น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกนอ. (บอร์ด กนอ.) มีมติอนุมัติให้ขยายพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง (ส่วนขยาย) เนื้อที่ประมาณ 1,008 ไร่ พื้นที่อำเภอปลวกแดง และอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดระยอง เป็นการขยายจากพื้นที่เดิมในที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท อมตะซิตี้ ระยอง จำกัด

โดยตั้งเป้าให้ปี 2564 เป็นปีแห่งการลงทุนอย่างเต็มที่ โดยวางเป้าหมายการลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ถือเป็นปัจจัยหลักต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ และเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดึงดูดนักลงทุน

“คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาพื้นที่และทำการขาย/ให้เช่าพื้นที่ได้ทั้งหมดภายใน 5 ปี และก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 32,176 ล้านบาท เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 8,000 อัตรา โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของนิคมฯ อมตะซิตี้ ระยอง ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร และซอฟต์แวร์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่โครงการต่างๆ ทั้งโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอยู่ เห็นภาพชัดเจน ทั้งในเรื่องการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง การส่งเสริมและสนับสนุนด้านต่างๆ เป็นภาพที่นักลงทุนต่างชาติรับทราบมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ในพื้นที่เป้าหมายรองรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีความสนใจลงทุนในพื้นที่ มีทำเลที่ตั้งเชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอีอีซีทุกด้านทั้งการคมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาโครงข่าย 5G ในพื้นที่ เป็นจุดดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่อีอีซีได้

น.ส.สมจิณณ์ กล่าวว่า ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ 17 ประเทศในปี 2021 โดยอนาคตเศรษฐกิจของไทยจัดอยู่ในอันดับ 1 เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจอย่างมาก คาดว่าเมื่อเปิดประเทศให้นักลงทุนเดินทางเข้ามาได้ จะมีนักลงทุนเข้ามาดูพื้นที่และสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้ยกไทยให้เป็นตลาดเกิดใหม่ที่ดึงดูดใจที่สุดในปี 2564 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น และในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีการนำวัคซีนมาใช้ช่วงเดือนก.พ. อาจทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้และส่งผลให้กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน