ศบค.ขอประเมินอีก 7 วัน ถ้า ‘โควิด’ ยังระบาดไม่หยุด จ่อเพิ่มมาตรการเข้มขึ้นแน่ ยืนยันช่วงปีใหม่ไม่ล็อกดาวน์ ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 29 ธ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 155 ราย ติดเชื้อในประเทศ 134 ราย ติดเชื้อในแรงงานต่างอีก 11 ราย และอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 10 และมีเสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยหายป่วยแล้ว 4,180 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 2,195 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 6,440 ราย ติดเชื้อในประเทศ 4,447 ราย และติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 1,381 ราย

สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อในตอนนี้รวมแล้ว 45 จังหวัด แยกเป็นช่วงวันที่ 18-20 ธ.ค.มี 6 จังหวัดติดเชื้อ วันที่ 21-23 ธ.ค. เพิ่มเป็น 26 จังหวัด วันที่ 24-26 ธ.ค. เพิ่มเป็น 37 จังหวัด และวันที่ 27-29 ธ.ค. เพิ่มเป็น 45 จังหวัด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในกรณีที่บุคคลใดทราบว่าตนเองได้เคยเดินทางเข้าไปในพื้นที่มีการติดเชื้อ ขอให้กักตนเองและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น เป็นระยะเวลา 14 วัน หากพบว่ามีอาการผิดปกติขอให้พบแพทย์

นอกจากนี้ ศปก.ศบค.ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ดำเนินการตามประเด็นที่เน้นย้ำขอความร่วมมือ หลังจากนี้ประมาณ 7 วัน ศปก.ศบค.จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) จะพิจารณาขออนุมัติ ศบค.เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้น

“ยืนยันในช่วงปีใหม่จะไม่ล็อกดาวน์ ยกเว้นบางพื้นที่อย่างพื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างสมุทรสาคร อาจมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น”นพ.ทวีศิลป์กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีผู้เสียชีวิตที่จ.ระยอง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค เป็นชายอายุ 45 ปี มีโรคประจำตัวโรคเบาหวาน และขาดยา อีกทั้งเป็นโรคหัวใจขาดเลือด นอกจากนี้พบประวัติเสี่ยงทำงานในพื้นที่เสี่ยงสูงและไม่ถูกกฎหมาย จึงติดตามมาหาเชื้อและพบติดโควิด-19 จากนั้นวันที่ 28 ธ.ค. ผู้ป่วยหอบเหนื่อยและหยุดหายใจ แพทย์ปั๊มหัวใจ 30 นาที แต่ช่วยเหลือไม่ได้ โดยอยู่ระหว่าชันสูตรหาสาเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน