มิตซูบิชิ เดินหน้า‘รถรักษ์โลก’

‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด

คอลัมน์ ยานยนต์

มิตซูบิชิเดินหน้า‘รถรักษ์โลก’‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด – แม้ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ปีนี้จะดูไม่ค่อยมีความแน่นอนสักเท่าไหร่ แต่ไม่ได้ทำให้ ‘นายโมะริคาซุ ชกกิ’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ยอมถอดใจ

มิตซูบิชิเดินหน้า‘รถรักษ์โลก’‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด

ล่าสุดในงานแถลงข่าวผลประกอบการของปีที่แล้ว และแนวทางการทำตลาดในปีนี้ ยังคงมั่นใจว่ารถยนต์มิตซูบิชิจะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและยอดขายไว้ได้อย่างแน่นอน

นายโมะริคาซุกล่าวถึงยอดขายตลาดรวมรถยนต์ในปีที่แล้วทำได้ทั้งสิ้น 1,007,552 คัน โดยครึ่งปีแรกมีอัตราเติบโตค่อนข้างมาก แต่ครึ่งปีหลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายรวมทั้งปี ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มียอดขายรวม 1,041,739 คัน

ในส่วนของมิตซูบิชิมีผลประกอบการที่ดี มียอดขายอยู่ที่ 88,244 คัน แบ่งเป็นปิกอัพรุ่น ‘ไทรทัน’ 35,807 คัน คิดเป็นสัดส่วน 41%

เอ็กซ์แพนเดอร์ อยู่ที่ 16,196 คัน คิดเป็น 18%, ปาเจโร สปอร์ต อยู่ที่ 13,558 คัน คิดเป็น 15%, แอททราจ อยู่ที่ 13,319 คัน คิดเป็น 15% และมิราจ อยู่ที่ 9,364 คัน คิดเป็น 11%

มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 4.4% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 8.8% จากเมื่อปี 2561 มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 8.1%

มิตซูบิชิเดินหน้า‘รถรักษ์โลก’‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด

เป็นผลมาจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การพัฒนาเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ส่วนแนวโน้มตลาดปีนี้ ผู้บริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์สฯ กล่าวว่า เป็นปีแห่งความท้าทายและยากลำบาก ด้วยปัจจัยลบที่เข้ามา กระทบหลายด้าน ไม่ว่าจะสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เพราะทุกประเทศล้วนมีปัญหา สงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา

มิตซูบิชิเดินหน้า‘รถรักษ์โลก’‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด

เรื่องของโรคไวรัส ที่แม้จะส่งผลไม่ชัดเจนแต่เชื่อว่าจะกระทบบ้างอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของราคาพืชผลทางการเกษตรที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าภาครัฐจะมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าโดยภาพรวมของเศรษฐกิจแล้วต้องกระทบมาถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ มองว่า ยอดขายตลาดรวมรถยนต์ในปีนี้จะลดลงจากปีที่แล้ว อยู่ที่ 920,000-950,000 คัน

ทั้งนี้ บริษัทยังคงวางกลยุทธ์การตลาดในทิศทางเดียวกันกับปีที่แล้ว ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ตรงกับความต้องการของตลาดรวม 7 รุ่น พร้อมกับพัฒนาเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายต่อเนื่อง วางแผนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเป็น 245 แห่ง จากเมื่อปีที่แล้วมีอยู่ 229 แห่ง เพื่อให้เข้าถึงและใกล้ชิดลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ตั้งเป้ายอดขายไว้ในปีนี้เท่ากับปีที่แล้ว และต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 9% มั่นใจว่าทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เพราะในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 6,000 คัน นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี

มิตซูบิชิเดินหน้า‘รถรักษ์โลก’‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด

นายโมะริคาซุกล่าวอีกว่า ด้านการส่งออก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ครองตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 โดยสามารถส่งออกรถยนต์รวมทั้งสิ้น 332,700 คัน

ประกอบด้วยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) 284,500 คัน และรถยนต์ ชิ้นส่วนประกอบ (KD) 48,200 คัน โดยในปี 2562 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้ฉลองความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน

สำหรับการผลิตในปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สามารถผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้น 407,200 คัน ประกอบด้วยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) 353,500 คันและรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) 53,700 คัน

มิตซูบิชิเดินหน้า‘รถรักษ์โลก’‘เอาต์แลนเดอร์’ปลั๊ก-อินไฮบริด

ขณะที่รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่หลายค่ายเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ นายโมะริคาซุกล่าวว่า มิตซูบิชิเตรียมเปิดตัวเช่นกันคือ ‘เอาต์แลนเดอร์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด’ รถเอสยูวีรุ่นดังมาเมืองไทยในเดือนม.ค. 2564

ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อนำมาผลิตที่โรงงานมิตซูบิชิแหลมฉบัง จ.ชลบุรี หลังจากที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนแล้ว ซึ่งแม้บริษัทจะได้ขอรับการอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้าด้วย แต่คาดว่าต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่มีจำนวนไม่มาก ทำให้กลายเป็นข้อจำกัดของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า 100%

“ถึงตอนนี้มองว่ารถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด มีความเหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบันมากกว่า”

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน