่อเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่สนามบิน จ.เลย เที่ยงวันพอดี

เชฟโรเลต โคโลราโด จอดรอเรียงรายหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นไฮคันทรี่ หรือตัวแต่ง ไฮคันทรี่ สตอร์ม พร้อมแล้วที่จะให้พิสูจน์สมรรถนะ

ได้รุ่น ‘ไฮคันทรี่ ดับเบิล แค็บ’ 4 ประตู ขับเคลื่อนสี่ล้อ ทดสอบร่วมกับน้องนักทดสอบจากเว็บไซต์ชื่อดังอีก 2 คน วันแรกขับกันอยู่ประมาณ 200 ก.ม. ขณะที่วันรุ่งขึ้นขับต่อกันอีกกว่า 300 ก.ม. เลยอาสาขับในวันแรกแบบรวดเดียวจบ แล้วให้น้องๆ นั่งจับอารมณ์ ผู้โดยสารกันไปแบบเต็มๆ

ช่วงแรกเป็นถนนไฮเวย์ ขับทำความเร็วได้พอสมควร กำลังของเครื่องยนต์ ดูราแม็กซ์ ดีเซล 2.5 ลิตร เรียกมาใช้งานทันใจตั้งแต่ตีนต้นต่อเนื่องไปจนถึงตีนปลาย

ขับไปได้สักพักเจอถนนเลนสวน ต้องหาจังหวะเร่งแซงเป็นระยะแม้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จะทำงานได้อย่างราบเรียบไร้รอยต่อ แต่เมื่อต้องการกำลังเครื่องยนต์ช่วงคิกดาวน์ คล้ายกับต้องคิดแว้บหนึ่ง

หากไม่มั่นใจแนะนำให้ใช้เกียร์โหมดแมนนวล ด้วยการผลักไปฝั่งซ้ายเบาๆ แล้วดันขึ้นดึงลง เพื่อเลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ หรือไว้เล่นสนุก ยามต้องการเรียกกำลังเครื่องยนต์

หักหัวมุ่งหน้าขึ้นผาตัด ทางลูกรังแคบแบบชนิดขับคันเดียวยังมีโอกาสโดนกิ่งไม้ข่วนรถเอาได้ พร้อมกับร่องลึกของถนนจากรอยล้อรถยนต์ ที่วิ่งเข้ามาในฤดูฝน ทิ้งไว้เป็นเป็นอนุสรณ์

ทางช่วงแรกยังไปกันได้แบบเรื่อยๆ ก่อนถึงจุดสูงสุดผาตัด ต้องผ่านเนินสูงชัน 3 เนิน เริ่มจากเนินรับแขกเบาๆ เป็นออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อย หมุนเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนไปที่ 4H คือข้บเคลื่อนสี่ล้อ แต่ยังใช้ความเร็วได้ ขับผ่านอย่างสบายมือ

สักพักเจอเนิน VIP ที่มีความชันเพิ่มขึ้น ทีมงานแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้โหมด 4L ขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วต่ำ เติมคันเร่งเป็นระยะๆ เมื่อรู้สึกว่ากำลังลดลง แค่นี้ก็ไปได้ฉลุย

ต่อกันที่เนินวัดใจซึ่งถือได้ว่าเป็นเนินทางชันสุดหินแห่งหนึ่ง เพราะนอกจากความชันที่มากกว่าทุกเนินแล้ว พื้นถนนยังมีร่องลึกของรอยล้อ ทำให้ต้องดูไลน์ หาเหลี่ยมหามุมให้ดี พวงมาลัยที่ถึงจะค่อนข้างหนักแต่ให้ความแม่นยำอยู่พอตัว ช่วยให้บังคับทิศทางตัวรถได้อย่างใจ

กำลังของเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4L อย่างนุ่มนวล ไต่ทางชันราวกับค่อยๆ เดินขึ้น แบบไม่มีอาการเหนื่อยล้าให้ได้รู้สึก แทบไม่ต้องเติมคันเร่งเพื่อเพิ่มกำลัง แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ว่ามีพละกำลังไม่น้อย

ผ่านทั้ง 3 เนิน เป็นที่เรียบร้อย ขับต่อเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง ถนนที่อยู่บนยอดเขา ทำให้เมื่อมองไปรอบตัวแล้ว ได้เห็นวัดวาอาราม บ้านเรือน และรีสอร์ต ที่อยู่ในจุดต่ำกว่าเรียงราย กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ราวกับขับอยู่บนถนนลอยฟ้าก็มิปาน

เพลินกันบนผาตัดกันจนย่ำค่ำ ลืมไปว่าขากลับเป็นทางลาดลง ความยากไม่แพ้กัน แถมยังปกคลุมด้วยความมืดเข้าไปอีก ทีมงานให้เลือกใช้ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)

แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบระบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เลยหันไปใช้การเชนจ์เกียร์ช่วย เว้นเสียแต่ที่ชันแบบชนิดหน้าจิกพื้น เจ้าระบบ HDC ช่วยลดความเร็วลงได้เป็นอย่างมาก ไม่ต้องแตะเบรกบ่อย

ช่วงล่างรับได้ทุกสภาพถนน โดยด้านหน้าแบบปีกนกสองชั้น/คอยล์สปริง/ช็อกอัพแก๊ส ส่วนด้านหลังลิฟสปริงแป้นรูปครึ่งวงรี/ช็อกอัพแก๊ส

 

วันรุ่งขึ้นยังไม่จบภารกิจ เพราะยังต้องทดสอบกันต่อไปยังทุ่งนางพญา หนึ่งในจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ปล่อยให้น้องสองคนว่ากันไปให้เต็มที่ ส่วน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ กระโดดไปนั่งเบาะหลัง พื้นที่เบาะสั้นไปนิดหนึ่ง ดีว่าพื้นที่วางขามีมาให้มากพอได้ขยับแข้งขยับขาแก้เมื่อย

ขณะที่พนักพิงหลังดีไซน์ให้นูนขึ้นมาช่วยให้ความรู้สึกราวกับนั่งพิงเบาะที่เอนอยู่พอสมควร

ไม่ว่าจะขับมาแล้วกี่ครั้ง แต่ ‘เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮ คันทรี่’ ยังน่าประทับใจเหมือนเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน