ผู้กำกับฯ-ทีมเขียนบท รักฉุดใจฯ ตอบข้อสงสัย ทำไมตอนจบ ทานตะวัน เลือก ฉลาม

ละครจบ แต่กระแสไม่จบ สำหรับละครเรื่อง “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ที่คนดูแบ่งทีมทั้งชอบและไม่ชอบ ตอนจบ ถึงขั้นมีคนคอมเมนต์ว่าจะไปเผานาดาว ล่าสุด บอส-นฤเบศ กูโน ผู้กำกับฯ และ ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร ผู้เขียนบทละครเรื่องนี้ ได้ออกมาให้ชี้แจงสาเหตุที่ละครจบลงที่ทานตะวัน รับบทโดย ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ เลือก ฉลาม รับบทโดย สกาย วงศ์รวี นทีธร

ผู้กำกับฯ

ตอนจบ ทานตะวันเลือกฉลาม

อ่านข่าว : ดราม่าหนัก รักฉุดใจฯ งงตอนจบ แห่ถล่มนาดาว โอปอล์ ขอมูฟออน แพทตี้ ปลอบ ซันนี่

กับฟีดแบ็กตอนจบของ “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ที่ดุเดือดรู้สึกอย่างไรบ้าง?

บอส “โอเคครับ ทุกอย่าง นาดาว ยังปกติอยู่ครับ(หัวเราะ) ฟีดแบ็กกลับมาหลากหลายมาก มีการแบ่งทีมกันสนุกสนาน มีทีมหมอเป้ง ทีมฉลาม ทีมบะหมี่ ทีมทานตะวัน มีทุกทีม ได้อ่านทุกฟีดแบ็คครับ ได้เห็นหลากหลายมุมมองมากขึ้น”

ฟีดแบ็กน่ากลัวไหม?

บอส “ไม่ขนาดนั้น แต่ว่าได้เห็นหลากหลายมุมมอง หลายความคิดเห็นมากขึ้น ตอนที่เราเขียนบท เราได้เห็นมุมของหมอเป้งกับทานตะวัน พอมาอยู่ในโซเชียล มันก็ได้เห็นมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น”

ผู้กำกับฯ

บอส-นฤเบศ ผู้กำกับฯ และ ปิง-เกรียงไกร ผู้เขียนบท

กับฟีดแบ็กที่บอกว่าจะเผานาดาว ตรงนี้เรารู้สึกยังไง?

ปิง “ตอนนั้นก็ส่งไปในกรุ๊ปทุกคนเลยครับ(หัวเราะ) ประสบการณ์เรื่องเผานาดาว มีมาหลายเรื่องแล้วครับ เข้าใจว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำจริงๆ หรอก เรารู้สึกดีใจที่ทุกคนมีอารมณ์ร่วมกับมันจริงๆ

กับตอนจบทำไม ให้ทานตะวัน ตัดสินใจไม่เลือกหมอเป้ง?

บอส “ตั้งแต่เขียนบท เราได้วางโครงสร้างไว้แบบนี้ เราอยากเล่าเรื่องความสัมพันธ์คู่รักที่เขาใช้ชีวิตแล้วไม่ค่อยเข้ากัน สุดท้ายปลายทางที่เขาต้องแยกจากกันมันด้วยเหตุผลและปัจจัยอะไรบ้าง แล้วก็อินเสิร์ตจากคู่รักต่างๆ ว่ามันจะเกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง ทั้งที่ทั้งคู่เขาผูกพันกันมาก ซึ่งในเรื่องเราก็ได้เห็นแล้วในมุมของแฟนที่ไม่ใส่ใจ ไม่พูดความรู้สึกตรงๆ ออกไป หรือว่าในมุมของผู้หญิงที่ทุ่มเทให้กับแฟนมาก สุดท้ายแล้วอยากที่จะเป็นคนเรียกร้อง แต่ก็ไม่กล้าเรียกร้อง จนกระทั่งไปเผลอใจไปชอบเด็กคนนึงขึ้นมา สุดท้ายสถานการณ์มันก็พาไปเรื่อยๆ จนตัวละครค่อยๆ เรียนรู้ และค้นพบว่าเราเลือกทางที่สบายใจดีกว่า ที่จะไปอึดอัดกับเรื่องเดิมๆของเรา”

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ผู้กำกับฯ

โจทย์แรกเราอยากนำเสนออะไรให้กับคนดู?

ปิง “เราตั้งต้นจากสิ่งที่สนุกที่สุด ตอนนั้นบอสตั้งต้นเรื่องมาที่แอมบูแลนซ์ก่อน เริ่มต้นมาจากทีมหมอ อยากเห็นเรื่องของความฉุกเฉิน อยากเห็นนาทีชีวิต แต่ก็อยากให้มันเป็นหนังรัก มากกว่าเป็นหนังหมอจริงจัง เลยมาหาเส้นเรื่องรักกันว่า เรื่องอะไรที่มันซับพอร์ตไปกับเรื่องหมอไปได้ บอสก็ไปหาข้อมูลด้วยการไปคุยกับคุณหมอ และคุยกับแฟนคุณหมอจริงๆ แล้วมันก็เจอเรื่องความรัก กับการใช้เวลากับแฟน มันจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเราต้องเล่าเรื่องหมอ เพราะว่าส่วนหนึ่ง พอตัวละครเป็นหมอมันก็จะมีเรื่องของการแบ่งเวลาว่า เราจะแบ่งเวลางานกับคนในชีวิตของเราอย่างไร มันเป็นเรื่องความรักที่ดี เราตั้งต้นจากตรงนั้นก่อน มันไม่ใช่ว่าเราจะเล่าเรื่องความรักแบบนี้เท่านั้น แล้วเราค่อยๆมาปรับบท มันรันไปตามไอเดียเลย ก็เลยสรุปออกมาเป็นแบบนี้”

พอกระแสออกมาแบบนี้มันตอบโจทย์ที่เราตั้งไว้ไหม?

บอส “สำหรับบอสมันตอบโจทย์ตรงที่ว่า แฟนๆเขาดูแล้วแบ่งทีมกัน และเห็นทัศนคติที่หลากหลายมาก และเห็นมุมมองความรักที่หลายรูปแบบมาก มันเป็นความตั้งใจของเราไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”

ปิง “จริงๆ มันเหมือนกับที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่เขียนบทว่า มันต้องมีคนแบ่งทีมกันแน่ๆ ว่าคนนี้ทีมหมอเป้ง ทีมฉลาม ทีมบะหมี่ ทั้งในนาดาวเองก็แบ่งทีมกันหลากหลายมา”

บอส “ผมมองว่ามันเป็นเรื่องทัศนคติมากกว่า พอทีมงานอ่านปุ๊บก็เชื่อว่าทีมนั้นถูก ทีมนี้ถูก และเราก็รู้สึกว่าคนดูก็จะรู้สึกแบบนี้”

แสดงว่าเราตั้งใจไว้แล้วว่าอยากให้คนดูเรื่องนี้แล้วแสดงความคิดเห็นของแต่ละคน?

บอส “มันเป็นอย่างที่พี่ปิงบอกเมื่อสักครู่ว่า พอเราจะเริ่มจากความสัมพันธ์แบบนั้น เราก็เริ่มต่อพล็อตไปเรื่อยๆ จนเราเห็นว่ามันมีความรักหลากหลายรูปแบบมาก ที่จะขยายให้เรื่องดูสนุกมากขึ้น พอมันมีหลากหลายความสัมพันธ์เข้ามา ทั้งตัวบะหมี่ ตัวฉลามเข้ามา ท้ายที่สุดระหว่างที่เราเขียนบท เขาคิดว่ามันต้องเกิดการแบ่งทีมแน่ๆ เหมือนระหว่างการทำงานมันเห็นภาพมากขึ้น”

ผู้กำกับฯ

บะหมี่ รับบทโดย ต้าเหนิง กัญญาวีร์

คิดไหมว่าความอินมันจะรุนแรงขนาดนี้?

ปิง “เรื่องเลเวลความอินเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าคนดูอยู่ในจุดไหน แต่เรารู้สึกว่าการถกเถียงจะเกิดขึ้นแน่ๆ แต่เลเวลความรุนแรงมันเป็นสิ่งที่เรามาเจอระหว่างทางว่าคนดูอินอยู่ระดับนี้ แล้วเราก็ค่อยๆศึกษาฟีดแบ็กไปเรื่อยๆ”

บอส “ซึ่งมีหลายๆอันที่มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด พอมาถึงอีพี 6-7 เราคิดว่าคนต้องมาอยู่ทีมนี้แน่ๆ แต่คนไปเทอีกทีมนึง มันทำให้เรียนรู้เหมือนกันระหว่างที่ฉายไป พอเราเช็คเราก็จะฟีดแบ็ก เราอยากทำละครให้คนดูเข้าถึงตัวละคร ไม่ว่าคนไหนเขาก็จะมีเหตุผลเป็นของตัวเอง แต่ปรากฎว่าเราเพิ่งเจอคนดูที่ไม่เคยเปลี่ยนทีมเลย เราก็มาคุยกันว่ามันเป็นเพราะอะไร มันก็น่าจะเป็นเพราะว่าละครเรื่องนี้มันไปตรงตามทัศนคติของการใช้ชีวิต และประสบการณ์ความรักของคนดูแบบไหนบ้าง แล้วเราเชื่อความรักแบบไหน เราก็จะไปเชียร์แบบนั้น ซึ่งประสบการณ์การณ์ความรักของหมอเป้ง กับฉลามไม่เหมือนกัน”

ผู้กำกับฯ

แฟนละครบางส่วนไม่พอใจ ทานตะวัน เลือก ฉลาม

ในแง่ของคนทำ เรามีมมุมมองอย่างไร เพราะว่าบางคนก็มองว่าถ้านางเอกเลือกแบบนี้คือผิด?

บอส “เราไม่ได้มองว่าอันไหนผิด มันเป็นสถานการณ์ของตัวละคร ณ ตอนนั้น อย่างเราเป็นคนดู เรามีมุมมองเหมือนเป็นพระเจ้า เพราะเราเห็นมุมมองในความคิดของบะหมี่ ของเป้ง ซึ่งคนก็จะสงสารเป้ง แต่ในตัวละคร ณ ตอนนั้นเขาไม่ได้เห็นทุกมุมมองเขาก็ตัดสินใจ กับเหตุการณ์ตอนนั้นที่เขาไม่เห็นมุมทั้งหมด”

ปิง “อันนี้เราต้องยอมรับเราทำให้คนดูไปไม่ถึงจุดนึง คือปกติคนดูต้องมีส่วนร่วมว่าตัวละครไปเจออะไรมา แต่ละครเรื่องนี้สิ่งนึงคือเราไม่ได้ทำให้เห็นประสบการณ์ความรักอันยาวนานของทานตะวันกับหมอเป้ง 15 ปี เราอยากให้คนดูสนุกที่สุด เราเลยสตาร์จุดที่เกิดปัญหา แต่กลายเป็นว่าการที่เราไปเริ่มตอน 1 ที่ว่า เราเห็นคู่รักที่รักกันมา 15 ปีแล้ว แต่ได้เห็นน้อยไปหน่อยว่า 15 ปีที่ผ่านมาประสบการณ์รักของทั้งคู่เป็นอย่างไรบ้าง มันก็มีให้เห็นบ้างว่า ทานตะวัน เห็นเป้งรักษาคนไข้ได้

“เราก็ไม่อยากที่จะไปรบกวนเวลาหมอ มันทำให้เขารู้สึกแบบนี้ มันมีอธิบายมานิดหน่อย แต่เราไม่ได้นำเสนอให้เห็นรายละเอียดก่อนหน้านั้นใน 15 ปีมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งจริงๆ มันเกิดเรื่องขึ้นมาก มันก็เป็นประสบการณ์ของเราว่าเราให้คนดูเห็นประสบการณ์ของตัวละครน้อยไปหน่อย ในมุมของคนเขียนบทเรารู้เรื่องราวของตัวละครว่าถ้าเราเจอเรื่องราวแบบนี้ 15 ปีมาเราจะรู้สึกอย่างไร การตัดสินใจตัวละครต้องเป็นแบบนี้ เรายอมรับข้อผิดพลาดตรงนี้”

 

ผู้กำกับฯ

ทีมหมอเป้งเศร้าเลย

ฟีดแบ็กที่รุนแรง ติดทวิตเตอร์โลกเรา พอใจแค่ไหน?

บอส “พอบอสทำงานนี้เสร็จออกมา สุดท้ายแล้วงานนี้มันกลายเป็นของคนดูไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟีด แบ็กอะไรมา เราก็ต้องคัดกรอง อันไหนที่ติ เราก็ยอมรับและพัฒนาขึ้นในงานหน้า เราพยายามดูฟีดแบ็กต่างๆ ว่าอันไหนนำมาปรับใช้ได้บ้างในงานหน้า”

ปิง “ตั้งแต่เราทำงาน เราชอบอ่านฟีดแบ็กมากๆ มันคือของจริงของคนดู เราคนทำงาน เราคิดกับมันอีกแบบนึง พอมันฉายไปถึงคนดูแล้วมันก็มีบางอย่างที่เราคิดไม่ถึง พอเราย้ายสนามมาสนามที่กว้างขึ้น เรายังไม่คุ้นเคยมาก ตั้งแต่เราทำเรื่อง เลือดข้นฯ เราได้เรียนรู้ว่ากลุ่มคนดูกว้างขึ้นเขารับกับการเล่าเรื่องแบบนี้นะ ต้องเล่าประมาณไหนถึงจะพอ แล้วเราก็เอาประสบการณ์จากเรื่องนั้นมาทำเรื่องนี้ แต่ว่าละครเรื่อง เลือดข้นฯ ก็ไม่เหมือนเรื่องนี้ เพราะว่าในชีวิตจริงเราไม่มีพี่น้องที่ฆ่ากัน เราอยู่ในฐานะคนดู เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรัก มันจะไปเฉียดกับชีวิตจริงมากขึ้น เราจะรู้สึกว่าตัวละครควรทำแบบนี้สิ มันเลยเกิดฟีดแบ็กไปกับมัน ทั้งหมดคือคนดูอินกับมัน ถือว่าเราประสบความสำเร็จที่สามารถทำให้คนดูอินได้

ทำไมถึงทำเป็น 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นที่ฉายต่างประเทศ กับเวอร์ชั่นที่ฉายในไทย?

ปิง “เวอร์ชั่นต่างประเทศ มันเป็นเวอร์ชั่นที่เราต้องส่งก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ช่วงที่เราส่งเวอร์ชั่นนั้นไป พอในช่วงที่จะฉายในไทย เหมือนตัวเราเองได้มีเวลากลับไปกับมัน เราก็มีดูว่ามันมีบางอย่างไหมที่ทำให้คนดูเข้าใจตัวละครผิด มันมีการดึงบางฉากออกเล็กๆน้อยๆ ไม่มีเจตนาทำ 2 เวอร์ชั่น มันเป็นเรื่องระบบมากกว่า ที่เราต้องส่งตรงนั้นไปก่อน”

แต่ปรากฏว่ามีคนชอบเวอร์ชั่นที่ฉายต่างประเทศมากกว่า เพราะว่ามันดูเคลียร์กว่า?

บอส “จริงๆ พอมันมีสิ่งที่ต่างเล็กๆ น้อยๆ อารมณ์คนดูก็เปลี่ยนแล้ว มันอาจจะมีคนบางกลุ่มที่ชอบอันนั้นจริงๆ หรือบางกลุ่มที่ชอบอันนี้จริงๆ เพราะว่ามันก็มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ มีส่วนกับอารมณ์ของคนดู”

ผู้กำกับฯ

รักฉุดใจนายฉุกเฉิน

จะมีภาค 2 ไหม?

บอส “บอสทำเรื่องนี้ปีครึ่ง ขอพักแป๊บหนึ่ง ในระหว่างที่ตัดสินใจว่าจะยังไง ขอให้ไปซบอกพี่ซันนี่แทน(หัวเราะ)”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน