คอลัมน์ทดสอบ…สันติ จิรพรพนิต

เป็นแผนการตลาดและกระตุ้นกำลังซื้อได้อย่างประสบผลสำเร็จ กับรถหลายรุ่นของ‘ฮอนด้า’ที่ปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ แต่สามารถยืนขายราคาเดิมได้ ทำให้ครึ่งปีแรกฮอนด้า มียอดขายถล่มทลายครองแชมป์ตลาดรถยนต์นั่ง หนึ่งในรุ่นขายดีของค่ายคือ‘แจ๊ซ’ เก๋งซิตี้คาร์ 5 ประตู ที่ถือว่าเข้ามาบุกเบิกตลาดในเมืองไทย เนื่องจากก่อนการเข้ามาของแจ๊ซรุ่นแรก เชื่อกันว่าคนไทยไม่นิยมรถ 5 ประตูมากนัก แต่แจ๊ซ ทำให้ความเชื่อนี้เปลี่ยนไปเพราะกวาดยอดขายได้ถล่มทลาย กลายเป็นรถขวัญใจวัยรุ่น

แจ๊ซ ปรับโฉมครั้งล่าสุดแบบไมเนอร์เชนจ์ เมื่อกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แม้ปรับไม่มากนักแต่ด้วยที่ยืนราคาเดิมทำให้ไม่มีเสียงบ่นใดๆ เพราะคนที่กำลังเล็งหารถรุ่นนี้อยู่ ถือว่าได้รถโฉมใหม่ในราคาเดิมนั่นเอง รุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มรุ่นพิเศษคือ‘RS’ และ‘RS+’

ที่ได้มาทดสอบเป็นรุ่นท็อปสุด กันชนหน้า-หลัง ปรับใหม่ดูสปอร์ตขึ้น เช่นเดียวกับกระจังหน้าเป็นแถบขนาดใหญ่สีดำเปียโนแบล็ก พร้อมตัวอักษร‘RS’ ไฟหน้าแบบ LED ออกแบบภายในโคมคล้ายๆกับ‘ซีวิค แฮทช์แบก’ เทอร์โบ เพิ่มไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light – DRL) แบบ LED เป็นเส้นอยู่ใต้โคม ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว เป็นยางแก้มต่ำเพื่อความสปอร์ตและเต็มซุ้มล้อพอดี แต่แน่นอนว่าเมื่อได้ยางแก้มต่ำมาต้องแลกกับความนุ่มนวลที่น้อยลง ส่วนเส้นสายด้านข้างเหมือนเดิม

ความต่างของรุ่นอาร์เอส กับรุ่นธรรมดาคือกระจกมองข้างใช้สีดำ จากรุ่นเดิมเป็นสีเดียวกับตัวรถ ด้านในถือว่าปรับเปลี่ยนไม่มากนัก ที่ชัดเจนคือเบาะนั่งแบบผ้าลายใหม่ เดินด้ายส้มเส้นคู่ หน้าจอสั่งงานแบบทัชสกรีนที่ควบคุมเครื่องเสียงและส่งภาพจากกล้องมองหลัง ลดขนาดลงเหลือ 6.8 นิ้ว โดยของเดิมอยู่ที่ 7 นิ้ว ถือว่าแทบไม่มีผลต่อการมอง ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆยังเหมือนเดิม เชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (Bluetooth) รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI และยูเอสบี ช่องใส่ของกระจุกกระจิกเยอะเเหมือนเดิม รุ่นอาร์เอส เพิ่มกล่องเก็บแท็บเล็ตให้มาด้วย ขณะที่จุดวางแก้วน้ำใส่มาเยอะไปไหนถึง 9 จุด รวมไปถึงที่หน้าช่องแอร์ด้านขวางของคนขับเพื่อรักษาความเย็นของเครื่องดื่มนานขึ้น

เรือนไมล์ขนาดใหญ่มองเห็นมาตรต่างๆ ชัดเจน และมีไฟแจ้งการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECO Assist โดยสีเขียวเป็นการขับขี่ประหยัดที่สุด

ความปลอดภัยรุ่นนี้มาครบถ้วนเหมือนเดิม ทั้งถุงลม 6 ตำแหน่ง ทั้งคู่หน้า Dual SRS (ทุกรุ่น) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags (เฉพาะรุ่น RS+) และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags (เฉพาะรุ่น RS+) รุ่นท็อปจะได้ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ(Honda Smart Key System) เพียงพกรีโมตติดตัวสามารถเปิด-ปิดประตูหน้าซ้าย-ขวา และประตูที่ 5 จากปุ่มรับสัญญาณ ได้ด้วย ปุ่มสตาร์ต-สต็อป เปลี่ยนเป็นวงกลมสีแดงอยู่ด้านซ้ายมือคนขับ แผงแอร์ระบบดิจิตอลใช้งานง่ายแตะเบาๆ ก็ปรับการทำงานได้แล้ว เบาะแถวหลังสามารถพับปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้เหมือนเดิม

การทดสอบหนนี้พาผู้โดยสารเดินทางไปรวม 4 คน แต่ตัดสินใจใช้ลมยางมาตรบฐานของการขับขี่คนเดียว เพราะเห็นว่ายางแก้มต่ำ ช่วงขับคนเดียวรู้สึกกระด้างหน่อยๆ อยู่แล้ว การไม่เพิ่มลมยางทำให้ตัวรถที่แบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นมีความนุ่มนวลและหนักแน่นเพิ่มขึ้นไปด้วย อัตราเร่งตีนต้น-กลาง และปลาย ถือว่าทำได้ดีตามสไตล์รถซิตี้คาร์ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม นิ่มนวลไม่มีกระโชกโฮกฮาก อยากสนุกกับการเปลี่ยนเกียร์ก็เล่นแพดเดิลชิฟ หรือปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่หลังพวงมาลัยได้

ช่วงถนนโล่งๆ เผลอกดเข้าไปราวๆ 140 ก.ม./ชั่วโมง ตัวรถยังนิ่งดี แต่ด้วยมากันหลายคนจึงไม่อยากกดไปมากกว่านี้ ทั้งๆที่เหลือที่ว่างใต้คันเร่งอีกพอสมควร เสียงลมเริ่มเข้ามาราวๆ 120 ก.ม./ชั่วโมง แต่เครื่องเสียงจัดมาให้ถือว่ารับมือได้สบาย ผู้โดยสารด้านหลัง 2 คนพอใจกับความกว้างขวาง รวมถึงผนักพิงที่ได้องศากำลังเหมาะ ส่วนความนุ่มนวลสำหรับวัยรุ่นอาจจะสนุกเพราะมีความกระด้างนิดๆ แต่ถ้าใครชอบให้นุ่มกว่านี้การเปลี่ยนยางให้แก้มสูงขึ้นช่วยได้บ้าง รุ่นนี้ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม แบบH-Shape

พวงมาลัยแบบ 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น ด้านซ้ายคุมเครื่องเสียง ส่วนด้านขวาเป็นระบบควบคุมความเร็ว ใช้งานง่ายดี น้ำหนักพวงมาลัยถือว่ากำลังเหมาะ โดยเฉพาะการขับที่ความเร็วต่ำหรือถอยจอดทำได้เบาแรงมาก ภาพรวมการใช้งานทั้งในเมืองและต่างจังหวัดถือว่าไม่ขี้เหร่ ถึงนั่งเต็มความจุ 5 คนไปต่างจังหวัดทำได้สบายๆ ที่สำคัญได้ความประหยัดเพิ่มจากที่ซดน้ำมันได้สูงสุดถึง‘E85’

ข้อมูลทางเทคนิค

แบบตัวถัง เก๋ง 5 ประตู

เครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC

ความจุ 1,497 ซีซี.

กำลังสูงสุด 117แรงม้า/6,000 รอบฯ

แรงบิดสูงสุด 146นิวตัน-เมตร/4,700 รอบฯ

มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,695×4,035×1,525 ม.ม.

ราคา 555,000 – 754,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน