จากหนัง‘รักแห่งสยาม’ เติบโตสู่ ‘ดิวไปด้วยกันนะ’
คอลัมน์ เสาร์สด
ชานนท์ พิทักษ์ตันสกุล
ทิ้งระยะห่างมานานถึง 12 ปี จาก “รักแห่งสยาม” จนมาถึง “ดิวไปด้วยกันนะ” ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในแนว LGBT (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) ของผู้กำกับฯ ‘มะเดี่ยว’ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่ได้พระเอกดัง ‘เวียร์’ ศุกลวัฒน์ คณารศ มารับบท ‘ภพ’ ตอนโต พร้อม 3 นักแสดงใหม่ ‘โอม’ ภวัต จิตต์สว่างดี (ดิว), ‘นนท์’ ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ (ภพ) และ ‘ปั๋น’ ดริสา การพจน์ (หลิว) ร่วมด้วย ญารินดา บุนนาค (อร) อำนวยการสร้าง โดย CJ MAJOR ENTERTAINMENTS
ทั้งนี้ มะเดี่ยว เผยถึงเรื่องราวของหนัง “ดิว ไปด้วยกันนะ” ว่า “เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่มาทำงานเป็นคุณครูในโรงเรียนเก่าที่เขาเคยเรียนอยู่ และมีภารกิจที่ต้องดูแลเด็กคนหนึ่งที่ค่อนข้างซนแต่เป็นน้องผู้หญิง แต่ไปๆ มาๆ การมาทำงานในโรงเรียนเก่า ทำให้เขานึกถึงใครบางคนที่ในอดีตเขาเคยมีเรื่องไว้ เรื่องราวความรักความผูกผันและความรู้สึกพิเศษระหว่างเด็กหนุ่มอายุ 17 สองคน ‘ดิว’ และ ‘ภพ’ ที่เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ เชิงดอยปางน้อย ในปีพ.ศ.2539
จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนใกล้ชิด ผ่านความทรงจำทั้งเสียงหัวเราะ รอยน้ำตา และต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่นำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิตทั้งคู่ 23 ปีต่อมา ภพเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ได้แต่งงานกับอร เขาได้กลับมาที่ปางน้อยในฐานะครูที่โรงเรียนเก่าสมัยมัธยม ที่นั่นทำให้ได้เจอหลิว นักเรียนหญิงม.ปลายที่มีอะไรบางอย่างทำให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตที่กลายเป็นปมผิดพลาดในใจ”
ตัวหนังเห็นว่าเป็นแนวโรแมนติกหนักมาก “(หัวเราะ) น่าจะเป็นอย่างนั้น ด้วยเรื่องนี้มีผู้ลงทุนเป็นคนเกาหลี ก็จะมาแนวด้านนั้นอยู่แล้ว และเราไม่ได้ทำหนังแนวโรแมนติกมานานแล้ว และยังมี LGBT ด้วย 10 กว่าปีแล้วมั้ง แต่คนอาจจะมองว่าหนังเกย์ต้องเป็นพี่มะเดี่ยวทำจริงๆ ที่ผ่านมาไม่ได้ทำหนังแนวนี้เลยนับเป็น 10 ปีแล้ว แต่เราก็อยู่ในวงการนี้ตลอด ทำละครด้วยก็จะเห็นภาพได้กว้างขึ้น จะเห็นว่าคนดูชอบอะไร
หลังๆ จะมีซีรีส์แนวชายรักชายเยอะก็มองเห็นพวกนี้ชัดขึ้นว่าคนที่ดูหนังแบบนี้จะเป็นคนแบบไหน พอมาทำงานเราก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่ากำลังจะทำอะไร ทำให้ใครดู ถ้าถามว่า ตื่นเต้นมั้ย เราคงรู้สึกว่าการกลับมาทำหนังคล้ายแบบเดิม ตรงนี้คนดูกลุ่มเก่าก็โตขึ้น คนกลุ่มใหม่ๆ ก็กำลังมา ไม่รู้เลยว่าเขาจะมองหนังเรายังไง”
แต่ยังเอาใจสาววาย “ใช่ เราต้องรู้ฐานแฟนคลับและคนดูเยอะพอสมควรในการจะทำหนังขึ้นมา”
ตัวหนังสื่อให้เห็นรักแท้มีอยู่จริง “รักแท้มีอยู่จริง แต่ต้องหาให้เจอ (หัวเราะ)”
ทำไมถึงชื่อเรื่อง “ดิวไปด้วยกันนะ” “เราอยากมีอะไรเล่นๆ กับคนดูหน่อย ในหนังจะมีฉากที่พากันไปเที่ยวไหนด้วยกันอยู่ตลอด ส่วนชื่อเรื่องถ้าทันหนังไทยสมัยก่อน มันจะมีชื่อประหลาดๆ และด้วยหนังเป็นแนวยุค 90 เราค่อนข้างอุทิศกับหนังเรื่องนี้ในยุคที่เราเติบโตมา ก็จะมีกลิ่นชื่อหนังแปลกๆ เพราะสมัยก่อนในยุคที่หนังไทยกำลังเฟื่องฟูจะมีชื่อประหลาดๆ อยู่”
จุดเด่นอะไรของหนังเรื่องนี้ ที่สามารถดึงดูดคนได้ “ด้วยเป็นหนังออกแนวดราม่า การแสดงสำคัญมาก และนักแสดงทุกคนที่เราคัดเลือกมาเล่นต้องมีฝีมือจริงๆ ถึงจะมาถึงจุดนี้ได้ คนที่มาดู มาดูการแสดงผลงานของพวกเขาแค่นี้ก็คุ้มแล้ว”
นักแสดงทำไมต้องเป็น ‘เวียร์-ศุกลวัฒน์’ “เราต้องการนักแสดงนำชายที่มีพลังในการแสดงมากๆ และบททุกอย่างไปตกอยู่ที่เวียร์คนเดียวเลย ตัวนักแสดงเด็กก็หนัก เพราะจะต้องไปเจอสิ่งที่เวียร์ไปเจอมาตอนเด็กๆ ค่อนข้างสาหัสเหมือนกัน เพราะคนที่จะแบกรับอดีตเหล่านั้น และการแสดงที่นุ่มลึกมีมิติ เรามองนักแสดงชายไทยอยู่ไม่กี่คน และคนนั้นก็เป็นเวียร์คนที่เรานึกถึงเป็นคนแรกๆ”
หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นอะไ ในสังคมไหม “สะท้อนหลายอย่าง มันมียุคสมัยที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยพบเจอ ก่อนหน้านั้นความเป็น LGBT บาดแผลมันค่อนข้างแรง ส่งผลมาให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนในยุคนี้ เพียงแต่ในหนังบอกถึงการอย่าทำผิดพลาดอีก”
สำหรับสิ่งที่คนดูจะได้รับหลังได้ชมหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับฯกล่าวว่า “หลักๆ ความบันเทิงความสนุก แต่จะได้ความรู้อะไรแล้วแต่มุมมองของคนที่มาดู และได้เอาสิ่งที่เขาตกตะกอนจากการดูหนังเรื่องนี้เป็นยังไง เป็นสิ่งที่เขาจะจดจำเอาไว้ ตัวเราอยากให้รู้ว่าสมัยก่อนไม่ได้เปิดกว้าง แต่มันไม่ใช่ประเด็นหลักของหนัง เขาเรียกว่ามันเป็นประสบการณ์ร่วมมากกว่าที่เรามานำเสนอ ใครดูแล้วอินในมุมไหนก็จะได้ข้อคิดแนวนั้นไป”
มีคนตัดต่อฉากหนัง “รักแห่งสยาม” และ “ดิวไปด้วยกันนะ” เป็นฉากๆ ตอนๆ ทำให้คนเห็นว่านี่คือหนังของมะเดี่ยว “แรงมาก เหมือนเป็นลายเซ็นหนังเรื่องนี้สามารถดูได้ทุกวัยนะ เรื่องนี้จริงๆ เป็นของเกาหลี แต่เรามาดัดแปลงเป็นไทย ไม่ให้เห็นแนวเกาหลีเลย”
ทำหนังแนว LGBT ขึ้นมา จุดประสงค์อยากให้คนเปิดรับเพศที่สามมากขึ้นไหม มะเดี่ยวเผยว่า “เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว รักแห่งสยามทำให้สังคมเราเปิดมากขึ้นเลยตอนนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าใครจะต้องยอมรับ แต่คิดว่ามันถูกยอมรับมาประมาณหนึ่งแล้ว เพียงแต่เรามองย้อนกลับไปนิดหนึ่งว่าก่อนจะมาถึงจุดนี้มันเป็นยังไง คนที่มีชีวิตมาถึงปัจจุบันนี้ แต่ละคนต้องเจอจุดผิดพลาดอะไรในอดีตมาบ้าง และหวังว่าอนาคตเราจะไม่เป็นแบบอดีตที่ผ่านมา”
ติดตามชมภาพยนตร์ “ดิว ไปด้วยกันนะ” ได้แล้ว ทุกโรงภาพยนตร์