ฟอร์จูนเนอร์’-‘รีโว่ไมเนอร์เชนจ์ สวยสปอร์ตขึ้นเติมเต็มเทคโนโลยี

‘ฟอร์จูนเนอร์’-‘รีโว่’ไมเนอร์เชนจ์ – สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟนานุแฟนค่ายโตโยต้าที่เผยโฉมฟอร์จูนเนอร์และไฮลักซ์ รีโว่รุ่นไมเนอร์เชนจ์ หลังจากเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 มาแล้ว 5 ปี

คราวนี้โตโยต้าจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก เพราะส่งรุ่นพิเศษออกมาพร้อมๆ กัน

เริ่มกันที่ฟอร์จูนเนอร์รูปลักษณ์ภายนอกปรับดีไซน์กระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน

ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home

ไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อม Light Guiding

ล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ ให้รับกับตัวรถ

ห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาตรวัดเรืองแสง Optitron ใหม่ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว

หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบ T-Connect สามารถแสดงสถานะตัวรถและเช็กตำแหน่งผ่านสมาร์ตโฟนได้

กระจกมองข้างปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

รุ่นพิเศษ ‘Legender’ ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED ปรับระดับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home

ล้ออัลลอย 20 นิ้วเป็นดีไซน์ใหม่ หลังคาทูโทน ให้ความโดดเด่น ดีไซน์หรูหรา แบบ Sport Premium PPV

ประตูท้ายเปิดปิดด้วยไฟฟ้า และ Kick Sensor เปิดประตูโดย ไม่ต้องใช้มือสัมผัส

ห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, มาตรวัดเรืองแสง Optitron ใหม่ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว, หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบ T-Connect สามารถแสดงสถานะตัวรถและเช็กตำแหน่งผ่านสมาร์ตโฟนได้, กระจกมองข้างปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Soft Touch เดินด้ายสีแดงพร้อมลายไม้แบบ Galaxy Black และแถบสีเงิน

ฐานเกียร์ตกแต่งลายไม้แบบ Galaxy Black พร้อมแถบสีเงิน

ติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่แผงคอนโซลหน้า, แผงข้างประตู และที่วางเท้าแถวที่ 1

มีเครื่องยนต์ 2 บล็อก ดีเซล 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร

และเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะทุกรุ่นย่อย

เทคโนโลยีความปลอดภัย มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ

ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC, เซ็นเซอร์กะระยะรอบคัน และดิสก์เบรก 4 ล้อ ฯลฯ

มี 3 รุ่นย่อย ราคา 1,564,000 – 1,839,000 บาท

ขณะที่ไฮลักซ์ รีโว่ รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งในทุกมิติ

ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding

สำหรับรุ่นพิเศษ Rocco ออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน

มีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน และความพรีเมียมแล้ว

ห้องโดยสารเพิ่มความล้ำสมัยด้วยหน้าจอสัมผัส และมาตรวัดดีไซน์ใหม่

วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษและไฟส่องสว่างภายใน

หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อม T-Connect ระบบเชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว

หน้าจอ TFT แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้าหลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้าง

ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่

เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร

ช่วงล่างปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่แบบ‘Super Flex Suspension’ ดูดซับแรงกระแทกของโช้กอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบเพื่อยกระดับความนุ่มสบายให้มากยิ่งขึ้น

ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มาไว้ในรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุด

อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)

ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) ฯลฯ

ไฮลักซ์ รีโร่ เริ่มต้น 544,000 – 1,159,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อกโค ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน