นราธิวาส สั่งปิดสถานที่เสี่ยงแพร่โควิดเพิ่ม หลังพบระบาดหลายอำเภอ

ผู้ว่าฯ นราธิวาส สั่งปิดสถานที่เสี่ยงแพร่ โควิด-19 เพิ่มเติม หลังพบระบาดในหลายเขตพื้นที่อำเภอ และมีแนวโน้มขยายออกไปในวงกว้าง

วันที่ 7 พ.ค.2564 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดนราธิวาสได้มีคำสั่งปิดสถานที่ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเขตพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ไปแล้ว 3 ชุมชน 6 สถานที่ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายเขตพื้นที่อำเภอของ จ.นราธิวาส มีแนวโน้มจะแพร่ระบาดขยายออกไปในวงกว้าง

นายเจษฎา กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงมีคำสั่งให้ปิดสถานที่เพิ่มเติม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตามมติที่ประชุมวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ดังต่อไปนี้ ให้ปิดสถานที่ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในเขตพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ได้แก่ สวนมงกุฎยลธารา หาดบ้านทอน รวมถึงตลาดนัดเอกชนบ้านทอนทุกแห่ง ต.โคกเคียน อ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน ต.กะลุวอเหนือ,

อ.ตากใบ ได้แก่ สะพานคอยรอยปี หาดเกาะยาว หาดเสด็จ ต.เจ๊ะเห เกาะปูลาบีช หาดบ้านคลองตัน ต.ศาลาใหม่ ทะเลน้ำแบ่ง ต.ไพรวัน, อ.ยี่งอ ได้แก่ จุดชมวิวเขายือลาแป น้ำตกพุเสด็จ ต.ตะปอเยาะ, อ.บาเจาะ น้ำตกปาโจ ต.บาเจาะ, อ.รือเสาะ ได้แก่ น้ำตกยือลาแป น้ำตกตาเปาะ ต.สุวารี, อ.ระแงะ น้ำตกซีโป ต.เฉลิม และ อ.สุไหงปาดี ได้แก่ น้ำตกฉัตรวาริน ต.โต๊ะเด็ง น้ำตกบือราแง ต.ริโก๋ น้ำตกสายรุ้ง ต.สากอ

ทั้งนี้ ห้ามผู้ใดเข้าออกสถานที่ตามที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 11-20 พ.ค.2564 เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและได้รับอนุญาต/ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอแห่งท้องที่ จ.นราธิวาส มีคำสั่งปิด หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ