ทดสอบ….กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
ยังคงเป็นขวัญใจแฟนพันธุ์แท้ อีโค คาร์ ซีดาน 4 ประตู มาจนถึงทุกวันนี้ แม้‘ซูซูกิ เซียส’จะเปิดตัวทำตลาดมานานกว่า 2 ปี แล้วก็ตาม ด้วยรูปลักษณ์ที่มีดีไซน์โดนใจหลายๆ คน ประกอบกับภายในที่กว้างขวาง ที่เมื่อเข้าไปนั่งแล้ว ไม่ว่าจะแถวหน้าหรือแถวหลัง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่รถอีโคคาร์ จริงๆ หรือ เพราะโอ่อ่าไม่แพ้ซีดาน ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่กว่าเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหลังมีพื้นที่ให้เหยียดแข้ง ขยับขาได้สบาย หรือถ้ารูปร่างไม่ใหญ่นักจะไขว่ห้างก็ยังไหว
ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.25 ลิตร หลายคนอาจจะยังลังเลว่าขับทางไกลจะไปไหวหรือไม่ งานนี้‘วัลลภ ตรีฤกษ์งาม’กรรมการบริหารด้านการขาย และการตลาด ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จึงจัดพิสูจน์กันให้เห็นจะจะ กับกิจกรรม“การเดินทางสู่ความสุข กับ ซูซูกิ เซียส – The Happiness Journey with Suzuki CIAZ”
กิจกรรมแบ่งออกเป็นหลายช่วงเริ่มต้นการเดินทางกันที่จ.เชียงใหม่ สิ้นสุดที่จ.ภูเก็ต โดยเลือก ซูซูกิ เซียส อาร์เอส (Suzuki CIAZ RS) ซึ่งเป็นตัวท็อปที่นอกจากจะจัดชุดแต่งเท่ห์ๆ สำหรับภายนอกแล้ว ภายในยังจะเต็มด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสไตล์สปอร์ตสีดำหนานุ่ม พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นระบบเอ็นเตอร์เทน Suzuki Smart Connect หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay สั่งงานด้วยเสียง ติดตั้งระบบนำทางเนวิเกเตอร์ สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยบลูทูธ อุปกรณ์พกพาผ่านช่องเสียบ USB และยังมีช่องเสียบ SD Card ให้เพลิดเพลินกับเพลงโปรดตลอดเส้นทาง
‘ข่าวสด ยานยนต์’รับไม้ต่อจากกลุ่มแรกที่ขับกันมาจากจ.เชียงใหม่ มีจุดสตาร์ทอยู่ที่จ.พิษณุโลก มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ระยะทางรวมร่วม 400 กม. ช่วงแรกให้แข่งขันประหยัดน้ำมัน แต่ตกลงกันกับนักข่าวร่วมคันว่า เรายังคงคอนเซ็ปต์การขับแบบใช้งานจริง ทำความเร็วอยู่ระหว่าง 90 – 110 กม.ต่อชม. แต่ให้เท้านิ่งๆ ไม่ออกตัวแรง ไม่เบรกหนัก คือเรียกว่าเหมือนชาวบ้านทั่วไปเค้าทำกัน ผลของคันอื่นเราคงไม่ได้สนใจเพราะไม่รู้ว่าลักษณะการขับขี่เป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ เของข่าวสด ยานยนต์ อยู่ที่ 22.7 กม.ต่อลิตร กับจำนวนผู้โดยสาร 3 คน พร้อมสัมภาระกระเป๋าเป้คนละ 1 ใบ ถือว่าน่าพอใจเลยทีเดียว
ออกเดินทางกันต่อ จากจ.นครสวรรค์ ถึงกรุงเทพฯ อีกกว่า 250 กม. บังเอิญว่ามีภารกิจทำให้ต้องไล่ตามหลังกลุ่มใหญ่ที่นำหน้าไปก่อน ระหว่างทางจึงเพิ่มน้ำหนักเท้าที่แป้นคันเร่ง เข็มไมล์ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.25 ลิตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT เข็มไมล์ทะลุความเร็ว 150 กม./ชั่วโมง แต่ความเร็วก็ยังเรียกมาได้อย่างต่อเนื่อง แบบไม่มีท้อไม่มีเหนื่อย
ช่วงล่างผ่านย่านความเร็ว 120 กม./ชั่วโมง ยังไม่มีความรู้สึกวาบหวิวเลยแม้แต่น้อย กว่าจะมีอาการเล็กๆ มองเข็มไมล์เกิน 150 กม./ชั่วโมง ไปแล้วนั้นแหล่ะ ส่วนการเข้าโค้งแม้ทริปนี้จะมีโค้งให้เล่นไม่มากนัก เมื่อมีโอกาสใส่ทันทีทั้งหนัก ทั้งเบา อาการท้ายดิ้นมีให้ได้สัมผัสเมื่อเข้าบนความเร็วสูง แต่แค่นิดเดียว ประมาณให้พอได้แก้อาการสนุกๆ เป็นผลมาจากช่วงล่างที่หนึบแน่น ประกอบกับพวงมาลัยที่ให้ความคมอยู่พอตัว ทำให้กำหนดได้ว่าจะให้รอยล้อไปในทิศไหน
ถึงจุดหมายปลายทางย่านวงแหวนอ่อนนุช สำนักงานใหญ่ซูซูกิ มอเตอร์ สิริรวมระยะทาง 387 กม. กดดูผลอัตราสิ้นเปลืองจากหน้าจอแสดงข้อมูลที่จำเป็น บริเวณเรือนไมล์ แจ้งไว้อยู่ที่ 17.1 กม.ต่อลิตร กับอาการเท้าหนักเกือบ 3 ใน 4 ของตลอดเส้นทาง ใช้คำว่าประหยัดเกินตัวก็ไม่น่าจะผิดปากนัก
นักเลงรถสายใหญ่แต่ประหยัด แวะไปทดลองขับกันที่โชว์รูมซูซูกิ ทั่วประเทศ ถ้าคิดว่าตรงจริตและอรรถประโยชน์ตามที่ต้องการแล้ว จะจับจองเป็นเจ้าของกันเลยก็ได้ทันที กับราคาค่าตัว 675,000 บาท
แต่ถ้าคิดว่าเป็นคนที่มีโชคในการลุ้นของรางวัล ต้องติดตามเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 พร้อมทั้งร่วมกิจกรรม‘ข่าวสด ซีเกมส์’ เพียงตัดคูปองข่าวสด หนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ตั้งแต่วัน 16-29 ส.ค.นี้ ส่งมาที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด มีโอกาสได้เป็นเจ้าของกันฟรีๆ ไปเลย ส่วนรางวัลใหญ่อื่นๆ อาทิ ‘ไอ คอนโดมีเนียม’ ศาลายา มูลค่า 1.5 ล้านบาท จากพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ Club Twelve และอื่นๆ อีกมากมาย
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง ซีดาน 4 ประตู
เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VVT
ความจุ 1,242 ซีซี.
กำลังสูงสุด 91 แรงม้า/6,000 รอบฯ
แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร/4,000 รอบฯ
ระบบรองรับ(หน้า) แม็คเฟอร์สันสตรัท/คอยล์สปริง
ระบบรองรับ(หลัง) ทอร์ชั่นบีม/คอยล์สปริง
มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,730×4,490×1,475 ม.ม.
