แซม เผยปมคาใจจนวัน โอ-วรุฒ เสียชีวิต เคยโกรธไม่พูดกันหลายครั้ง ปัดก่อเรื่องจนถูกแบน
แซม เผยปมคาใจจนวัน โอ-วรุฒ เสียชีวิต – วันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ‘ข่าวสด’ รายงานว่า แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี อดีตดาราดัง ที่เคยร่วมงานกับ โอ-วรุฒ ในเรื่อง สาบนรสิงห์ และรู้จักกันมาร่วม 30 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าให้เล่าถึงเรื่องราวในอดีตของผมกับโอ คือ เรื่องการร่วมงานไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่จริงๆ เราสนิทกันเพราะมุก(ภรรยา) กับ อุ๋ย มณีรัตน์ แฟนเก่าโอ คือสนิทกัน เหมือนเป็นสองคู่ครับตอนนั้น เราเป็นเพื่อนกันด้วย และแฟนเราก็เป็นเพื่อนกันด้วย ก็ 30 ปีแล้วที่รู้จักกันมา เข้านอกออกในบ้านกันง่าย เขามาบ้านเรา ผมกับมุกก็เอ็นดูเหมือนน้องอยู่แล้ว
อ่านข่าว ‘แซม’ โพสต์ซึ้งถึง ‘โอ วรุฒ’ เขียนข้อความสุดท้าย “พี่ขอโทษนะ”
อ่านข่าว อุ๋ย มณีรัตน์ ดาราสาวที่ โอ วรุฒ รักมาก เปิดใจไม่กล้าติดต่อกลัวใจอ่อน-พร้อมร่วมงานศพ(คลิป)
อ่านข่าว แม่ โอ วรุฒ สุดเศร้า จัดงานศพลูก เพิ่งมาอยู่ปีเดียว เพื่อนเผยนาทีจับมือยิ้มลาสุดท้าย(คลิป)
แซม กับ มุก ภรรยา มิตรภาพ กับ โอ วรุฒ และ อุ๋ย มณีรัตน์ 2 คู่สุดน่ารัก ในยุคนั้น
ฉะนั้นเวลาไปไหนกับโอ ก็จะไม่มีปัญหากับแฟน แล้วโอเขาน่ารักเวลาไปไหนก็จะสร้างความบันเทิง สนุกสนาน แต่ก่อนบ้านเราก็จะเป็นศูนย์รวมบันเทิงของเพื่อนๆ อยู่แล้ว และครั้งนึงผมกับโอ เคยเปิดผับเล็กๆ ร่วมกันกับเพื่อนนักแสดงอีกหลายคน ไว้นั่งเล่นกัน เพราะสมัยก่อนดารานักแสดงก็เที่ยวไม่ได้มากเหมือนปัจจุบัน เลยมีที่ของเราไว้คุยกันเอง ก็ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี มีแฟนๆ ตามมาเที่ยว เลยทำให้นอกจากต่างคนต่างทำงานมาแล้วตอนเย็น ก็ต้องเข้ามาดูแลกิจกาาร ก็จะเจอเจอกัน ทำอยู่ประมาณ 2 ปี สุดท้ายก็ไม่มีใครดูเพราะเราอยากมาสนุก เราไม่ได้เป็นนักธุรกิจ หรือผมเวลาไปงานต่างจังหวัด พอเขาเห็นเราสนิทกัน เขาก็เชิญเป็นคู่ คือมันเป็นช่วงสั้นๆ”
“อย่างที่ลงในไอจี เวลาความเป็นพี่เราก็ห่วง พอเห็นน้องงานไม่ค่อยเดิน ก็ติดต่อฝากฝังเพื่อนๆ กันไป แต่บางทีเขาอาจจะมีปัญหาบ้าง ที่เวลาสนุกแล้วอาจจะลืมงานการไปนิดนึง เลยอาจจะทำให้เสียถึงเราด้วย ก็มีติเตือนกันไป บางทีก็โกรธกันไปเป็นปีนะ ไม่พูดด้วยกันหลายที แต่หลังๆ เริ่มมาคิดว่าที่เราโกรธเพราะเราเป็นห่วงเขาเกินไปต่างหาก ถ้าไม่ห่วงซะก็ไม่ต้องโกรธ เลยเปลี่ยนใหม่ว่าแล้วแต่เขาดีกว่า ในเมื่อเขาเลือกมีชีวิตสนุกสนาน อย่าต้องทำลายมิตรภาพ พอปล่อยเขาเราก็ไม่ต้องคอยห่วงคอยปลุกว่าตื่นยังๆ เขาเป็นคนเดียวที่เวลานอนอยู่ที่บ้าน ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ต้องเอาน้ำสาด(หัวเราะ) หรือบางทีเราไปทำงานต่างจังหวัดกลับมาแล้ว โอเขายังนอนอยู่เลย คือในความน่ารัก น่าเอ็นดูของเขา เราก็ห่วงอนาคต ว่าถ้าทำแบบนี้ไม่ได้”
แซม กับ โอ วรุฒ และ แฟนสาวของทั้งคู่
เมื่อถามว่าพี่โอมาอยู่บ้านพี่แซมเลยมั้ย “คือมาบ้างครั้ง ถ้าขับไม่ไหวก็มานอน เพราะผับสมัยก่อนกับบ้านเรา บ้านเราใกล้สุดแล้ว ใครขับกลับไม่ไหวก็มานอนกองกันอยู่บ้านเรา คือเรารู้จักกันตั้งแต่ที่โอเล่นละครเรื่องแรก คู่กรรม เจอกันที่งานสักงาน แล้วรู้สึกว่าคนนี้ตลกดี ตลกไม่สนหน้าตาเลย”
“ส่วนละครที่เคยได้เล่นด้วยกัน มีแค่เรื่องเดียวคือ สาบนรสิงห์ จนกระทั่งจบเรื่อง มีเลี้ยงปิดกล้อง แล้วโอเขามารับค่าตัว ตอนนั้นอาปื้ด(ผู้กำกับ) เขาถึงกับถามโอว่า เอ็งเล่นเรื่องนี้ด้วยเหรอ(หัวเราะ) คือที่อาปื้ดถามเพราะบางทีโอไม่ได้มาเข้าฉาก ก็ต้องตัดบททิ้งไปบ้าง เปลี่ยนบท ทั้งที่เขาเป็นพระเอกนะ แต่พี่เป็นผีเล่นเป็นสาบนรสิงห์ แต่ค่ายนี้เอ็นดูโอ เขาก็โอเค คือมันก็เป็นเรื่องที่ขำๆ กันไป”
แสดงว่าที่มีข่าวว่าโอ ได้ฉายา คุณชายสายเสมอ จากพี่ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา คือจริงไหม “จริงๆ ได้จากพี่ไก่ และพี่หลายๆ คน แต่เขาก็เอ็นดูโอ คือเวลาโอมาสาย ยังไม่ถึง พี่ไก่ก็โทรหาเรา แต่ก่อนบางครั้งคุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ก็โทรหาเรา ว่าโอไปไหน เห็นว่าไปกับคุณหรือเปล่า? มีครั้งนึงเราบอกโอว่าให้กลับบ้านเลย แต่โอเขาบอกว่าไม่ต้องห่วงพี่ไก่นัดเช้ามาก เดี๋ยวโอจะไปนอนที่กองถ่ายเลย ซึ่งเขาก็ไปนอนคืนนั้นเลย ไปจอดรถอยู่หลังฉากนู่นแต่ไม่ได้บอกใคร แล้วไม่ตื่น
กองถ่ายก็รอจนสายอยู่ดีถ่ายไม่ได้ รู้สึกตอนนั้นจะถ่ายเรื่อง ในฝัน ของพี่ไก่นะ แล้วไปหลับในกองถ่ายไม่มีใครรู้ พอโทรมาตามที่พี่ เราก็บอกว่าไล่ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โอบอกจะไปนอนที่กองถ่าย จนคนที่กองไปไล่รื้อดูเจอโอ มีอีกเรื่อง โอเขาก็เคยไปจอดรถหลับอยู่กลางสี่แยก ทีวีไปถ่ายทุกช่องเลย เขย่ารถคุณวรุฒ เพราะรถติดไปไหนไม่ได้ แต่โอหลับอยู่ในรถ คือถ้าผมจะโกรธเขาก็โกรธเรื่องงานนี้แหละ”
“แต่จริงๆ ไม่มีใครโกรธเกลียดอะไรเขา เขาน่ารักน่าเอ็นดู ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ถ้าเลี่ยงได้เขาก็ไม่ขอโกรธกันดีกว่า คือถ้าไม่อยากโกรธกับโอ ก็อย่าทำงานประมาณนั้น เลยอาจจะเป็นเหตุผลว่างานน้องเลยค่อยๆ หายไป เพราะคนรักเขา แต่ไม่อยากมีปัญหา ทุกคนพูดเหมือนกันเลยว่าโอมีความสามารถ มีพรสวรรค์ แต่กลัวว่าโอจะไม่มางาน เลยเลี่ยงที่จะไม่ทำ”
แล้วที่เคยไปสร้างวีรกรรมแสบร่วมกันกับโอและฮันนี่ ถึงขั้นโรงแรมปิดป้ายว่าห้ามเข้าแล้ว จริงไหม “อ่อ อันนี้ไม่มีหรอก ไม่เคยมีเหตุการณ์เหล่านี้เลย อาจจะเป็นการล้อเล่นหรือแซวกันมากกว่า เวลาไปงานต่างจังหวัดหรือที่ไหน อาจจะเสียงดังจนคนพูดแซวว่า ถ้าดังขนาดนี้ครั้งหน้าเขาไม่ให้เข้าแน่เลย คงจะเป็นการพูดเล่นกันมากกว่านะ เพราะเราอยู่ฐานะเป็นพระเอกหรือนางเอกอันดับต้นๆ การทำแบบนั้นมันทำไม่ได้หรอก แล้วถ้าเป็นจริงๆ คงเป็นข่าวครึกโครมแล้ว แต่ไม่มีครับ คงเป็นการพูดเล่นกันสนุกสนานมากกว่า คือมันมีคนนึงลงเรื่องนี้ คนอื่นก็แชร์กัน ซึ่งมันไม่ใช่ประวัติของโออยู่แล้ว
ผมกับฮันนี่ก็คุยกันนะว่ามันเรื่องอะไร เมื่อไหร่ ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย สำหรับเราคือไม่มี 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจะมาจากไหนก็ไม่รู้จริงๆ เราไม่เคยมีประวัติตรงนั้นนะ อีกอย่างมันไม่เกี่ยวกับคนที่เสียชีวิตแล้ว เราควรจะพูดถึงเขาในแง่ดี ส่วนผมกับฮันนี่เป็นบุคคลที่ 2 หรือ 3 ยังงงว่าเรื่องมาจากไหน เพราะมันไม่มีมูล พี่เดาว่าคงจะหยิบประวัติโอมาจากวิกิพีเดีย แล้วเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน แต่พอมาลบทีหลังก็ไม่ทันสื่อ”
ตอนนี้ไม่มี โอ วรุฒ แล้ว ทั้งที่เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา “ผมว่ามันจะเป็นความทรงจำที่ดี อย่างวันนี้ที่โพสต์รูปกับมุก คือเราไม่ใช่แค่เพื่อน ไม่ใช่แค่น้อง มันผูกพันกันในช่วงนึง แม้หลังๆ จะห่างหายไปเพราะเราเองก็ไม่ได้อยู่บันเทิงแล้วด้วย โอก็มีชีวิตของเขา ไปทำอีกหลายอย่าง ผมแทบจะไม่รู้เลย แต่เพิ่งมีเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่โอโทรหาผม แต่เราไม่ได้รับเพราะติดประชุมอยู่ แต่รู้แล้วว่าโอโทรมา คงต้องคุยกันยาวน่าจะมีเรื่องอะไร คิดว่าเดี๋ยวว่างจะโทรกลับ
แซม เผยปมคาใจที่มีต่อ โอ วรุฒ จนวันสุดท้ายของชีวิต น้องชาย
จนผมลืมเพราะยุ่ง และมาได้ยินข่าวเมื่อสองวันก่อนว่าเขาโคม่า เราก็รู้สึกตกใจและคาใจ เอ๊ะน้องจะโทรมาเรื่องอะไรหรือเปล่า แต่เราโทรกลับไม่ได้แล้วเพราะเขาโคม่าแล้ว และจากนั้นอีกสองวันก็เสีย มันก็เป็นปมอีกอย่างในใจ เพราะไม่รู้ว่าโอจะพูดอะไรกับเราตอนนั้น แต่ความทรงจำทั้งหมดกับโอ มันเป็นภาพรอยยิ้มและสนุกสนาน”
“แต่ผมว่าโอมีชีวิตที่คุ้มนะ ที่ใครบอกว่าโอลุ่มๆ ดอนๆ ยังไงก็แล้วแต่ แต่พี่ว่าโอก็มีความสุขกับชีวิตในทุกๆ ช่วง อาจจะมีทุกข์ปนบ้าง แต่ก็รู้ว่าไม่นาน เพราะโอไปไหนก็มีแต่คนต้อนรับ คนรักใคร่ มันเป็นโมเมนต์ที่มีความสุข ส่วนหลังๆ ที่ทุกข์มันก็ไม่สั้นมาก แต่เขาก็อยู่กับมันไม่นานมาก ถือเป็นความโชคดีของโอ อาจจะมีจากการเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาจากสิ่งที่โอสะสมกับการสนุกสนาน เลยอาจจะเกินขีดจนทำให้ร่างกายไม่ไหว แต่เกิดมาเป็น วรุฒ วรธรรม ที่ทุกคนพูดถึงก็มีแต่ความสุข ความสดใส เรื่องที่คนตำหนิอาจจะมีแค่เรื่องงาน แต่เรื่องส่วนตัวเขาไม่เคยมีปัญหานะ เราก็จะเก็บโอไว้ในควาทรงจำที่ดีครับ”
จะมีโอกาสไปร่วมงานศพที่เชียงใหม่ หรือเปล่า “ไปๆ ครับ ตั้งใจไปวันศุกร์(14ก.ย.) พร้อมภรรยาและพี่อุ๋ย มณีรัตน์ แฟนเก่าโอ”
ฮันนี่ กับ โอ วรุฒ
ด้าน ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ นางเอกที่เคยร่วมงานกับ โอ-วรุฒ วรธรรม พระเอกดังที่ล่วงลับไปแล้ว เผยถึงความประทับใจในอดีตว่า “ตอนที่เราเคยร่วมงานกันกับโอ เขาเป็นคนน่ารักมาก เป็นคนสนุกสนาน ตลก มีอารมณ์ขันตลอดเวลา แต่จำไม่ได้ว่าเคยร่วมงานกันเรื่องอะไรบ้าง แต่ที่จำได้คือเล่นเรื่อง หลงไฟ ด้วยกัน คือ เราเล่นหลายเรื่องก็จำไม่ได้ว่าเล่นกับใครบ้าง สมัยก่อนเวลาร่วมงานกัน เราจะสนิทกันเป็นกลุ่มใหญ่เลยในกลุ่มภาพยนตร์บันเทิง ที่ได้ทำร้านด้วยกันหลายคน แต่ถ้าให้พูดถึงวีรกรรมต่างๆ คือ บอกตรงๆ ว่าจำไม่ได้ รู้แต่ว่ามันสนุก ส่วนเรื่องวีรกรรมต้องให้พี่แซมเล่า รู้แต่ว่าอยู่ด้วยกันมีแต่ขำ ตลก ความเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกันแล้วสนุก”
มีข่าวว่าพี่ฮันนี่ พี่โอ และพี่แซม เคยไปสร้างวีรกรรมแสบ ถึงขั้นโรงแรมปิดป้ายว่าห้ามเข้าแล้ว จริงไหม “ห๊ะ มีด้วยเหรอ ถ้าขนาดติดป้ายห้ามจริงๆ มันไม่มีหรอก นอกเสียจากเราพูดกันเล่นๆ มากกว่า เพราะเวลาเราไปไหนกันก็เอาฮา เอาสนุก อาจจะแหย่กัน เพราะเรื่องถึงขั้นโรงแรมปิดป้ายห้ามเข้า เราคงไม่ทำให้เสียชื่อเสียงกันอยู่แล้ว จะทำอะไรเราก็ต้องเคลียร์ มันเป็นเรื่องพูดเล่นกันมากกว่า โอเขาเป็นคนตลก บางทีถึงขั้นเล่นมาจนพี่แซมบอกว่า โอ้ยฉันรำคาญแก ก็มีนะ แต่เราไม่ได้อะไรไง เพราะเรารักกันในกลุ่มจริงๆ”
แล้วอย่างที่พี่โอเคยได้รับ ฉายา คุณชายสายเสมอ “ก็มีส่วนค่ะ แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวน่าตกใจ ส่วนถ้าให้พูดถึงโอ คือการที่เขาเป็นคนอารมณ์ดี ทำให้ทุกคนมีความสุข จนสร้างความทรงจำที่ดีกับทุกคน ฮันนี่ก็อยากจะรำลึกถึงเรื่องราวดีๆ ของเขามากกว่า เพราะเป็นเพื่อนที่รักมากค่ะ”
