เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 11 ราย แจงคลัสเตอร์เรือนจำ ขอให้ประชาชนมั่นใจระบบ Bubble & Seal ไม่มีการระบาดสู่ภายนอก ยกเว้นอาการหนักจะนำส่ง รพ.

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2564 ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือน เม.ย.

นายทรงยศ กล่าวว่า วันนี้ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 11 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,011 ราย รักษาหายแล้ว 3,536 ราย คิดเป็นร้อยละ 88 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ส่วนผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 459 ราย โดยแยกเป็น โรงพยาบาลสนาม 296 ราย โรงพยาบาลรัฐ 117 ราย โรงพยาบาลเอกชน 46 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 16 ราย คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.40

ส่วนผู้ที่ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 344 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 75 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 28 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 12 ราย

การตรวจหาเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงวันนี้ ได้ทำการตรวจไปทั้งหมด 1,047 ราย พบผู้มีผลบวกร้อยละ 1.24 ลดลงจากเมื่อวานนี้อย่างชัดเจน และเมื่อแยกตามจุดตรวจยังคงพบว่าเป็นโรงพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน มีสัดส่วนการพบผู้ติดเชื้อไม่แตกต่างกัน ร้อยละ 8.41 และ 8.24 ตามลำดับ

นายทรงยศ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการสอบสวนความเสี่ยง ยังคงพบว่าการสัมผัสในครอบครัวยังเป็นสาเหตุหลักของการระบาดในช่วงนี้ การสัมผัสในชุมชน และสถานที่ทำงาน ยังคงพบผู้ติดเชื้ออยู่ประปราย โดยข้อมูลสะสมการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยละ 25.4 จึงขอให้เพิ่มความระวัง การสนิทสนมกันในครอบครัวในหมู่ญาติ จนละเลยการป้องกันโรคได้ โดยเฉพาะการเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ โดยไม่รักษาระยะห่าง หรือไม่สวมหน้ากากอนามัย เป็นเรื่องที่ไม่ควรปฏิบัติในขณะนี้

สำหรับสถานการณ์การระบาดในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ และการใช้ระบบควบคุมโรคแบบ Bubble & Seal นั้น ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ เนื่องจากเป็นระบบการป้องกันและควบคุมพื้นที่เฉพาะ ทั้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือนจำและผู้ต้องขังทุกคน ต้องอยู่ในระบบควบคุมพื้นที่เฉพาะ ดังนั้นจึงไม่มีการแพร่ระบาดสู่ภายนอกหรือชุมชนได้ การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะทำอยู่ในโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ ยกเว้นผู้ที่มีอาการหนัก ที่จะถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

นายทรงยศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการตรวจคัดกรองเชิงรุก เมื่อวานนี้ (16 พ.ค. 64) ทีมควบคุมโรคอำเภอสันป่าตอง ได้ลงพื้นที่เชิงรุกตรวจคัดกรองประชาชนบ้านสันจิกุ่ง ต.ทุ่งต้อม จำนวน 129 ราย ผลไม่พบเชื้อ แต่บางส่วนที่เสี่ยงสูงก็ยังคงต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ได้ตั้งจุดสุ่มตรวจคัดกรองที่เทศบาลเมืองแม่เหียะ ในกลุ่มเสี่ยงจากห้างบิ๊กซี และแมคโครแม่เหียะ จำนวน 170 ราย ซึ่งจะทราบผลในวันพรุ่งนี้

สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อตามคลัสเตอร์ต่างๆ วันนี้มีคลัสเตอร์ที่ปลอดภัยแล้วคือภายใน 28 วัน หลังพบผู้ป่วยรายสุดท้าย ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ มี 2 คลัสเตอร์ คือ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยพายัพเทคโนโลยี และมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ 16 คลัสเตอร์ ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ แต่ยังมีเหตุการณ์ที่เฝ้าระวัง 1 สถานการณ์ ที่อำเภอจอมทอง พบผู้ติดเชื้อที่เป็นเครือญาติกัน 6 ราย ทำการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง 27 ราย โดยจะมีการแจ้งผลให้ทราบต่อไป หากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มก็จะมีการประกาศเป็นคลัสเตอร์ใหม่ต่อไป

โดยรวมสถานการณ์ของเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น โดยมีมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆมากขึ้น การจองฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรเชียงใหม่ทั้งหมดจะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น วันนี้ยอดการจองวัคซีนสูงขึ้นเป็น 86,371 ราย โดยจองผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม 61,008 ราย และให้ อสม./เจ้าหน้าที่ ดำเนินการจองให้ 25,363 ราย หากประชากรของเชียงใหม่ฉีดวัคซีนได้มากกว่าร้อยละ 70 จะทำให้วิถีชีวิตปกติกลับคืนมา

ด้านนายกนก กล่าวถึง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับตลาดนัด / หาบเร่ แผงลอย โดยจังหวัดเชียงใหม่ยังคงให้ปิดสถานที่ใดๆ ที่จำหน่ายสินค้าที่มีสถานะชั่วคราว เช่น การเปิดท้ายขายของ สถานที่มีรถเร่ มารวมกันขายของใช้ประจำวันตามหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ ที่เป็นลักษณะครั้งคราว เว้นแต่เป็นการดำเนินการที่ทางราชการกำหนด

ประการที่สอง ตลาดนัดที่เปิดได้ จะต้องมีลักษณะที่เปิดขายเป็นประจำ เช่น ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ หรือวันอังคาร วันพฤหัสบดี และมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าคนเดิมหรือเจ้าประจำทำการขาย โดยมิให้พ่อค้าแม่ค้าขาจรเข้ามาร่วมขาย เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เดินทางไปขายหลายพื้นที่ จึงเสี่ยงต่อการสัมผัสหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

ทั้งนี้ ให้ดำเนินมาตรการตามสุขลักษณะในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 และมาตรการที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เช่น การคัดกรองอุณหภูมิ การเว้นระยะห่างและระยะจุดที่ขาย การบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยและมีที่ล้างมือ รวมถึงการทำความสะอาดสถานที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และสร้างความเข้มแข็งให้กับจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน