แพนเค้ก ไม่หวั่น ถูกมองกระแสดรอป อยู่วงการ 15 ปี ผ่านจุดสูงสุด คุ้มค่าได้ทำแล้ว

ยืนระยะอยู่ในวงการมา 15 ปีแล้ว สำหรับนางเอกสาว แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ เรียกว่าผ่านจุดฮอต แบบเห็นหน้าเธอทุกวันทางหน้าจอมาแล้ว บวกกับตอนนั้นงานพรีเซนเตอร์แน่นเอี๊ยด แต่หลังจากที่ตัดสินใจโบกมือลาต้นสังกัดเดิม เซ็นสัญญากับบ้านหลังใหม่ ดูเหมือนว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่ากระแสของนางเอกสาวดรอปลงไปมาก และถ้าหากเจ้าตัวเลือกที่จะเป็นนักแสดงอิสระ คงจะมีผลงานปังๆ ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันมากกว่านี้

แพนเค้ก

อ่านข่าว : ‘แพนเค้ก’รับพลังบวก พัฒนาตัว-ลับฝีมือให้คมขึ้น : คอลัมน์อาทิตย์ใส

ถามถึงเรื่องการทำงานที่หลายคนยังคงเสียดาย ถึงขนาดบอกว่าถ้าเราเป็นนักแสดงอิสระคงปังกว่านี้?
“แพนต้องขอบคุณในความหวังดีและความคาดหวังต่างๆ แต่ส่วนตัวแพน แพนคิดว่ามันคุ้มค่าสำหรับการที่มีคนรอชมผลงานเราหรือได้เห็นชิ้นงานใหม่ๆ ของเรา เพราะบางทีสิ่งที่คนอื่นคิด มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นแพน แต่สิ่งที่เป็นแพนในวันนี้ แพนคิดว่ามันคือสิ่งที่เราใช้เวลาในการเรียนรู้ และให้เวลากับมันจริงๆ กว่าจะเป็นชิ้นงานที่ออกมา ซึ่งแพนคิดว่ามันคุ้มค่าค่ะ”

ส่วนตัวเราเองเคยรู้สึกไหมว่ากระแสของเรามันดรอปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?
“แพนไม่ได้มองว่ามันมาก มันน้อย หรือว่ามันยังไง เพราะแพนคิดว่าเราก็อยู่ในแบบที่เป็นตัวเรามาโดยตลอด และเราก็ทำชิ้นงานที่มันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นละคร การเดินแบบ การเป็นพิธีกร คือเราได้ทำอะไรที่มันค่อนข้างแตกต่างอยู่เสมอ แพนไม่ได้คิดว่าอะไรคือการวัดว่ามันมากหรือน้อย ขึ้นหรือลง หรือมีข่าวตลอดเวลา แต่แพนอยากจะมีข่าวดีๆ ข่าวที่เป็นผลงานของเราให้คนได้เห็นมากกว่า เพราะงานของเราคือการเป็นนักแสดง ฉะนั้นชิ้นงานของเราก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และแพนก็อยากให้ทุกคนได้เห็นในจุดนั้น”

คลิกติดตาม ข่าวบันเทิงฮอตๆ ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

แต่หลายๆ คนก็ค่อนข้างจำได้ว่ามันมียุคหนึ่งที่เป็นยุค แพนเค้ก เพราะเราจองงานแสดง งานพรีเซ็นเตอร์ เกือบทั้งวงการ?
“ทุกวันนี้แพนก็ยังบอกตัวเองนะคะว่าแพนดีใจที่มีโอกาสได้ทำ และแพนก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว ซึ่งแพนรู้สึกว่าช่วงระยะเวลาหนึ่งเราก็ได้ทำทุกอย่าง อย่างเต็มที่จริงๆ และก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายด้วยที่วันนี้เราจะทำหรือไม่ทำ เพราะแพนเคยทำมาแล้ว แพนดีที่ในช่วงเวลาตรงนั้นค่ะ เพียงแค่ตอนนี้แพนเปลี่ยนมาทำเรื่องราวดีๆ อื่นๆ ต่อไป เพราะถึงยังไงทุกคนก็ต้องเดินหน้าอยู่แล้ว”

แพนเค้ก

สวยสง่า

เราถือว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นกำไรชีวิต?
แพนคิดว่ามันคุ้มค่านะคะ คุ้มค่าจริงๆ เพราะน่าจะเป็นระยะเวลา 15 ปี ของแพนแล้วมั้งคะ ที่ได้ทำอะไรที่มันแตกต่าง หลากหลาย และเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด ถึงแม้คนจะเห็นเรามากน้อยในแต่ละช่วงเวลา แต่จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้หยุดนิ่งเลย เพราะแพนก็ยังได้ทำอะไรใหม่ๆ มีชิ้นงานใหม่ๆ ออกมาให้ได้เห็นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ค่ะสำหรับแพน”

 

อ่านข่าว : จำฝังใจ แพนเค้ก เล่าโดนทุบรถที่แอลเอ ของสำคัญหาย ไม่คิดว่าจะเจอกับตัว

อัปเดตความคืบหน้าหลังจากที่ถูกทุบรถในต่างประเทศ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ? “ถ้าในเรื่องตามจับ “แพนคิดว่ามันไม่ได้มีอะไรคืบหน้าอยู่แล้ว มันน่าจะค่อนข้างยาก เพราะมันต่างที่ต่างทางและเรากลับมาแล้วด้วย”

ความรู้สึกของเราตอนนั้นเราช็อกไหม?
“ช็อกค่ะ ก็ตกใจ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเรา เราเดินทางเยอะมาก หลายที่ ทั้งที่มีคนเตือนตลอดว่าให้ระวังนะ ก็ยังรอดมาได้ แต่พอตรงนี้เมื่อมันเกิดจริงๆ แต่ก็ดีคือคุณแม่อยู่ และอยู่กันหลายคนเลยลำดับเหตุการณ์ว่าเราควรจะทำอะไรก่อนหลังดี”

ความเสียหายมูลค่าที่ต้องดูแล ที่เขาต้องดูแลเราประมาณเท่าไหร่ แต่ทำประกันไว้ใช่ไหม?
“ค่ะ มีประกันรถที่เราเช่าไป แต่ว่าก็ประมาณหนึ่งแหละ ก็มีของ มีโทรศัพท์ ไอแพด มีกล้อง มีเงินสดนิดหน่อยที่ติดอยู่ในกระเป๋า แต่ก็โอเค พอกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็ยังได้เจอพี่ๆหลายท่านที่บอกว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน จริงๆเจอเยอะกว่าแพนอีก ก็ยังได้คุยกันว่าเขาทำยังไงกันต่อไป เป็นอะไรดีๆแล้วกันที่เรามีโอกาสได้มาแชร์กัน”

ทางตำรวจที่นั่นเขาเป็นคนจัดการให้หรอ?
“ไม่ค่ะ ทางตำรวจที่นั่นเราติดต่อไปแล้ว เขาบอกว่า 3ชั่วโมงกว่าเขาจะมาหาเรา และมันก็ไม่ทันที่เราจะเดินทางมาขึ้นเครื่อง เราเลยต้องเดินหน้าต่อ และติดต่อทางอธิบดีกรมการกงศุล ซึ่งแพนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หนังสือเดินทางไทยอยู่แล้ว ท่านเลยแนะนำว่าให้แพนติดต่อมาที่กงศุลใหญ่ที่แอลเอ เพื่อติดต่อเรื่องเพื่อทำเอกสาร ก็พี่ๆก็ได้ดำเนินกรเอกสารให้ เพื่อให้ได้เดินทางกลับในคืนนั้นค่ะ”

เราต้องระมัดระวังมากขึ้นไหม เพราะเราต้องเดินทางไปต่างประเทศตลอด?
“จริงๆเราเดินทางเราระมัดระวังอยู่แล้ว เพียงแต่เราอาจจะมีความชะล่าใจ เอกสารสำคัญอย่างเช่นพาสปอร์ตควรจะอยู่ติดตัว ไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้ หรือว่าของต่างๆถ้าอยู่ในรถก็อาจจะต้องมิดชิด มีอะไรปิด หรือให้เห็นน้อยที่สุด ก็จะได้เป็นการเตือนเรา เพราะบางทีเราไม่ระวัง ทิ้งของไว้ในรถ ไม่เป็นไรหรอก อยู่ในที่ที่ไม่ได้เปลี่ยวอะไร อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆนะคะ”

รู้สึกหลอนกับการไปต่างประเทศเลยไหม?
“ไม่กลัวต่างประเทศแต่ต้องระวังมากขึ้น จะรู้สึกว่าไม่อยากเอาอะไรที่เป็นของมีค่ามากไป หรือถ้ามีก็ต้องติดตัวเอาไว้ตลอด”

ไม่ถึงขั้นหลอนเวลาไปไหนมาไหน?
“ไม่ๆค่ะ จริงๆก็ยังดีที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งของเราก็ยังหาใหม่ได้ ก็เดินหน้า ก็ถือเป็นอุทาหรณ์แล้วกันค่ะในการเดินทางของเราค่ะ”

สารวัตรหมีแนะนำวิธีการป้องกันเบื้องต้นไหม?
“พี่คือแนะนำมาตลอด แล้วพี่หมีก็ช่วยประสานทางด้านสายการบินให้ ตั้งแต่ที่แอลเอ จนกลับมาถึงกรุงเทพ จนผ่านตม. ก็ดูแลกัน ก็บอกว่าเนี่ยพี่เตือนแล้ว ก็คือเคยบอกกันอยู่แล้วว่าเราไม่ควรทิ้งของไว้ในรถ ก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้น”

แสดงว่าโดนดุ?
“พี่หมีก็เตือนค่ะ (หัวเราะ) ก็คราวหน้าเดินทางก็ต้องระวังมากขึ้น”

เขาเป็นห่วงเรามากขึ้นไหม เพราะครั้งนี้เราอาจจะปลอดภัย แต่ครั้งหน้าเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรบ้าง?
“เขาก็เป็นห่วง แต่เขาก็จะบอกว่าในสถานที่ในประเทศที่เราไป ก็มีคนเตือนเอาไว้ค่อนข้างเยอะ และทุกวันนี้ก็เกิดเหตุแบบนี้ค่อนข้างเยอะ กับคนไทยในต่างประเทศอยู่แล้ว ก็ให้ระวังมากขึ้น อะไรที่สำคัญอย่างที่บอก ให้ติดตัวเอาไว้ดีกว่าค่ะ”

ถึงขนาดต้องตามไปต่างประเทศด้วยไหม?
“ไม่ค่ะ จริงๆเขาก็ให้เราได้ดูแลตัวเองแหละ เวลาเราเดินทางเราไปกัน คุณแม่อยู่ น้องอยู่ ทริปไหนไปด้วยกันได้ก็คือไป แต่ว่าไปกันเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ”

 

ขอบคุณภาพจากไอจี : khemanito

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน