รวบโจรแสบ โปรยเสน่ห์หนุ่ม รูดทรัพย์ในผับ แฉประวัติสุดโชกโชน

สืบทองหล่อ ตามรวบโจรแสบ โปรยเสน่ห์ ก่อนรูดทรัพย์หนุ่มในผับ ย่านทองหล่อ พบประวัติสุดโชกโชน เคยมอมยาชาวต่างชาติ ได้ไปร่วม 3 ล้าน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2564 ที่สน.ทองหล่อ รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รองผกก.สส. พ.ต.ท.อัครพล ธนธรรม พ.ต.ต.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ สว.สส. พ.ต.ต.กิตติเชษฐ์ กิติสาร สว.(สอบสวน) ร.ต.อ.สมยศ หมาดสง่า รองสว.สส.สส. และด.ต.รัชพล วิจิตร ผบ.หมู่ สส.สน.ทองหล่อ

• อ่าน คนแก่ยังไม่เว้น! ตร.เร่งล่าตัวโจรเหี้ยม ทุบยาย78 ดับ ชิงเงินในกระเป๋าเสื้อ
• อ่าน ทลายโกดัง ถุงมือแพทย์เถื่อน ย่านลำลูกกา ยึด 19 ล.ชิ้น มูลค่า 500 ล.
• อ่าน ตร.รถไฟ จับหนุ่มสุราษฎร์ฯ โดนหมายคดีหมิ่นอดีตแม่ทัพภาค 4

ร่วมกันจับกุมนายภิญญาพัชญ์ กรประภาพรรณ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาสาวประเภทสอง ก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวตามผับ จับกุมได้บริเวณกลางซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 64 ตำรวจสน.ทองหล่อ รับแจ้งจากสถานบริการแห่งหนึ่ง ในซอยทองหล่อ 10 ว่ามีคนร้ายเป็นสาวประเภทสองทำทีเป็นนักท่องเที่ยว จากนั้นได้เข้าไปตีสนิทนักเที่ยวชายรายอื่นในร้าน ก่อนก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือแล้วหลบหนีไปถึง 3 ครั้ง ภายในช่วงเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา

ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปพูดคุยและขอชนแก้วกับผู้เสียหาย ก่อนใช้มือล้วงหยิบทรัพย์สินในกระเป๋าหลังกางเกงของเหยื่อ แล้วเดินออกมาพร้อมกับถือสิ่งของบางอย่างมาด้วย

ส่วนอีก 2 ครั้ง ทางผู้ต้องหาได้เข้าไปทำทีตีสนิทด้วยการขอแลกไลน์ โดยผู้ต้องหาจะขอโทรศัพท์ของเหยื่อมาทำทีเปิดเครื่องสแกนคิวอาร์โค้ด ก่อนจะเดินหลบหนีพร้อมกับเอาโทรศัพท์ไปด้วย เมื่อเหยื่อรู้ตัวก็อ้างว่าคืนให้กับเพื่อนของผู้เสียหายไปแล้ว

จากนั้นทางตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่รปภ. ของร้านให้ตรวจสอบบัตรประชาชนลูกค้าที่มาใช้บริการ กระทั่งพบนายภิญญาพัชญ์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง มีรูปพรรณตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิด จึงขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับที่ จ.127/2564 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2564 ในความผิดฐานลักทรัพย์ ก่อนตามไปจับกุมได้ในที่สุด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียง 2 ครั้ง และไม่หางานทำเพราะก่อเหตุได้เงินดี มีเงินเก็บจากการก่อเหตุร่วมแสนบาท ซึ่งโทรศัพท์มือถือที่ได้ทั้ง 2 เครื่อง เป็นไอโฟน 10 และไอโฟน 11 โปร ได้นำไปขายที่ร้านย่านรามคำแหง ราคาเครื่องละ 6,000 บาท ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกจำคุกมาแล้ว 4 ครั้ง ในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ และครั้งล่าสุด เมื่อปี 2555 ถูกตำรวจจับกุมหลังร่วมกับเพื่อนสาวประเภทสอง อีก 2 คน ก่อเหตุตระเวนมอมยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อปลดทรัพย์ มูลค่าของกลางร่วม 3 ล้าน และพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2557

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ในเวลากลางคืน” ก่อนนำตัวส่งพรักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป