บขส. ล้มประมูลรอบ 2 ที่ดินสามแยกไฟฉาย หลังเอกชนเมินยื่นซอง ชงบอร์ดแก้ทีโออาร์ให้จูงใจมากขึ้น
รายงานข่าวจาก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในโครงการเชิญชวนบุคคลภายนอกเป็นผู้จัดสร้างและบริหารโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสามแยกไฟฉาย กรุงเทพฯ ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวม 3.3 ไร่ วงเงินลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ว่าหลังจากเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2563 บขส.ได้ลงนามยกเลิกการประมูลครั้งที่ 1 ไป เนื่องจากบจ.เอ็นพี (ไทย) คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นเอกชนที่ยื่นประมูลเพียงรายเดียวเอกสารไม่ครบถ้วนทำให้ขาดคุณสมบัติ
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.-21ส.ค.63 ที่ผ่านมา บขส.ได้ประกาศเชิญชวนบุคคลภายนอกเป็นผู้จัดสร้างและบริหารโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสามแยกไฟฉายเป็นครั้งที่ 2 โดยกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอราคา ในวันที่ 31 สิงหาคม 63 ปรากฏว่ามีเอกชนสนใจมาซื้อซองจำนวน 4 ราย แต่ไม่มีผู้สนใจยื่นข้อเสนอด้านราคาทำให้ บขส.จะต้องยกเลิกประกาศเชิญชวนบุคคลภายนอกเป็นผู้จัดสร้างและบริหารโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสามแยกไฟฉายเป็นครั้งที่2 โดยจะต้องเสนอเรื่องให้คณะอนุมกรรมการบริหารอสังหาริมทรัพย์พิจารณาอนุมัติเร็วๆนี้
“ ขบส. เปิดประมูลมา 2 ครั้งแล้ว ต้องยกเลิกประมูลทั้ง2ครั้ง เพราะไม่มีเอกชนสนใจเข้าร่วมประมูล ดังนั้นจะมีการเสนอให้อนุกรรมการบริหารอสังหาฯ ทำการทบทวนทีโออาร์ใหม่ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาด โดยจะต้องนำผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาไว้มาปรับปรุง เพื่อจูงใจให้เอกชนเข้ามาประมูลมากขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุผลหนึ่งที่เอกชนไม่สนใจยื่นข้อเสนอด้านราคาเนื่องจากเป็นช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่เศรษฐกิจชะลอตัว และอาจเป็นเพราะข้อเสนอต่างๆยังไม่จูงใจ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับโครงการพัฒนาที่ดิน 3 แยกไฟฉาย จำนวน 2 แปลง ของบขส.นั้น ใช้ชื่อโครงการว่า The Cocoon Residence “Rest Reset Relax”เป็นพื้นที่ที่อยู่ในทำเลทอง เนื่องจากอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลหลายแห่งเช่น ศิริราชพยาบาล รวมทั้งยังเดินทางสะดวก เนื่องจากในอนาคตพื้นที่นี้จะมีรถไฟฟ้า 2 สายทางผ่าน คือ โครงการรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายช่วง ตลิ่งชัน–ศิริราช และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
เบื้องต้น บขส.มีแผนที่พัฒนาที่ดิน2แปลง เป็น 2 รูปแบบ คือ 1.พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเม้นท์ให้เช่า ขนาด 13,500 ตารางเมตร ราคาปานกลาง เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่อาศัยของนักศึกษาและ 2. พัฒนาเป็นศูนย์พื้นฟูและพักฟื้นของผู้ป่วยภายหลังการรักษาและพื้นที่ดูแลผู้สูงอายุ ขนาด 4000 ตารางเมตร
กลุ่มเป้าหมายคือ คนทำงานและครอบครัวในบริเวณใกล้เคียงเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล ศิริราช เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท มีผลตอบแทนลงทุนหรือ IRR ก่อนหักภาษี 12.5% ระยะเวลาคืนทุน 13ปี โดยจะเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ระยะยาว 30 ปี หลังจากนั้นต้องโอนทรัพย์สินคืนทั้งหมดคืนให้ บขส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดทีโออาร์โครงการในปัจจุบันมีการกำหนดให้เอกชนที่ยื่นข้อเสนอต้องมีคุณสมบัติ เป็นนิติบุคคลในประเทศไทย มีประสบการณ์ด้านการบริหาร การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยต้องมีโครงการที่เป็นผลงานที่เปิดดำเนินการแล้วมีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 240 ล้านบาท ต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระหุ้นเต็มแล้วไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท หรือ 10% ของมูลค่าการก่อสร้างโครงการ เป็นต้น
