บางจากทุ่มงบลงทุน 7.7 หมื่นล้านบาท ใน 4 ปี ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน

บางจากทุ่มงบลงทุน 7.7 หมื่นล้าน – นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจใน 4 ปีข้างหน้า (2562-2565) ว่า บางจากมีแผนลงทุน 77,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มบางจาก ตั้งเป้าหมายมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) โตขึ้น 2 เท่า โดยในปี 2566 คาดมี EBITDA มากกว่า 30,000 ล้านบาท จาก 14,000 ล้านบาทในปี 2560 ภายใต้การขยายการลงทุนในธุรกิจสีเขียว

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช

นอกจากนี้ ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันให้ได้ถึง 135,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2563 จากกำลังการผลิตสูงสุดที่ 120,000 บาร์เรลต่อวันในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าปี 2565 เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจการตลาดเป็น 18% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 15-16% โดยการเพิ่มสัดส่วน EBITDA จากการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ 10% เพิ่มสัดส่วนรายได้ในธุรกิจนอนออยล์ และน้ำมันเครื่องเป็น 30%

“ส่วนแบ่งตลาดของบางจากอยู่ที่อันดับ 2 และเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเรามองว่าส่วนแบ่งตลาดไม่ได้สำคัญที่สุด แต่บริษัทตั้งเป้าหมายความพึงพอใจสูงสุดอันดับ 1 ในใจของผู้ใช้บริการจากดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของลูกค้า”

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ยังตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไบโอดีเซลและเอทานอลรวม 1.8 ล้านลิตรต่อวัน เป็นธุรกิจและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีแผนจัดตั้งไบโอ ฮับในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกทั้งยังมีเตรียมแผนจัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทดแทนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้สัดส่วนรายได้จากพลังงานชีวภาพเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 40% และในอนาคตเชื่อว่าจะมีสัดส่วนสูงกว่ารายได้จากธุรกิจฟอสซิลปัจจุบันอยู่ที่ 60% ของรายได้ทั้งหมด ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บางจากยังอยู่ระหว่างศึกษาพื้นที่และแนวทางลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมในอีอีซีของไทย คาดจะมีความชัดเจนในระยะต่อไป ต่อยอดการลงทุนโรงงานลิเทียม อเมริกา กำลังการผลิตสูงสุด 50,000 ตันต่อปี จากเฟส 1 อยู่ที่ 25,000 ตันต่อปี รองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ 62,500 คันต่อปี

ขณะเดียวกัน ยังขยายการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำที่บริหารโดยบริษัท OKEA ประเทศนอร์เวย์ กำลังการผลิต 25,000 บาร์เรลต่อวัน คาดจะมี EBITDA จากการลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งแสวงหาแหล่งน้ำมันดิบและพลังงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ผันผวน โดยช่วงนี้มองราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และในปี 2562 มีแผนขยายสถานีบริการเพิ่มอีก 80 แห่ง จากปี 2561 มี 1,170 แห่ง รวมเป็น 1,250 แห่ง เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ลดลงจากปีนี้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาร่วมลงทุนมากขึ้น คาดยอดขายน้ำมันปีนี้โตเฉลี่ย 6% หรือ 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค. 2561) อยู่ที่ 333 ล้านลิตรต่อวัน และปี 2562 คาดโต 7-8%

ส่วนแนวโน้มยอดการใช้ B20 ขยายตัวได้ดี เพราะมีผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งรายใหญ่เป็นลูกค้า 43 ราย ทำให้ยอดใช้ B20 เติบโต 2.7 ล้านลิตรต่อเดือน คิดเป็นปริมาณ B100 อยู่ที่ 5.4 แสนลิตรต่อเดือน ขณะที่เป้าหมายมียอดใช้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากนโยบายอุดหนุนราคา B20 ของรัฐบาลในอัตรา 5 บาทต่อลิตรสำหรับรถกลุ่มนี้ เชื่อว่าจะจูงใจให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกเข้าร่วมโครงการมากขึ้น

ปีหน้าตั้งเป้าหมายขยายสาขาร้านกาแฟ อินทนิลทั้งในและต่างประเทศอีก 200 แห่ง จากที่มีแล้วประมาณ 500 สาขา ส่วนร้านสะดวกซื้อสพาร์ (SPAR) ตั้งเป้าเพิ่มอีก 5 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันมี 39 สาขา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน