กกต. ยันเลือกตั้งในมาเลย์ ไม่เข้าข่ายโมฆะ ทำดีที่สุดแล้ว พร้อมรับมือกาบัตรล่วงหน้า

กกต. – วันที่ 11 มี.ค. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวถึงกรณีปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากปัญหาคนไปรอใช้สิทธิจำนวนมากที่มาเลเซีย จนทำให้หลายฝ่ายเกรงจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะว่า เท่าที่ทราบรายงานทุกแห่งที่มีปัญหา ได้มีการแก้ไขแล้ว จึงเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาหรือเข้าข่ายที่เป็นโมฆะ

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการกกต. ชี้แจงถึงปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กรณีคนไปรอใช้สิทธิจำนวนมากที่มาเลเซียว่า ได้ประสานพูดคุยกับสถานทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพิ่มช่องทางการแสดงตน เพิ่มคูหา แต่เนื่องจากทางสถานทูตจัดให้มีหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่ ทำให้คูหากระจายไปตามหน่วยลงคะแนนเคลื่อนที่ต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาโดยนำกล่องกระดาษมาทำเป็นคูหาเพื่อรองรับกับจำนวนผู้มาขอใช้สิทธิ ซึ่งถือว่าไม่ผิดกฎหมาย

ต้องชื่นชมว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทำได้ค่อนข้างดี แม้จะมีภาพที่ปรากฏออกมา ทำให้ไม่สบายใจ แต่ยังคงหลักการเรื่องการเลือกตั้งโดยตรงและลับไว้ได้ ซึ่งประโยชน์ตรงนี้ประชาชน เป็นผู้ได้รับเพราะมาใช้สิทธิ และเรารักษาสิทธิการเลือกตั้งโดยตรงและลับของเขาไว้ได้

ส่วนกรณีประเทศจีนที่มีข่าวบัตรหายนั้น นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์ เราจะให้ผู้ขอลงทะเบียนกรอกรายละเอียดถึงที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ เพื่อเราจะจัดส่งบัตรเลือกตั้ง เอกสารผู้สมัครไปให้ตามที่อยู่ที่กรอกไว้ แต่บางรายพบว่ากรอกไม่ชัดเจน ไปรษณีย์ส่งบัตรไปแล้วถูกตีกลับ ซึ่งสถานกงสุลประสานกลับมายังกรมการกงสุลในไทย เพราะจะมีการเก็บที่อยู่ของผู้ที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งได้จัดส่งไปให้สถานกงสุลที่จีน และส่งบัตรให้กับผู้ที่ลงทะเบียนได้เรียบร้อย

รองเลขาธิการกกต. กล่าวว่า รูปแบบการใช้สิทธิของคนไทยในต่างประเทศ แต่ละประเทศจะเป็นหน้าที่ เป็นอำนาจสิทธิขาดของเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของประเทศนั้นๆ จะเป็นผู้กำหนด รวมถึงห้วงเวลาลงคะแนน วิธีลงคะแนน การจัดสถานที่เลือกตั้ง จัดหน่วยเลือกตั้งเคลื่อนที่ หรือจัดลงคะแนนทางไปรษณีย์ ดังนั้น ความคล่องตัวจึงขึ้นอยู่แต่ละประเทศเป็นสำคัญ การตื่นตัวครั้งนี้สะท้อนว่าประชาชนต้องการที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม

เมื่อถามถึงระยะเวลาที่เหลือจะมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกหรืออไม่ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางรายโทรศัพท์มาที่ประเทศไทย อย่างที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย แจ้งว่าได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิแล้วแต่ทำไมไม่มีชื่อ ซึ่งผู้ลงทะเบียนได้แคปหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่รับรองการลงทะเบียนส่งมาเป็นหลักฐานยืนยัน ก็ให้กงสุลเพิ่มชื่อ และใช้สิทธิเลือกตั้งเรียบร้อย

ส่วนการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดในประเทศ ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ นายณัฏฐ์ กล่าวว่า เลขาธิการ กกต. ได้ประชุมกับรองเลขาฯทุกคน และจะส่งรองเลขาฯออกไปตรวจการเตรียมพร้อมในจังหวัดที่มีผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก โดยจะเริ่มไปตรวจตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.

ส่วนของกรุงเทพฯ ที่เขตบางกะปิ มียอดผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 61,401 คน เลขาธิการ กกต.จะไปตรวจความพร้อมด้วยตนเอง และจากการดูแผนการเตรียมการค่อนข้างดี จัดสถานที่ใช้สิทธิ 2 จุด คือโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ และโรงเรียนบ้านบางกะปิ ทั้งสองแห่งจะแบ่งจังหวัดเพื่อกระจายไม่ให้การใช้สิทธิกระจุกอยู่ที่เดียว มีเครื่องคอมพิวเตอร์รองรับ 50 เครื่อง

ทั้งนี้ เมื่อปิดการลงคะแนนแล้วเจ้าหน้าที่จะคัดแยก ก่อนส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเพื่อรอนับในวันที่ 24 มี.ค. เชื่อว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค. จะไม่เกิดปัญหาความแออัดเหมือนในอดีต เพราะครั้งนี้กำหนดสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากระจายถึง 380 กว่าแห่ง

เมื่อถามถึงนายพริษฐ์ วัชระสินธุ ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โวยเรื่องเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ที่แจกให้กับคนไทยในอังกฤษ มีภาพกับชื่อพรรคอยู่คนละแผ่น นายณัฏฐ์ ชี้แจงว่าการับรู้ข้อมูลของผู้สมัคร ไม่ได้รับรู้จากเอกสารแนะนำเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายช่องทาง เช่น แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวตที่แนะนำให้ดาวน์โหลด ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศ สำหรับเมืองไทยเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัครได้จัดส่งไปแล้ว ไม่มีปัญหา

“ผมเชื่อว่าคนที่จะเลือกผู้สมัครรายนี้ คงไม่ใช่ที่นั่นที่เดียว ทั่วโลกที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่กระจายตัวกันอยู่ เฉพาะในไทยไม่มีปัญหาในเรื่องนั้น การจะสร้างประเด็นข่าวเพื่อให้อยู่ในเนื้อที่ข่าว เป็นเรื่องหนึ่ง แต่คิดว่าการใช้พื้นที่ข่าวเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรต้องพึงระวัง” นายณัฎฐ์ กล่าว