สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ค. 2565 ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,544.81 จุด +11.44 จุด (+0.75) มูลค่าการซื้อขาย 49,093.06 ล้านบาท

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายธุรกิจรายย่อย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นไป 11.44 จุด แต่น้อยกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน ส่วนหนึ่งมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังเร่งตัวขึ้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ปรับขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ

แต่อย่างไรก็ดี คาดว่าหลังวันที่ 10 ส.ค. หากดอกเบี้ยปรับขึ้น จะส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าดีขึ้น ดังนั้นการที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น แต่ค่าเงินบาทยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นสะท้อนว่านักลงทุนยังมีการระมัดระวัง และทำให้มูลค่าการซื้อขายไม่ถึง 50,000 ล้านบาท ประกอบกับทิศทางการลงทุนจะอิงกับปัจจัยเศรษฐกิจในต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีประเด็นที่ต้องติดตามคือการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น เนื่องเป็นประเทศที่อยู่ในตะกร้าเงินของดอลลาร์อินเด็กซ์ โดยคาดการณ์ว่าค่าเงินยูโรจะทรงตัวถึงแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมา และมีผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้น

โดยหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ
1. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,705.31 ล้านบาท +4.00 บาท (+2.60%)
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,110.12 ล้านบาท +1.00 บาท (+2.99%)
3. SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,756.15 ล้านบาท +1.25 บาท (+1.33%)
4. CBG มูลค่าการซื้อขาย 1,598.40 ล้านบาท -3.50 บาท (-3.06%)
5. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,556.74 ล้านบาท -0.50 บาท (-1.85%)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) เชิงเทคนิคมีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะรีบาวด์ได้ โดยให้แนวต้านที่ 1,550-1,560 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,535 จุด และ 1,520 จุด

สำหรับคำแนะนำลงทุน โดยแบ่งเป็นหุ้นในกลุ่มที่กังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย แนะนำหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า EGCO RATCH BGRIM GPSC ส่วนหุ้นในกลุ่มเก็งกำไรผลประกอบการ แนะนำ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำ KBANK BBL


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน