น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนวิตกว่า ข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 325,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% ส่งผลให้เฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,665 จุด

ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยต่างๆ อาทิ การแถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของทางหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย การแถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุนของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ผลการประชุมกนง. ครั้งที่ 3/65 และผลการประชุม ECB ในสัปดาห์นี้ และผลประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐกลางเดือนนี้

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 นับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกัญชา ได้แก่ GUNKUL, KWM, RS, BC, IP, DOD และ RBF

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ จับตาตัวเลขเศรษฐกิจอย่างดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ล้วนแล้วปัจจัยที่สำคัญเนื่องจากตลาดจับตาเงินเฟ้อ เพราะปัญหา supply shortages เป็นตัวเร่งให้เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปได้

ฉะนั้นเมื่อตลาดรับข่าวการปรับลดวงเงิน QE ไปบ้างแล้ว ทองคำย่อตัวลงไม่มากนัก อีกทั้งเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มเร่งตัวในระยะถัดไป ซึ่งทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและสามารถป้องกันความเสี่ยงดอลลาร์ที่อ่อนค่า

ฝ่ายวิจัยคาดราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideway up โดยประเมินกรอบในสัปดาห์นี้ 1,770-1,815 $/Oz แนะนำให้หาจังหวะ Long เมื่อราคาอ่อนตัวลงใกล้แนวรับ


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน