นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่ากระทรวงมีแนวคิดที่จะก่อสร้างท่าเรือเฟอร์ รี่ บริเวณปากแม่น้ำปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ซึ่งมีพื้นที่ว่างประมาณ 30 ร่ เพื่อใช้สำหรับขนส่งรถยนต์และผู้โดยสาร เนื่องจากมีเส้นทางเชื่อมโยงการขนส่งจากท่าเรือที่สะดวก โดยบริเวณรอบท่าเรืออาจจะมีการพัฒนาสร้างเป็นคอมเพล็กซ์ โรงแรม และช้อปปิ้งมอลล์ เพื่อรองรับและกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัด รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเดินเรือเชื่อมพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยด้านตะวันออก(ชลบุรี) กับฝั่งอ่าวไทยด้านตะวันตก(หัวหิน)อีกด้วย
ก่อนหน้านี้เคยลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ สำรวจพื้นที่จริงเห็นว่ามีศักยภาพมาก ซึ่งแนวคิดของกระทรวงคมนาคมก็สอดคล้องกับผลการศึกษาของทางจังหวัดที่ต้องการให้มีการพัฒนาต่อยอดพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณดังกล่าว ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ชอปปิ้งและแหล่งที่พักด้วย เบื้องต้นจังหวัดเห็นว่าควรมีการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่าผลการศึกษาระบุถึงแนวเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ปากน้ำปราณว่าขณะนี้มี 4 ทางเลือก ซึ่งจากนี้ กรมเจ้าท่าจะต้องกลับศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง ว่าเส้นทางไหนจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของพื้นที่ได้มากที่สุด ประกอบด้วย 1.ปากน้ำปราณ ท่าเรือเกาะลอย จ.ชลบุรี 2.ปากน้ำปราณ-ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี 3.ปากน้ำปราณ-แหลมบารีฮาย จ.ชลบุรี และ 4.ปากน้ำปราณ-ท่าเรือจุดเสม็ด จ.ชลบุรี สำหรับ พื้นที่บริเวณปากน้ำปราณบุรี นั้นมีพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ อยู่ห่างจากอำเภอหัวหินประมาณ 37 กิโลเมตร ซึ่งถือว่ามีพื้นที่กว้าง และอยู่ไม่ไกลมากนัก จึงเหมาะสมพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนได้ด้วย
นายออมสิน กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดเดินเรือเฟอร์รี่ เส้นทางระหว่างอ่าวไทยฝั่งตะวันออก แหลมบาลีฮาย พัทยา จ.ชลบุรี และฝั่งตะวันตก ท่าเรือองค์การสะพานปลา อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า สัปดาห์นี้ทางบริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า(จท.)ให้เดินเรือในเส้นทางดังกล่าว จะนำเรือที่ได้นำไปปรับปรุงในประเทศจีนกลับมาถึงไทย เพื่อเตรียมทดสอบการให้บริการ ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือนมกราคม 2560
บริษัทจะให้บริการเรือ 2 ลำ แต่ในช่วงแรกจะให้บริการ 1 ลำก่อน คือ เช้าไปเย็นกลับ จากนั้นเมื่อเรือลำที่ 2 ปรับปรุงแล้วเสร็จ ก็จะนำมาให้บริการเช้า 2 ลำ คือ ออกจากต้นทางและปลายทางพร้อมกัน และเย็น 2 ลำ จากต้นทางและปลายทางเช่นเดียวกัน ซึ่งตนจะไปร่วมทดสอบก่อนเปิดให้บริการจริงด้วย คาดว่าจะใช้เวลาเดินทาง 1.40 ชั่งโมง โดย เรือ 2 ลำ สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 150 คน และ 262 คน
