ไอซ์ ปรีชญา เปลือยหมดใจ สาเหตุหน้าเปลี่ยน พ้อรักไม่เคยสมหวัง

โดนทักว่าเป็นนักแสดงที่หน้าเปลี่ยนตลอดเวลา สำหรับนักแสดงสาว ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอนักแสดงสาว จึงได้สัมภาษณ์เรื่องที่ถูกทักว่าเป็นนักแสดงที่หน้าเปลี่ยนตลอดรู้สึกอย่างไร และอัพเดตเรื่องความรัก

ไอซ์ ปรีชญา

ปรีชญา พงษ์ธนานิกร

เราออกงานไหนคนจะเข้ามาแซวว่าเราหน้าเปลี่ยนทุกไตรมาส?
“อันนี้โดนประจำอยู่แล้ว ไม่คิดมากแล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้วเวลาคนทัก เพราะว่าชินแล้ว มันหลายๆอย่างบวกกัน ไอซ์แก่ขึ้นด้วย จะ30ปีแล้ว ตัวไอซ์ลองมองตัวเองก็คิดว่ามันก็มีเปลี่ยนบ้างเหมือนกัน อย่างเวลาที่ไอซ์เปลี่ยนสีปากหน้าก็จะเป็นอีกแบบนึงแล้ว หน้าก็จะมีเล็กบ้างอ้วนบ้างขึ้นอยู่กับมุมกล้อง”

รู้สึกยังไงที่คนมองว่าเราเติมหน้าตลอดจนหน้าเปลี่ยน?
“ไม่ได้ทำแล้วนะ หยุดทำแล้ว พอใจกับใบหน้าตอนนี้แล้ว ไม่คิดจะทำอะไรแล้ว เรารู้สึกว่าที่มันเปลี่ยนเพราะการแต่งหน้า แล้วก็การทำผมมากกว่า ไอซ์ตัดผมสั้นด้วย แล้วตัวไอซ์ก็เดี๋ยวอ้วนเดี๋ยวผอม ช่วงที่คนทักเยอะๆว่าหน้าเปลี่ยน เราก็มาดูอ่อ…เป็นเพราะเราใส่คอนแทคเลนส์สี ซึ่งเราไม่เคยใส่เลย ทุกวันนี้เลยไม่ใส่คอนแทคเลนส์สีอีกเลย”

ไอซ์ ปรีชญา

ชิลๆ

คนทักเราเปลี่ยนหน้าบ่อยเสียเซลฟ์มั้ย?
“คิดว่าคงจะโดนทุกคน นักแสดงทุกคนจะมีโดนทำพัฒนาการหน้า ซึ่งจริงๆมันก็พัฒนาไปเรื่อยๆตามวัย ไอซ์ว่าตรงนี้มันก็จริง ไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่เปลี่ยนนะ ตัวไอซ์ยอมรับว่าเปลี่ยน แต่มันเปลี่ยนได้จากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเราอ้วนขึ้นผอมลง เราดัดฟัน เราใส่คอนแทคเลนส์ เราตัดผม รู้สึกว่าบางช่วงหน้าเราก็มีเปลี่ยนไป ไม่ได้บอกว่าหน้าตัวเองเหมือนเดิมอยู่ตลอด บางช่วงทำเลเซอร์เยอะ หน้าก็จะเล็ก

ทุกวันนี้พอใจกับใบหน้าตัวเองแล้ว?
คิดว่าตอนนี้โอเคพอใจกับหน้าตัวเองแล้ว ไม่น่าจะต้องทำอะไรแล้วแหละ คิดว่าหลังจากนี้คงจะไม่ทำอะไรกับมันอีกเลย รู้สึกว่าตอนนี้เราโอเคกับมันแล้วก็คงไม่น่าจะต้องไปทำอะไรกับมันอีก ที่ผ่านมาก็ยอมรับค่ะว่ามีไปจิ้ม ไปโบท๊อกซ์ เลเซอร์ ทรีตเม้นต์ ทำเหมือนคนทั่วไปเขาทำกัน แต่ไม่ถึงขั้นไปผ่า รู้สึกว่ามันเป็นศัลยกรรมที่เราต้องพักฟื้น ถ้าเราเราต้องพักฟื้นเราจะทำงานไม่ได้ เราเล่นละคร เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ จะโดนผู้ใหญ่ว่าถ้าหน้าเราไม่เหมือนเดิม มันจะไม่เหมือนเดิม”

เรามองว่าการไปจิ้มหน้าเป็นเรื่องปกติของคนบันเทิง?
“ไอซ์ว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนในยุคนี้แล้วดีกว่า ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนในวงการบันเทิงที่มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ คนทั่วไปมองว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้ว เพราะทุกคนอยากสวยกันหมด ถ้าทำอะไรแล้วหน้าเราดูดีขึ้นที่มันไม่เกินไป เราชอบรู้สึกว่าเราพอใจก็ทำไปเถอะ ไอซ์ว่ามันไม่มีปัญหาอะไร”

การฉีดแบบนี้มันก็มีระยะเวลาในการคงอยู่ของมัน ในเมื่อตอนนี้เราพอใจกับหน้าเราแล้ว กลัวมั้ยว่าพอยามันหมดอายุหน้าเราจะเปลี่ยนไปอีก?
ถ้าเราไม่อ้วนขึ้นหรือผอมลงไอซ์ว่าไม่น่ามีปัญหานะคะ เดี๋ยวรอดูก่อน ถ้าตอนนั้นมันอ้วนขึ้น หรือหน้าเริ่มหย่อนอาจจะกลับไปพึ่งเลเซอร์ พึ่งเธอมาร์ทบ้าง ตอนนี้ขอไม่ทำอะไรแล้ว

ถามเรื่องหัวใจบ้างเหมือนเราเจอแต่ผู้ชายมาๆหายๆ ไม่จริงใจตลอด?
“ตอนนี้พอเราเริ่มโตขึ้นมันก็มีประสบการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้นกับเรา อย่างที่ผ่านมาเราก็รู้สึกว่า เออ…มันก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้เนอะ ในชีวิตคนเรา มันน้อยครั้งที่เราจะเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด เราไม่รู้หรอกว่าอนาคตเราจะไปเจออะไรแบบไหน ถือเป็นประสบการณ์มากกว่า ทำให้เราระวังตัวมากขึ้น เข้มแข็งขึ้น เราผ่านมันไปได้ก็ถือเป็นบทเรียนบทนึงสำหรับเรา”

ถือว่าปีที่ผ่านมาเป็นที่ไม่ดีเลยสำหรับความรัก?
เอาจริงๆในชีวิตเรื่องความรักไม่เคยดีเลย ตั้งแรกๆมาเลย เหมือนชีวิตไม่แฮปปี้เรื่องความรัก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก็บอกกับที่บ้านว่าถ้าไม่แต่งงานโอเคมั้ยแม่ แม่บอกว่าแต่งเถอะลูกอยากมีหลาน ตอนแรกที่เรามีคนเข้ามาคุย หรือเรามีแฟนเรารู้สึกว่าเราจะต้องมี แต่พอวันที่เราไม่มีเรารู้สึกว่าเราสนุกกับชีวิตมาแล้ว เราโฟกัสกับการทำงาน ดูแลครอบครัว เลยรู้สึกว่าแบบนี้แฮปปี้ดี ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีใครมาคุยกับเราตลอดเวลาก็ได้ ตอนนี้เริ่มชินกับความโสด ไม่มีแฟนก็อยู่ได้เพราะเราโฟกัสกับงาน และครอบครัวแทน เราไม่จำเป็นจะต้องไปคิดถึงเรื่องคนรักตลอดเวลา ความรักเป็นอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนแบบไหนจะเข้ามาในชีวิตเรา รู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่จำเป็นต้องไปรีบหา”

ท้อแท้เรื่องความรักไปเลยมั้ย?
ไม่ถึงขั้นว่าท้อแท้นะ ยังไม่ปลง เพราะยังไม่30เลย แต่ถ้า 30แล้ว ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ก็คงจะเริ่มท้อแล้ว ตัวไอซ์เองก็กำหนดไว้ว่าช่วงอายุ 30 จะเป็นช่วงที่เราอยากจะมีครอบครัวแล้ว

เราไม่ได้มองว่ามันเป็นปมที่เราไม่สมหวังเรื่องความรัก?
“ไม่ได้มอง เราเลือกมองในด้านดีๆ เราก็มองว่าที่เราไม่สมหวังเรื่องความรักคงเพราะเรายังไม่เจอคนดีๆที่เหมาะสมกับเรามากกว่าแล้วเราเองก็อาจจะไม่เหมาะสมกับเขาด้วย ยังไม่เข็ดกับความรักนะคะ มองให้มันเป็นบทเรียนว่าไม่ใช่ว่าใครเข้ามาหาเราแล้วเราจะรู้สึกดีกับเขาไปหมด”

ขอบคุณรูปจากไอจี : icepreechaya

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน