ลุ้น 31 ม.ค. ศบค.ตัดสินวางแผน จะผ่อนคลายกิจกรรม-เพิ่มมาตรการเข้มขึ้น เผยยอดโควิดเพิ่มขึ้นอีก 142 ราย เจอติดเชื้อจากการมารพ.สูงขึ้นถึง 88 ราย
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันนี้ (21 ม.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ทั่วโลกสะสม 97 ล้านกว่าราย เพิ่มขึ้น 6 แสนกว่าราย ประเทศไทยเพิ่มขึ้น 142 ราย ทำให้ตัวเลขสะสมรวม 12,795 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม หากนับเฉพาะระลอกใหม่ ติดเชื้อสะสม 8,558 ราย หายป่วยเพิ่ม 21 ราย หายป่วยสะสม 5,902 ราย ยังรักษาอยู่ 2,645 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 11 ราย เสียชีวิตสะสม 11 ราย
- อ่าน โควิด วันนี้ ยอดหลักร้อยอีกครั้ง ห่วง กทม.ระบาดกระจาย
- อ่าน อาการ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ศิริราช ประเมินเนื้อปอดเหลือพอหายใจเองหรือไม่
- อ่าน หนุ่มเชียงราย แจงกักตัวนาน 15 วัน ยังเจอโควิด ยันไม่ได้ตระเวนเที่ยว
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น ติดเชื้อในประเทศ 125 ราย โดยมาจากระบบเฝ้าระวัง 88 ราย ถือว่าวันนี้พบเยอะกว่าการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนที่พบเพียง 37 ราย และมาจากต่างประเทศ 17 ราย เมื่อวานที่ว่าตัวเลขลดลงก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะวันนี้เพิ่มขึ้นมาสูงกว่าวันก่อน ยังขึ้นๆลงๆ ก็ยังต้องควบคุมโรคให้ได้
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น 1.ผู้สัมผัสสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 88ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 63 ราย กทม. 14 ราย อ่างทอง 4 นนทบุรี 2 ราย เชียงราย ปทุมธานี ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี จังหวัดละ 1 ราย 2.ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 37 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 29 ราย ปทุมธานี และจันทบุรี จังหวัด 3 ราย และ กทม. 2 ราย และ 3. เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ได้แก่ ตุรกี อินเดีย สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ประเทศละ 3 พม่า 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน และญี่ปุ่น 1 ราย
“การติดเชื้อในกทม. ยังไม่รวมกรณีดีเจมะตูมที่มีการรายงานเข้ามา สำหรับการตรวจเชิงรุกโรงงานใน จ.สมทุรสาคร ยังต้องทำต่อเนื่อง ตรวจวันละ 2-3 พันราย หรือประมาณ 50 คนต่อโรงงาน ให้ได้ 60 โรงงานต่อวัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจอแรงงานจังหวัดข้างๆ เช่น ราชบุรีติดเชื้อ เนื่องจากมาทำงานสมุทรสาครกลับไปกลับมาและมีการติดเชื้อ แม้คุมเข้มการเดินทางแต่ก็ไม่ได้ 100% ดังนั้น ระบบการตรวจหาเจอให้เร็วจึงสำคัญ ใครที่มีอาการต่างๆต้องรีบมาตรวจ หรือไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย แต่สงสัยก็ต้องรีบมาตรวจ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนกรณีคนไทยจะกลับมาจากมาเลเซียมากขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ มาเลเซียประกาศภาวะฉุกเฉิน ปิดหลายรัฐ แต่มีข้อกำหนดคืออนุญาตแรงงานต่างด้าว รวมทั้งคนไทยอยู่ในประเทศได้ โดยเลื่อนระยะเวลาตรวจเข้มออกไป มีแนวโน้มให้ทุกคนอยู่ในที่ตั้ง ไม่ให้เดินทางข้ามรัฐข้ามเขตแดนเช่นกัน ก็คงจะสบายใจระดับหนึ่ง ไม่เหมือนคราวก่อนที่ปิดแล้วคนไทยพยายามกลับมา ทำให้ด่านชายแดนมีคนมาออกันมากๆ ตอนนี้สถานการณ์แตกต่างกัน ขอให้คนไทยในมาเลเซียถ้ายังไม่จำเป็นเคลื่อนย้ายก็อยู่ในประเทศเขา ก็จะได้รับการดูแลในพื้นที่เช่นกัน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนกรณีนครพนมพบติดเชื้อวันก่อน มาจากการรับทราบว่าคนติดเชื้อ 2 รายใน กทม. มีไทม์ไลน์มาจากนครพนม โดยมีประวัติเชื่อมโยงมาจากผู้ติดเชื้อที่ติดมาจากบ่อนระยอง ทีมสอบสวนโรคจึงมีการตามหาผู้สัมผัสในนครพนม พบว่า เป็นคือหญิงอายุ 51 ปี อาชีพขายอาหาร นำมาตรวจและพบติดเชื้อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหญิงคนนี้ไม่ทราบทำให้มีผู้สัมผัสอาจเกือบเป็นพันราย ตอนนี้เฝ้าระวัง ผลตรวจออกมาหลายร้อยรายแล้วเป็นลบ ส่วนคนเสี่ยงสูง 10 กว่าราย ผลออกมาเป็นลบอยู่
“ส่วนที่ถามว่าระลอกใหม่แรงกว่าระลอกแรกไหม หากดูจากการเสียชีวิตระลอกแรกติดเชื้อ 4,237 ราย เสียชีวิต 60 ราย คิดเป็น 1.42% ระลอกใหม่ติดเชื้อ 8,416 ราย เสียชีวิต 11 ราย คิดเป็น 0.13% น้อยกว่าครั้งแรก อายุเฉลี่ยผู้เสียชีวิตระลอกแรกอยู่ที่ 58 ปี ระลอกใหม่อายุ 56 ปี ถือว่าใกล้เคียงกัน สัดส่วนอายุน้อยกว่า 60ปี ระลอกแรกมี 33 ราย ระลอกใหม่ 5 ราย อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ระลอกแรก 27 ราย ระลอกใหม่ 6 ราย อัตราส่วนเป็นชายมากกว่าหญิง โดยระลอดแรกอยู่ที่ 3.3 : 1 ระลอดใหม่อยู่ที่ 4.5 : 1 โรคประจำตัวระลอแรก 77.4% ระลอกใหม่ 88.9% โดยเบาหวานพบมากทั้ง 2 ช่วง คือ 51.2% และ 62.5% ความดันโลหิตสูง 53.7% และ 37.5% ไขมันในเลือดสูง 22% และ 25%” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้สมุทรสาครเจอเพิ่ม 92 ราย ยอดรวม 4,775 ราย กทม.ยังเป็น 2 หลัก คือ 16 ราย แต่ประชากรมีถึง 10 ล้าน ถือว่าเยอะไหม ก็หารือกันอยู่ เนื่องจาก กทม.เป็นแหล่งเดินทางได้ง่าย ไปได้ทั่วทุกที่ในประเทศ จึงต้องเพ่งเล็งมาตรการต่างๆ ไม่หย่อนไปกว่าสมุทรสาคร ส่วนจังหวัดอื่นๆ จำนวนมาก ยังเป็นตัวเลขไม่พบเชื้อ ขอให้ทุกคนช่วยกันให้เกิดขึ้นในทุกจังหวัด แต่ที่พบเพิ่มวันนี้ คือ เชียงราย ที่มีรายงานเชื่อมโยงการเที่ยวในสถานบันเทิง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะชี้แจงไทม์ไลน์ต่อไป ทำให้ภาพรวมมีการติดเชื้อเพิ่ม 1 จังหวัด รวมเป็น 63 จังหวัด
“ภาพตอนนี้ยังทรงๆ ไม่ได้ว่าจะวางใจ ขอให้เข้มการป้องกันโรคถึง 31 ม.ค.นี้ ซึ่ง ศบค.จะประชุมก่อนสิ้นเดือนนี้ เพื่อวางแผนใหม่ นำมาสู่การออกแบบพื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เสี่ยง ตัดสินใจว่าจะผ่อนคลายหรือเข้มมาตรการขึ้น ซึ่งไม่ได้ขึ้นกับภาคใด แต่ประชาชนมีส่วนร่วมกันด้วย หากอยากผ่อนคลายกิจการต้องช่วยกันจนถึงวันนั้น” นพ.ทวีศิลป์กล่าว