สธ. แนะคนไป ตลาดกุ้ง ตั้งแต่ 1 ธ.ค. มารับการตรวจหาเชื้อได้ พร้อมเร่งตรวจเชิงรุก ให้ได้ 2-3 พันคน ยังไม่ชัดเจ๊แพปลา ติดจากไหน ย้ำอาหารทะเลกินได้แต่ต้องปรุงสุก

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 19 ธ.ค.63 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศ จากตลาดกลางค้ากุ้ง จ.สมุทรสาคร ว่า ขณะนี้ข้อมูลการระบาดยังเกี่ยวข้องกับตลาดกลางค้ากุ้ง สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อ คือ ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ขณะนี้มีรถเก็บตัวอย่างตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน 3 คัน ลงไปเก็บตัวอย่างแล้ว

ขณะนี้เก็บตัวอย่างได้ 1,449 ราย เป็นคนพม่า 80-90% ผลกำลังทยอยออกมา โดยตั้งเป้าอย่างต่ำให้ได้ 2-3 พันราย หรืออาจถึง 5 พันรายขึ้นกับสถานการณ์ โดยจะนำผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการสอบสวนโรคมาตีวงและคำนวนขอบเขตการระบาด และมีมาตรการเฝ้าระวังใน รพ. คลินิก และร้านขายยา ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการสงสัยให้ส่งตรวจทันที

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครยังจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และสแกนไทยชนะ

“ขณะนี้สมุทรสาครยังจัดการเลือกตั้ง อบจ.วันที่ 20 ธ.ค.ได้ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งยกเลิกจาก กกต. หรือผู้ว่าฯ แต่ต้องมีมาตรการเพื่อความปลอดภัย เน้นย้ำการสวมหน้ากากตลอดเวลา ต่อแถวเข้าคูหาเว้นระยะห่าง 1 เมตร และอย่ารอไปลงคะแนนช่วงท้ายของการปิดหีบ เพราะอาจเกิดความแออัดได้ มีการจัดจุดล้างมือ หากเตรียมปากกาส่วนตัวไปได้ จะช่วยลดการสัมผัสร่วมกัน หรือหากมีสัมผัสขอให้ล้างมือ” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การสอบสวนโรคกรณีหญิงไทยอายุ 67 ปี เจ้าของแพปลาในตลาดกลางค้ากุ้ง จ.สมุทรสาคร ติดโควิด 19 จากการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชนทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม 12 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง รวมเป็น 13 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในครอบครัว 4 ราย ได้แก่ มารดา พี่สาว น้องสะใภ้ และคนที่มาทำงานด้วย คนที่เกี่ยวข้องกับตลาดกลางค้ากุ้ง 5 ราย ได้แก่ ลูกจ้าง ภรรยาของลูกจ้าง คนทำงานแพปลาข้างๆ ลูกจ้าง และผู้มาซื้อของ

ส่วนอีก 3 ราย อาศัยอยู่ใกล้กับตลาดค้ากุ้ง 2 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 1 ราย ทำให้ประเมินได้ว่ามีการติดเชื้อในคนที่ทำงานในตลาดเดียวกัน ตลาดข้างเคียง และคนในครอบครัว ส่วนการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งและตลาดทะเลไทยระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค. จำนวน 1,449 ราย ผลการตรวจจะทยอยออกมา

“สถานการณ์ขณะนี้คนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และจะไปใช้บริการ ต้องมีการป้องกันตนเอง สิ่งที่ต้องปฏิบัติต่อเนื่อง คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก โดยพื้นที่ตลาดต้องเป็นพื้นที่สวมหน้ากาก 100% และถอดเมื่อจำเป็นขณะรับประทานอาหาร และการล้างมือ โดยจัดจุดล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งหมดจะช่วยป้องกันความเสี่ยงทั้งป้องกันการรับเชื้อกรณีที่ยังไม่ติดเชื้อ หรือในรายที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการจะช่วยลดโอกาสการแพร่เชื้อไปยังบุคลลอื่นๆ” นพ.โสภณกล่าว

นพ.โสภณ กล่าวว่า อาหารทะเลสามารถรับประทานได้ตามปกติ เนื่องจากการป้องกันโรคที่สำคัญ คือ การปรุงสุกร้อนที่สามารถฆ่าเชื้อได้รวมถึงเชื้อก่อโรคโควิด 19 และคงมาตรการส่วนบุคคล คือ กินร้อนใช้ช้อนกลางส่วนตัว และใส่หน้ากากเมื่ออยู่พื้นที่สาธารณะ

ส่วนเหตุการณ์ตลาดกลางกุ้งมีความแตกต่างจากกรณีการระบาดของตลาดในเมืองอู่ฮั่น เนื่องจากขณะนี้เรารู้จักโรคโควิด 19 มากขึ้น และมีวิธีในการป้องกัน นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีการปรับอากาศ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี การปิดทำความสะอาดทำให้ลดความเสี่ยงลงจนเป็นปกติ การไปใช้บริการไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่ แต่เกี่ยวกับบุคคลในสถานที่ที่ต้องร่วมกันป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งเรารับมือได้ดีกว่าเหตุการณ์อู่ฮั่นในช่วงแรกที่ยังไม่มีการป้องกัน

เมื่อถามถึงกรณีรมว.สธ.ระบุว่าการติดเชื้อของเจ้าของแพปลาอาจมาจากแรงงานพม่า นพ.โอภาส กล่าวว่า การสอบสวนโรคต้องอาศัยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งตลาดกลางค้ากุ้งมีแรงงานต่างชาติจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปว่าเป็นสาเหตุได้ ต้องนำหลักฐานอื่นๆมาประกอบ รวมถึงจะมีการถอดรหัสพันธุกรรมด้วยแต่ต้องใช้เวลา และต้องรอดูข้อมูลทั้งหมดด้วย

เพราะอย่างกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อใน ASQ ผู้ป่วยรายแรกก็ไม่ได้เป็นต้นตอที่ติดเชื้อคนแรก แต่แค่มีอาการแสดงก่อน จึงต้องรอข้อมูลทั้งหมดมาประกอบกัน สำหรับผู้ที่ไปตลาดมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. หากมีอาการสงสัยสามารถขอรับการตรวจที่รพ.ใกล้บ้านได้ ส่วนการเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวในจังหวัดอื่น ก็มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง อย่างสมุทรสาครก็เคยมีการตรวจเชิงรุกเป็นหมื่นคนแต่ไม่พบเชื้อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน