นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการร่วมงานวันสถาปนาองค์การคลังสินค้า (อคส.) ครบรอบ 62 ปี ว่า อคส. ถือเป็นหน่วยงานหลักและเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานของรัฐบาลมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการทำงานร่วมกับรัฐบาล โดย อคส. กำลังปรับเปลี่ยนการทำงานขององค์กร เข้าสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อทำให้องค์กรสามารถสร้างรายได้ และเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่ง อคส. จะมีส่วนในการสนับสนุน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล

ด้านร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า แผนงานหลักจากนี้จะปรับองค์กรให้สามารถหารายได้และสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยพัฒนาคลังสินค้าที่ อคส. บริหารจัดการดูแลอยู่ให้สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ความคืบหน้าการพัฒนาคลังสินค้าหลักในขณะนี้ ได้แก่ คลังสินค้าธนบุรี 1 กรุงเทพฯ เนื้อที่ราว 20 ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีแผนเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทั้งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ และศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรนั้น กำลังหารือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและทำแผนพัฒนาโครงการ แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา

ส่วนคลังสินค้าราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ เนื้อที่ราว 20 ไร่ มีแผนปรับปรุงเป็นห้องเย็นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถจัดเก็บสินค้าที่มูลค่าสูง ก็อยู่ระหว่างพูดคุยกับผู้จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาโครงการ

“มีโครงการใหม่ที่จะทำเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ อคส. อีกทาง ซึ่งไม่เคยทำอย่างจริงจังมาก่อน มีแผนจะทำให้องค์กรเป็นผู้รับซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรและขายออกไป โดยจะเริ่มกับสินค้าเกษตรที่เคยทำและคุ้นเคย คือ มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนศึกษาและจะส่งเจ้าหน้าที่ของ อคส. ไปเรียนรู้งานกับบริษัทเอกชนที่รับซื้อสินค้าเกษตร ให้รู้จักระบบงาน ทั้งการรับซื้อ-ขาย การตรวจคุณภาพสินค้า การขนส่ง และงานเอกสาร แล้วนำมาปรับใช้ในองค์กรต่อไป”ร.ต.อ.สุธรรมกล่าว

ร.ต.อ.สุธรรม กล่าวถึงกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อคส. ร้องเรียนรมว.พาณิชย์ ให้มีการทบทวนบทบาทหน้าที่ของผู้บริหาร อคส. ว่า ยังไม่เห็นเอกสารการร้องเรียนอย่างเป็นทางการดังกล่าว เพียงได้ยินเป็นเรื่องเล่ากันมา ขณะเดียวกันยังไม่ได้พูดคุยกับาทางสหภาพฯ ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร คงต้องให้ทางสหภาพฯ เข้ามาพูดคุยกันหากมีเรื่องที่ต้องการจะพูดคุยกัน หากพูดคุยกันรู้เรื่องคงไม่ต้องถึงขั้นยื่นหนังสือ นอกจากนี้ ตัวเองก็ดำเนินงานอย่างโปร่งใส ไม่ได้ปิดบังอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทั้ง 2 คลังสินค้าดังกล่าวข้างต้น สร้างรายได้ให้กับ อคส. ประมาณ 60 ล้านบาทต่อปี จากที่มีรายได้รวมประมาณ 93-94 ล้านบาทต่อปี และมีรายได้จากส่วนอื่นๆ เช่น การขายข้าวถุง รวมถึงวัตถุดิบอาหารสัตว์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน