วายแอลจีมองทองผันผวนระยะสั้น-แนวโน้มยังขาขึ้นอีก 2 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังติดลบอีกทั้งความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ ก็ยังคงมีอยู่

ทองยังขาขึ้นอีก2ปี – น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ราคาทองคำทั้งในตลาดโลกและในประเทศที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ มาจากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะเดียวกันเริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ซึ่งเป็น ETF ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากจึงเกิดการเทขายทำกำไรออกมาบางส่วน

อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นความผันผวนที่เกิดขึ้นแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่ในระยะยาว 1-2 ปี ราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนราคาทองคำยังไม่เปลี่ยน ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ยังติดลบ ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งเฟดยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายและมีผลให้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ ก็ยังคงมีอยู่ นอกจากนี้ ประเด็นภายในประเทศสหรัฐเองก็ยังต้องจับตาเช่นประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้ ยังมีความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ขณะที่ วัคซีนโควิด-19 ของรัสเซีย ถือเป็นข่าวที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากช่วยเรียกความเชื่อมั่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ตลาด แต่ก็ยังต้องรอดูประสิทธิภาพของวัคซีนในระยะยาว ทำให้ตลาดทองคำรับรู้ข่าวนี้ไปแล้ว และนักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาซื้อทองคำ หากปัจจัยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่การปรับตัวขึ้นน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาเช่นช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนกองทุน SPDR ถ้าหากนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังมีระดับการถือครองที่ค่อนข้างสูงอยู่ โดยรวมปีนี้เข้าซื้อทองคำเพิ่มแล้วกว่า 350 ตัน แม้ในช่วงนี้มีการเทขายออกมาบางส่วน แต่ภาพรวมยังมองว่าจะมีการเข้าซื้อต่อ

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในระยะสั้น ทะยอยสะสมที่แนวรับ 1,900-1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทยอยขายบางส่วนหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าราคาจะกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าจะใช้เวลาพอสมควรอาจจะประมาณ 3 สัปดาห์หรือมากกว่า 1 เดือน

ส่วนราคาทองคำในประเทศ มองกรอบการเคลื่อนไหวที่แนวต้าน 28,750 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 28,000 บาท และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 27,200 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาในประเทศจะต้องขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน