มูลนิธิกระจกเงา เผยเรื่องราวแม่เลี้ยงเดี่ยว รายได้หายเหตุโควิด ทำทุกทางให้ลูกยังมีข้าวกิน ตั้งสติขออยู่เพื่อลูก เพื่อแม่

เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคโควิด หลายคนต้องดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว จากเดิมที่หาเช้ากินค่ำยังแทบไม่พอ มาตอนนี้ ต้องหยุด ทำมาหากินไม่ได้ กลายเป็นเดือดร้อนหนัก โดยล่าสุด มูลนิธิกระจกเงา ได้นำเรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีลูกวัย 3 ขวบ และขอความช่วยเหลือผ่านมายังเพจ ได้เขียนถึงเรื่องราวของตนเองเอาไว้ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวสะเทือนใจที่หลายคนกำลังประสบ

โดยโพสต์ระบุว่า “เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แยกกันอยู่กับแฟน เลี้ยงลูกคนเดียว ตอนนี้ลูกอายุ 3 ขวบ พ่อเขาก็ส่งเงินมาบ้าง มาเยี่ยมบ้างบางครั้ง ตอนนี้เขาตกงาน เราก็ไม่ได้ทำงานมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เลยลำบากมาก เราอดได้นะ แต่ลูกต้องได้กินทุกวัน

“ก่อนหน้านี้ ปกติจะขี่มอไซค์พ่วงข้างออกไปขายของตามตลาดนัด ขายยำกับน้ำปั่น บางวันก็เอาลูกไปด้วย ตรงไหนมีตลาดนัด เราก็ขี่รถไปจอดตั้งร้าน วันนึงหักลบต้นทุน ค่าของ ค่าน้ำมัน มีเงินเหลือเข้าบ้านวันละ 400-500 บาท ถือว่าพออยู่พอใช้นะ หาไปใช้ไป ถ้าวันไหนไม่ได้ไปขายของก็ไม่มีรายได้ เรามันคนหาเช้ากินค่ำ

“ตลาดประกาศให้หยุดขายตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 นี่เดือนกว่าแล้ว ที่ไม่ได้ขายของ ไม่มีรายได้เลยสักบาท เงินที่เคยสะสมเป็นทุนหมุนเวียน ก็เอามาใช้หมดแล้ว นี่ค่าเช่าบ้านจะต้องจ่ายเขาสิ้นเดือน 2,200 บาท ก็ยังไม่มี อย่าว่าแต่ค่าเช่าบ้านเลย ค่ากินทุกวันนี้ยังไม่มีเลย มันไม่มีรายได้จากไหน

ยื่นขอเงินช่วยเหลือรัฐบาลเราก็ไม่ได้ เขาแจ้งว่าเงื่อนไขไม่ครบเกณฑ์ ก็ไม่เข้าใจว่าไม่ครบเกณฑ์อะไรตรงไหน อยากให้มาตรวจสอบก็ไม่มีใครมาตรวจสอบ มาดูให้เห็นเลย ว่าเราลำบากจริงๆ ถ้าได้เงิน 5,000 มาบ้าง ไม่ต้องได้ครบ 3 เดือนหรอก เราก็จะอยู่ให้ได้ เลี้ยงลูกให้ได้

“เครียดมากนะ เรามีลูกกับแม่ ที่ต้องดูแล ไม่มีเราไม่กินก็ได้ แต่ลูกยังเล็ก เขาร้องกินทุกวัน เราอธิบาย แต่เขายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจนะ เด็กก็ต้องได้กิน ก็ไปเซ็นต์ขนมที่ร้านค้ามาให้ลูกกิน 5-10 บาท ขอเซ็นต์เขาไว้ก่อน แต่ก็เกรงใจเขา เราคนขายของ รู้ว่าการขายของต้องมีเงินมาหมุนเวียน เซ็นต์แล้วยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปคืนเขาเพราะยังไม่ได้ทำงาน

“วันนั้นจำได้ 21 มีนาคม 2563 คือไม่มีกินแล้วจริงๆ เพื่อนมาบอกว่า ให้ส่งข้อความไปที่เพจ มูลนิธิกระจกเงา เขาจะส่งของมาช่วย เราก็ทำได้แค่นั้น ส่งไปหลายที่มาก บางที่เห็นเป็นหมื่นๆ คอมเม้น เราก็คิดนะ ว่าเขาจะเห็นข้อความของเรามั้ย

“ผ่านไป 2 วัน คือวันที่ 23 มีนาคม มีพัสดุ ส่งมาจากมูลนิธิกระจกเงา เปิดดูเราดีใจมาก คือ วันนั้น มันไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อแล้ว ในกล่องพัสดุ มีข้าวสาร อาหารแห้ง นม และขนมสำหรับลูก มันอาจไม่ได้เยอะมากมาย แต่เราขอบคุณมากๆ มันทำให้เราอยู่รอดไปได้อีกหลายวัน เราส่งข้อความไปตามที่ต่างๆเยอะมากนะ นี่คือ ที่เดียวที่ส่งของกลับมาให้เรา แต่เราก็เข้าใจทุกหน่วยงานนะ เพราะข้อความคงเยอะมากๆ คนเดือดร้อนแบบเราเยอะ

“เรายังมีกำลังใจอยู่ได้เพราะเรามีลูก ไม่สู้ไม่ได้ เราต้องทำหน้าที่แม่ อยากฝากให้ทุกคนมีสติในการใช้ชีวิต เราก็ไม่ได้วางแผนไว้นะว่าจะเจอวิกฤติแบบนี้ ไม่ได้ตั้งตัวเลย ไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะเกิดผลกระทบกับเราขนาดนี้ แต่ต้องมีสติกับมัน มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปเลย ตอนนี้เราต้องอยู่เพื่อลูก เพื่อแม่ และเพื่อคนในครอบครัวของเราให้ได้”

ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 อายุ 33 ปี อาชีพค้าขาย ภูมิลำเนาจังหวัดชุมพร
——

โดยตอนท้าย มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า เรายังเปิดรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง นมเด็ก ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รวมถึงของอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง ยังมีคนเดือนร้อนรอความช่วยเหลือจากคุณอีกมาก
สามารถส่งความช่วยเหลือเข้ามาได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ถนนวิภาวิดีรังสิต 62 แยก4-7 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 เพื่อป้องกันตกหล่น โปรดวงเล็บหน้ากล่องว่า
“อาสามาเยี่ยม” หรือร่วมสมทบเข้าบัญชีกองทุนอาสามาเยี่ยม เลขที่บัญชี 202-258297-5 ธ.ไทยพาณิชย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน