นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีสินบน โรลส์ รอยซ์ ว่า บริษัทฯ เร่งรวบรวมข้อมูลเอกสารและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้านข้อมูลที่จำเป็น รวมทั้งติดต่อหน่วยงานภายนอกต่างๆ ในการขอรายชื่อคนปตท. ที่เรียกร้องสินบน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งกลับจากหน่วยงานใด บริษัทฯ จึงจะติดตามข้อมูลต่อไป ทั้งยังได้รายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ดปตท.) ทราบเป็นระยะ
นอกจากนี้ ล่าสุดที่ประชุมบอร์ด ปตท. เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงกระบวนการเพื่อป้องกันการทุจริต ได้แก่ ขึ้นทะเบียนนายหน้า จัดระบบการบันทึกการติดต่อในโครงการก่อสร้างและจัดซื้อ เพิ่มการเก็บเอกสารเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ใช้แนวทางในการนำหลักกเกณฑ์เรื่องข้อตกลงคุณธรรม และบริหารต้นทุนมาใช้ในโครงการท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 คลังก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แห่งที่ 2
“ถามว่าวันนี้จะเอาตัวคนผิดมาลงโทษได้เลยหรือไม่ ตอบว่าคงไม่ได้ เพราะวันนี้คงไม่มีใครระบุตัวบุคคลได้ชัดเจนว่า ใครเป็นคนรับสินบน คนจะพูดได้ต้องเป็นคนที่ยอมรับผิดกับกระทรวงยุติธรรม ของสหรัฐเท่านั้น ซึ่งเบื้องต้นปตท. ได้ขอข้อมูลไปยังสหรัฐแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับมา รวมถึงสอบถามไปยังโรลส์ รอยซ์ต้นเรื่องก็ยังไม่ตอบกลับ ส่วนคนที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้นก็เกษียณไปเกือบหมดแล้ว ขณะนี้ทำได้เพียงปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างภายในขององค์กรเพื่อป้องกันการทุจริตในอนาคต”
ส่วนกรณีที่บริษัท ปัญจ์ ลอย ของอินเดีย ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้ติดตั้งหน่วยเพิ่มความดันบนบกและในทะเล หรือ PCS ที่ถือเป็น 1 ใน 6 โครงการที่ตรวจพบการรับสินบนจากโรลส์-รอยซ์ แต่กลับทิ้งงานจนทำให้โครงการหยุดชะงักนั้น ปตท. ได้ให้บริษัทรับเหมาช่วงของปัญจ์ ลอย ดำเนินงานต่อแล้ว ล่าสุดมีความคืบหน้าแล้ว 93%
นายเทวินทร์ กล่าวว่า บอร์ด ปตท. ยังได้อนุมัติงบสำรองลงทุนกว่า 198,612 ล้านบาท นอกเหนือจากงบลงทุนระยะ 5 ปีของบริษัทมูลค่า 338,849 แสนล้านบาท รวมงบลงทุนรวม 537,461 ล้านบาท เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติบริเวณแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุ พัฒนาโครงการแอลเอ็นจีที่จะส่งมายังประเทศไทย ลงทุนต่อยอดเพิ่มมูลค่าจากกิจการปัจจุบัน และลงทุนในธุรกิจใหม่
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันนั้น ปตท. มองแนวโน้มราคาน้ำมันปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สูงขึ้นกว่าปี 2559 เฉลี่ยอยู่ที่ 41.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ราคาน้ำมันปีนี้จะมีเสถียรภาพมากขึ้น ไม่ผันผวนเหมือนปี 2559 โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งหากราคาน้ำมันปีนี้ไม่หวือหวาจะส่งผลดีต่อธุรกิจและต้นทุนการบริหารจัดการของบริษัทฯ
