ขสมก.หนี้อ่วม 1.24 แสนล้านบาท ยันจำเป็นต้องจ้างวิ่งรถเมล์อีวี 244 คัน มูลค่า 953 ล้านบาท เหตุรถที่ใช้อยู่มีสภาพทรุดโทรม เสียค่าดูแลปีละ 1.6 พันล้านบาท
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.65 จากกรณีที่สื่อมวลชนมีการกล่าวถึงประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เบรก ขสมก. หลังถกคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ปมแผนฟื้นฟูกิจการแก้ปัญหาหนี้สะสมแสนล้าน โครงการจ้างเหมาวิ่งรถเมล์อีวี นำร่อง 244 คัน มูลค่า 953 ล้านบาท ส่อเลี่ยงไม่ผ่านคณะกรรมการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสศช.ตรวจสอบ สั่งด่วนไปคุย สศช.เช็คเข้าข่ายเป็นงบลงทุนที่เสนอบอร์ดหรือไม่ นั้น
รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า ขสมก. ขอชี้แจงว่าปัจจุบัน ขสมก. มีรถโดยสารประจำทางอยู่ 2,885 คัน และมีเส้นทางให้บริการ จำนวน 107 เส้นทาง และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการขสมก. เนื่องจากที่ผ่านมา ขสมก. ประสบปัญหาการขาดทุนจากต้นทุนการให้บริการไม่สอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับ ทำให้มีภาระหนี้สินผูกพันต่อเนื่อง ประมาณ 124,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ รถโดยสารประจำทางของ ขสมก. ที่มีอยู่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาจำนวนมาก ประมาณ 1,600 ล้านบาทต่อปี ประกอบกับตามหลักเกณฑ์การบรรจุรถโดยสารประจำทางเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการจากกรมการขนส่งทางบกนั้นกำหนดให้ต้องนำรถใหม่หรือรถที่จดทะเบียนไว้ไม่เกิน 2 ปี เพื่อบรรจุในใบอนุญาตดังกล่าวภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการ
รายงานข่าวระบุอีกว่า ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องจัดหารถโดยสารประจำทางอย่างเร่งด่วน เพราะไม่มีรถใหม่บรรจุตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับหากไม่สามารถนำรถไปบรรจุได้ทันภายในระยะเวลากำหนดอ าจส่งผลให้ ขสมก.เสียสิทธิการเป็นผู้ประกอบกิจการเดินรถอันเป็นภารกิจหลักขององค์การ รวมทั้งไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเท่าเทียมทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.
รายงานข่าวระบุต่อว่า เรื่องการจัดหารถโดยสารในวิธีการจ้างเหมาบริการ แทนที่จะเป็นการซื้อ หรือการเช่ารถโดยสารประจำทางนั้น ขสมก. ขอชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การจ้างเหมาบริการ (เอกชนจัดหารถโดยสารและพนักงานขับรถ) เป็นการใช้งบดำเนินงานจากค่าโดยสารส่วนต่างของต้นทุนด้านเชื้อเพลิง (จากน้ำมันดีเซล เป็นระบบไฟฟ้า) ส่วนต่างของค่าเหมาซ่อมที่ลดลง
รวมทั้งต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรเดินรถ โดยไม่ใช้งบลงทุนเพิ่มในการดำเนินการ ไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม และไม่เป็นภาระผูกพันในระยะยาว เนื่องจากเป็นการทำแผนงานระยะเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นวิกฤตของ ขสมก. โดยเป็นสัญญาระยะสั้น ในช่วงที่รอให้แผนฟื้นฟูได้รับความเห็นชอบให้ดำเนินการ
โดยแนวทางการจัดหารถโดยสารด้วยวิธีการจ้างเหมาบริการนั้น ขสมก. อ้างอิงตามหลักการจำแนกงบประมาณรายจ่ายตามงบประมาณในหมวดค่าใช้สอย ที่หมายถึงรายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ (ค่าจ้างเหมาบริการ เพื่อให้ผู้รับจ้างทำการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง แต่มิใช่เป็นการประกอบ ดัดแปลง ต่อเติมหรือปรับปรุง ครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) ตามหนังสือของสำนักงบประมาณ ที่ นร 0704/ว 33 ลงวันที่ 18 มกราคม 2553
รายงานข่าวระบุอีกว่า ภายใต้ขอบเขตของการดำเนินงานในโครงการนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเดินรถและลดมลภาวะในเขตเมืองรวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ ขสมก. ดังที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ซึ่งมีความต้องการรถโดยสารประจำทาง ประมาณ 200 คัน โดยไม่ใช้งบลงทุน
เพราะไม่เป็นรายจ่ายเพื่อให้เกิดสินทรัพย์ถาวร จึงไม่เข้าข่ายดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2563 ประกอบกับ มาตรา 7 (5) แห่ง พ.ร.บ.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ.2561
รายงานข่าวระบุต่อว่า จากการประชุม คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งการให้ ขสมก. เร่งรัดการดำเนินการตามมติการประชุม คนร. และทุกข้อสังเกตในที่ประชุม ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการกับประชาชนให้มีประสิทธิภาพ และให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด
ทั้งในประเด็นการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการขอคำปรึกษาหารือกับสศช. ให้มีความโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ต่อไป