ฮอนด้า HR-V เจนฯใหม่ พลังไฮบริด-ออปชั่นครบ – ได้ชื่อว่าเป็นขวัญใจนักเลงรถ SUV ขนาดกลางมาตั้งแต่เปิดตัวจวบจนปัจจุบัน ด้วยเพราะ ‘ฮอนด้า HR-V’ ออกแบบมาในแนวสปอร์ต รูปร่างพอเหมาะพอเจาะ ผู้หญิงขับได้ ผู้ชายขับดี

ส่งผลให้ยอดขาย ถล่มทลาย 7 ปี กว่า 100,000 คัน

ล่าสุดอวดโฉมรุ่นใหม่ เจเนอเรชั่น ที่ 2 โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 19 พ.ย.นี้ มีรุ่น RS มาแนะนำในไทยเป็นที่แรกของโลกด้วย

ดีไซน์ภายนอกปราดเปรียวสไตล์สปอร์ต คูเป้ กระจังหน้าสีดำเงาเชื่อมต่อกับไฟหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟ ตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED

กันชนหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมสัญลักษณ์ ‘H Mark’ หรือรูปคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริด

ไฟท้ายแบบ LED Light Strip เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม

ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เตะเท้าเข้าไปครั้งเดียวเปิด-ปิดในทันที และ ยังมีระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมตออกห่างจากตัวรถ

ห้องโดยสารกว้างขวาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบ Air Diffusion System ช่องปรับอากาศดีไซน์ใหม่กระจายลมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องแอร์ตอนหลัง

เบาะหนังดีไซน์ใหม่สีดำ และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ

Utility Mode : เบาะด้านหลังปรับพับเรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย

Long Mode : เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่ เก็บของในแนวยาว

Tall Mode : สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง และเป็นรุ่นเดียวในเซ็กเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้

เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สั่งการด้วยเสียง Siri

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เบาะนั่ง ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ควบคุมระบบเครื่องเสียงปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

ฮอนด้า HR-V e:HEV ใหม่ เป็นรุ่นแรกของค่ายนี้ เลือกขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV เพียงอย่างเดียว ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว

มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive)

ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)

แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน น้ำหนักเบา และขนาดกะทัดรัด สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้ เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์

มีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์

ฟังก์ชัน Drive Mode ผู้ขับขี่เลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย มีให้เลือก 3 โหมด

ECON Mode : โหมดการขับขี่แบบประหยัด

Normal Mode : โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป

และ Sport Mode : โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต เพื่อการขับขี่ ที่สนุกเร้าใจ

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน โดยมีฟังก์ชัน การทำงานหลักๆ ดังนี้

ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่

สีภายนอกมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีใหม่สีขาวพรีเมียมซันไลต์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) รวมทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย

ฮอนด้า HR-V e:HEV ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ส่วนราคาจะ เปิดเผยวันที่ 19 พ.ย.

อย่างไรก็ตาม จากประเมินคาดว่ารุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,200,000 บาท

รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,100,000 บาท

และรุ่น e:HEV E ราคาประมาณการต่ำกว่า 990,000 บาท

รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน