นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลล์คอนสตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก มีการหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับมาตรการกีดกันการนำเข้าเหล็กคุณภาพต่ำจากประเทศจีน โดยล่าสุดมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อกำหนดมาตรการควบคุมคุณภาพการผลิต รวมถึงแนวทางดูแลสิ่งแวดล้อมโรงงานผลิตเหล็กของจีนในประเทศไทยอย่างเข้มข้น ไม่ให้มีการผลิตเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานและก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางการจีนสั่งปิดโรงงานผลิตเหล็กที่ไม่มีคุณภาพในประเทศจำนวนมาก ทำให้มีการนำเข้าเครื่องจักรมือสองจากโรงงานที่ถูกสั่งปิดในจีนมาตั้งโรงงานผลิตเหล็กแห่งใหม่ในไทยแทน ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กมีความเป็นห่วงอย่างมากว่าจะมีการผลิตเหล็กไม่มีคุณภาพตามมาตรฐานกำหนด อาทิ เหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้างต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด
“ในช่วงตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กได้หารือกับนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม มาแล้ว 2-3 ครั้ง ซึ่งภาครัฐรับทราบและรับปากที่จะเข้าไปดูแลแก้ปัญหาจนเป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งขณะนี้ยังมีแนวคิดร่วมกันดำเนินมาตรการ “โรงงานนโยบาย” ที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ควบคุมโรงงานผลิตเหล็กอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องมีระบบการผลิตหรือการใช้เครื่องจักรที่นำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ การกำหนดโซนนิ่งการจัดตั้งโรงงาน เป็นต้น รองรับนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ของรัฐบาล”นายสิทธิชัย กล่าว
นอกจากนี้ จากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งกำหนดให้ใช้เหล็กที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ 100% เชื่อว่าจะทำให้เกิดการลงทุนภาคเอกชนตามมา และส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้กว่า 10% จากปัจจุบันอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศมีกำลังการผลิตประมาณ 13 ล้านตัน ขณะที่มีความต้องการเหล็กอยู่ที่ 19 ล้านตัน และมั่นใจว่าผู้ผลิตเหล็กในประเทศยังมีศักยภาพการผลิตเพียงพอรองรับการขยายตัวของภาคก่อสร้างและการลงทุนของประเทศได้
