สถานการณ์โควิด ยังคงต้องเข้มงวดและร่วมกันดูแลเพื่อไม่ให้การระบาดขยายวงกว่าที่จะรับมือไหว โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์หญิงสาวติดโควิดลักลอบเข้าประเทศ ตระเวนเที่ยว จนทำให้ผู้อื่นเกิดความเสี่ยงติดโควิดไปด้วย ทำให้หลายฝ่ายต้องดูแลการลักลอบเข้าประเทศอย่างจริงจังมากกว่าเดิม
ล่าสุด มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี เผยแพร่ภาระกิจในการดูแลผู้ลักลอบเข้าประเทศ โดยระบุว่า “หน่วยงาน จว.สุพรรณบุรี ร่วมเข้าตรวจต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ชาย 1 ราย สัญชาติเมียนม่า เข้าเมืองโดยช่องทางธรรมชาติ เดินทางจาก อ.แม่สอด จ.ตาก มา จ.สุพรรณบุรี
หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี สภ.บางปลาม้า ปลัด อ. บางปลาม้า รพ.บางปลาม้าสาธารณสุข อ. บางปลาม้า นายก อบต.วัดาว กำนัน ต.วัดดาว อสม. รพสต. ตำบลวัดดาว ร่วมตรวจคัดกรองบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รายละเอียดดังนี้
1.ชาย อายุ 45 ปีสัญชาติเมียนม่าร์ ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองทางช่องทางธรรมชาติ
2. เดินทางจากอำเภอแม่สอดจังหวัดตากเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14:00 น. ขึ้นรถตู้สายแม่สอด-ตาก เข้าตัวเมืองจังหวัดตาก
3. ต่อจากนั้นเวลา 17.00 น.ขึ้นรถบัสสาธารณะจากจังหวัดตากสายเชียงใหม่-กาญจนบุรี
4. ลงรถที่ บ.ข.ส. จังหวัดสุพรรณบุรีเวลา 04.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563
5. นั่งรถเมล์เครื่องจาก บ.ข.ส.สุพรรณบุรี เข้าบ้านพัก หมู่ 1 ตำบลวัดดาวอำเภอบางปลาม้าจังหวัดสุพรรณบุรี มีนางเอ๋ ( นามสมมติ ) ซึ่งเป็นภรรยา พักอาศัยอยู่ก่อนแล้ว โดยดำเนินการตรวจ เพื่อหาเชื้อ โควิด-19 และนำตัวอย่างเชื้อเข้าสู่กระบวนการตรวจที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชและการตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ครั้งต่อไป ในวันที่ 14 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลวัดดาวและกำนันตำบลวัดดาวดำเนินการจัด อปพร. เข้าเฝ้าระวังการกักตัวไม่ให้ออกนอกพื้นที่การควบคุม