นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมรุกหนักทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ และจะต่อเนื่องถึงกลางปี 2560 เพราะเชื่อว่ากำลังซื้อจะเริ่มกระเตื้อง นับตั้งแต่ปลายปีนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลการจับจ่ายใช้สอย และกลับมาเกือบทั้งหมดในช่วงหน้าร้อน โดยจะมุ่งเน้นทำตลาดในกลุ่มทีวี ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ เพราะเห็นว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ และโอกาสในการทำตลาด เพื่อจะรักษายอดขายของบริษัทในรอบปี 2559 (เม.ย.2559-มี.ค.2560) ให้เท่ากับปี 2558 และผลักดันยอดขายให้กลับมาเติบโตปี 2560 ที่ 5%

ด้านนายณัฐพงษ์ อารีกุล กรรมการ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และการปรับโครงสร้างสินค้ากลุ่มไอที ทำให้ในปี 2559 ยอดขายของบริษัทจะยังไม่เติบโตเช่นเดียวกับปี 2558 ที่ยอดขายไม่เติบโต แต่ในปีหน้าจะเร่งผลักดันยอดขายให้กลับมาเติบโตให้ได้ในรอบ 2 ปี ซึ่งจะเริ่มรุกหนักตั้งแต่ปลายปี เพื่อปูพรมไปถึงปีหน้า โดยการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นกับแคมเปญซีซั่น ออฟ กิ๊ฟวิ่ง จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษเน้นสินค้าที่เหมาะกับเป็นของขวัญ อย่าง เครื่องครัว และของใช้ในบ้านชิ้นเล็ก น่าจะกระตุ้นยอดขายได้ดี

201611241511152-20041021144951

พร้อมกันนี้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มที่จะเน้นหนัก เริ่มจากปลายปีนี้จะเปิดตัวตู้เย็นใหม่ 6 รุ่นเน้นตู้เย็น 2 ประตู เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 32% ส่วนกลุ่มทีวีจะเปิดตัว 5 รุ่นใหม่ เป็นทีวี เอชดี 4 เค ทั้งหมด 2 ซี่รี่ส์ และในปีหน้าทั้งปีจะเปิดอีกมากกว่า 20 รุ่น และเน้นทีวี 4 เค โดยคาดว่าตลาดทีวีจะกลับมาเติบโตในปีหน้า หลังจากปีนี้ตลาดทีวีมูลค่า 24,000 ล้านบาท ติดลบ 5% แต่ในปีหน้าจากการมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง ทีวี 4 เค ที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจ ทำให้แนวโน้มการเปลี่ยนจากสมาร์ททีวีมาเป็นทีวี 4 เค จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดทีวีจะกลับมาเติบโตได้ประมาณ 5% และโตชิบาตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากที่มีอยู่ 10% เป็น 15% ในปีหน้า

นอกจากนี้กลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ เป็นสินค้าที่เติบโตมากถึงเท่าตัวในปีนี้ จะเป็นสินค้าที่จะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงหน้าร้อนปีหน้า โดยโตชิบาจะนำสินค้า 9 รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในหน้าร้อนปีหน้า เพื่อผลักดันส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ 2% ในปัจจุบันเป็น 4% ในปีหน้า และเพิ่มาขึ้นเป็น 10% ภายใน 4-5 ปี ในขณะที่ตลาดเครื่องปรับอากาศปัจจุบันมีมูลค่า 12,000 ล้าน หรือประมาณ 1.2 ล้านเครื่อง เติบโต 10% ในปีนี้ และมีศักยภาพเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะอัตราการครอบครองยังมีเพียง 50% ของครัวเรือนไทย อย่างไรก็ดีการเปิดตัวสินค้าใหม่ของโตชิบาจะขยายเข้าไปสู่สินค้าระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่กำลังเติบโต ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยเองหันมาจับจ่ายในระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน