หลุยซ่า คอฟฟี่ ร้านกาแฟเบอร์ 1 ไต้หวัน บุกตลาดไทย พร้อมสู้แบรนด์ยักษ์ ชูรสชาติพรีเมียม-ราคา 50-70 บาท ประเดิมสาขาแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า ตั้งเป้า 3 ปี เปิด 5 สาขา
หลุยซ่าคอฟฟี่บุกตลาดไทย – นายคริส ฮวง ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท หลุยซ่า คอฟฟี่ คอร์ปอเรท (ประเทศไต้หวัน) จำกัด ผู้บริหารร้านกาแฟหลุยซ่า กล่าวว่า หลังจากได้เห็นศักยภาพของตลาดร้านกาแฟในประเทศไทย ที่มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่อง โดยมูลค่าธุรกิจร้านกาแฟ ปี 2560 มีมูลค่า 21,220 ล้านบาท ปี 2561 มูลค่า 23,470 ล้านบาท และปี 2562 มูลค่า 25,860 ล้านบาท บริษัทจึงได้ขยายธุรกิจร้านกาแฟหลุยซ่า คอฟฟี่ เข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย นับเป็นแห่งแรกในต่างประเทศ ด้วยการร่วมทุนกับนักลงทุนไทย นายวงศ์พันธุ์ เหล่าธรรมทัศน์ จัดตั้งบริษัท หลุยซ่า คอฟฟี่ ประเทศไทย จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท สัดส่วนถือหุ้น 51% คนไทย 49% ไต้หวัน
“ประเดิมเปิดสาขาแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า ใช้งบลงทุนไปประมาณ 5 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะเปิดให้ได้ 5 สาขา เนื่องจากเป็นการขยายออกนอกประเทศครั้งแรก จึงวางธุรกิจนโยบายการขยายร้านจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากมีความพร้อมและความมั่นใจในศักยภาพและกระบวนการขยายสาขาและมาตรฐานคุณภาพของสินค้า ซึ่งร้านหลุยซ่าในประเทศไต้หวัน ใช้เวลา 4 ปี ได้ขยายสาขา 50 ร้านทั่วประเทศ จนปัจจุบันหลุยซ่า คอฟฟี่ มีเครือข่ายสาขา 450 แห่งทั่วประเทศ เป็นอันดับ 1 ในตลาดไต้หวัน”
ด้านนายวงศ์พันธุ์ เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการ บริษัท หลุยซ่า คอฟฟี่ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนไทยขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงต่อการเติบโตของผู้ประกอบการแบรนด์ร้านกาแฟทั้งไทยและต่างชาติจำนวนมาก จึงมั่นใจที่จะลงทุน และเชื่อมั่นในแบรนด์ ตลอดจนรสชาติกาแฟระดับพรีเมียม ด้วยการนำกาแฟพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ คัดสรรจากแหล่งกาแฟท้องถิ่นในประเทศไทยและประเทศลาว พร้อมส่วนผสมชาจากประเทศอังกฤษและไต้หวัน แต่ราคาเหมาะสม ซึ่งราคาอยู่ที่ 50-70 บาท
ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา และกลุ่มคนทำงาน พร้อมกันนี้แผนธุรกิจของบริษัทในระยะต่อไป มีแผนจะขายแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจ โดยจะเริ่มหลังจากมีสาขาในไทยครบ 10 สาขา อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากสมาคมกาแฟไทย สมาพันธ์กาแฟอาเซียน พบว่า ตลาดร้านกาแฟในไทย มีมูลค่าตลาดรวม 17,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านกาแฟทั่วไป 9,000 ล้านบาท และพรีเมียม 8,000 ล้านบาท ชาวไทยมีการบริโภคกาแฟอัตราเฉลี่ย 0.5-1.0 กิโลกรัมต่อคนต่อปี สหรัฐอเมริกา 3.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี สแกนดิเนเวีย 10 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือโดยรวมคาดการณ์ว่า ในระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) การบริโภคเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เป็นกว่า 300,000 ตันต่อปี จึงมองว่ามีศักยภาพที่เติบโตได้อีกมาก
