ผู้ต้องหาแก๊งแทงนักศึกษาปทุมวัน อีก 7 ราย จ่อเข้ามอบตัวที่ศูนน์สืบนครบาลพรุ่งนี้ พบมูลเหตุจากการปีนรั้วยั่วยุทำคอนเทนต์ก่อนวันสถาปนา

วันที่ 30 ม.ค. 67 ที่ บก.สส.บชน. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ. รอง ผกก.สอบสวน สน.ปทุมวัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาล บก.น.6 และ สน.ปทุมวัน

ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว 1. นายณัฐพร หรือ โต้ 9 นิ้ว อายุ 19 ปี หัวโจกของแก๊งผู้ก่อเหตุ 2. นายธีรทัศน์ อายุ 21 ปี 3.นายการัณย์ อายุ 19 ปี ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

จากการสอบสวนทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้รวมตัวกันที่วิทยาลัยอุเทนถวาย ก่อนจะออกไปด้วยกันทั้งกลุ่ม ส่วนที่เดินไปถ่ายรูปหน้าป้ายวิทยาลัยปทุมวันนั้น เป็นแค่การเดินผ่านเพื่อไปกินข้าว ถ่ายเล่น ๆ ไม่ได้ไปยั่วยุ แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า จากภาพวงจรปิดพบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นคู่อริช่างกลอยู่บริเวณป้ายหน้าสถาบันฯทั้งหมดได้แสดงอาการยั่วยุ โดยมีชายทราบชื่อต่อมาว่า นายโต้ ปีนขึ้นบนรั้วของสถาบันฯ เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์จนมีผู้เสียชีวิต

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการซ่องสุ่มกันและออกมาก่อเหตุ โดยซุกอาวุธมีดใต้รองเท้าเพื่อยากต่อการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ ล่าสุด ผบช.น.เดินเกมเงียบ เปิดปฏิบัติการปิดเมืองไล่ล่ามือฆ่า นำกำลังสืบนครบาล สืบ6 และ สน.ปทุมวัน นำหมายค้นบุก “ทลายรังปลวก” 7 แห่ง หาตัวผู้ร่วมก่อเหตุ มารับโทษตามกฎหมายและไม่มีการละเว้น

สำหรับคดีดังกล่าวได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 รายในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเรียบร้อยแล้ว พร้อมตรวจค้นทั้งหมด 7 จุด พบของกลางเป็นมีด กล่องใส่มีด และรองเท้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุ และพบผู้ต้องหา 3 ราย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีเจตนายั่วยุชัดเจน และยังมีการพกพาอาวุธเตรียมไว้ด้วย

ขณะที่บาดแผล 7-9 แห่งของผู้เสียชีวิตล้วนเป็นจุดสำคัญของร่างกาย จึงถือว่ามีเจตนาฆ่าผู้อื่นชัดเจน ส่วนมีดของผู้เสียชีวิตนั้นยังไม่พบ โดยมูลเหตุเกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจปีนรั้วเข้าไปถ่ายรูปกับดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอีกสถาบัน เพื่อยั่วยุ

ทั้งยังพบว่าได้ซุกซ่อนอาวุธมีดไว้ในรองเท้า เพื่อสร้างการยอมรับในกลุ่มก่อนถึงวันสถาปนาสถาบันฯที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ขณะที่กลุ่มผู้ตายที่อยู่ในสถาบันเห็นเข้าและรู้สึกว่าถูกหยาม จึงออกมาตรวจสอบก่อนเกิดเหตุในเวลาต่อมา เชื่อว่ายังมีคนที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังอีก ซึ่งจะขยายผลติดตามต่อไป

กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ถูกออกหมายจับทั้ง 9 คน มี 2 คนที่ยังมีสภาพเป็นนักศึกษา ส่วนอีก 7 รายพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว เคยเรียนจริงแค่ 1 เทอม แต่จะพยายามรวมตัวกันเพื่อชักชวนรุ่นน้องที่ยังเรียนอยู่ให้เข้าร่วมกลุ่ม เปิดเซฟเฮ้าส์ไว้หลาย ๆ ที่รวมตัว และปลูกฝังค่านิยมผิด ๆ

ทั้งนี้ได้รับรายงานจากผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันว่า ได้รับการติดต่อจากทนายความของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าจะนำตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดเข้ามอบตัวที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลในวันพรุ่งนี้ เวลา 13.00 น.

ส่วนในวันสถาปนาสถาบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ แล้วพบว่ามีนักศึกษาของทั้งสองสถาบัน โพสต์โซเชียลท้าทายกันนั้น ยืนยันว่าตำรวจจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด โดยได้สั่งการให้ทางฝ่ายสืบสวน ปราบปราม ฝ่ายจราจร รวมถึงตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวให้ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด

ทั้งตั้งด่านก่อนเข้างาน และตรวจสอบอย่างเข้มงวดตลอด 3 วันจนถึงวันสถาปนา และทางบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะดำเนินการอย่างถึงที่สุดเพื่อกวาดล้างกลุ่มแก๊งดังกล่าวที่มีแผนประทุษกรรมในลักษณะเดียวกัน

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า อยากให้สถานศึกษาเป็นสถานที่สำหรับปลูกฝังความรู้ให้กับเยาวชน ฝากไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสองกลุ่มหากยังมีการแก้แค้นกันไปมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการกวาดล้างแล้วจะไม่มีโอกาสเข้าไปศึกษาเล่าเรียนได้อีก

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่ามีเด็กนักเรียนมัธยมใส่ขาสั้น ที่เริ่มมีพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจนครบาลทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพมานครให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน