ซุปตาร์สาว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานอีเวนต์หนึ่ง ที่โซนอีเด็น ชั้น1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิล์ด เล่าเหตุการณ์ลงพื้นที่ตามหาสุนัขจนต้องจุดธูป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

 

โดย อั้ม เผยว่า “จริงๆ ตรงนี้อั้มไปมา 2 วันแล้วนะคะ เพราะวันแรกที่อั้มรู้จักเจ้าของ อั้มก็ทราบมาว่าเขาหากันมา 5 วันแล้ว แต่หาไม่เจอ ซึ่งถ้าน้องหมาหายไปนานๆ แบบนี้อั้มก็กลัวไงคะว่ามันจะเป็นอันตรายกับเขา อั้มก็เลยคิดว่าถ้าอั้มมีเวลาว่างอั้มลงไปช่วยหาด้วยดีกว่า ตอนนั้นก็เลยคุยกับพี่ยุ้ยและก็บอกเขาว่าเราต้องเตรียมอุปกรณ์ก่อน คือไปหาซื้อรองเท้าบู๊ท เตรียมของนู่นนี่นั่น ซึ่งวันแรกที่อั้มไปถึงอั้มรออยู่ 5 ชั่วโมงครึ่งนะคะจนได้เจอเขา เพราะเขาเดินออกมาทานข้าวหลังจากที่เขาไม่ได้ทานมาหลายวัน เนื่องจากโดนหมาเจ้าถิ่นไล่ให้เขาต้องไปหลบอยู่ในป่า คือวันนั้นเราเห็นเขาแล้วและก็ยืนรอเขาเพราะเราไม่สามารถเอาตัวเขาออกมาได้ เพราะช่วงใกล้ค่ำมันก็อาจจะมีตัวเงินตัวทองหรือมีงูออกมา คือเราก็ยืนรอแล้วรออีก รออยู่ 5 ชั่วโมงกว่า แต่ตอนนั้นก็ต้องพยายามกินน้ำน้อยๆ ด้วยนะคะเพราะว่าเราเข้าห้องน้ำไม่ได้ จนสุดท้ายพอมันเต็มที่สุดๆ แล้วเราก็ได้พี่ๆ อาสากู้ภัยเข้ามาช่วย แต่ก็ด้วยความกลัวของน้องหมาเขาก็เลยหนีเพราะเขากลัว สรุปแล้วก็คือหาไม่เจอ”

 

นางเอกสาวกล่าวต่อ “พอมาอีกวันเราก็ออกตามหากันใหม่ แต่ครั้งนี้ก็คิดนะว่าถ้าไม่เจอไม่ได้แล้วแหละ เราก็เลยตัดสินใจจุดธูปเพื่อขอให้เจอเขา และสุดท้ายก็เจอจริงๆ ดีใจมากค่ะ”

 


ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ณ ตอนนั้นที่เจอน้องหมาเขาไปหลบอยู่ตรงไหน นางเอกสาวเผยว่า “ก็อยู่ตรงนั้นนั่นแหละแต่เราไม่เจอ และที่สำคัญจริงๆ วันนั้นเราได้ยินเสียงแมวร้องนะ แต่ด้วยความที่หมายังหาไม่เจอไงคะ ดังนั้นวันที่สองพอเรามากันตอนเย็นอีกครั้ง เราก็เลยตัดสินใจช่วยแมวก่อน เพราะแมวเขาร้องตั้งแต่เมื่อวานแล้วและเขาออกมาไม่ได้ ซึ่งอั้มต้องขอบคุณทีมเดอะว้อยซ์ด้วยนะคะเพราะเขาเก่งมาก มาช่วยกันระหว่างรอกู้ภัย ส่วนอั้มก็ส่งเสียงร้องเรียกแมว เหมียว เหมียว ซึ่งน้องเขาก็ตอบกลับมาบ้างเหมือนกันนะ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนแรกมีท้อไหมเพราะว่าโอกาสที่จะเจอมันยาก

 

อั้มกล่าวว่า “ไม่ท้อ แต่นึกว่าต้องได้ตัวแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ เราก็เสียใจนอนไม่หลับ ตอนแรกกะจะไปช่วยวันเดียว แต่พอไปเห็นหน้าเขาแล้วอยู่ในพุ่มไม้ก็เลยอยากที่จะช่วย”

 

ตอนนั้นไม่ห่วงสวยอะไรเลยใช่ไหม
“วันนั้นก็ไม่ได้ทาครีมกันแดดไปค่ะ หน้าไหม้ไปเลย ก็โดนหญ้าบาดนิดหน่อยด้วย”

 

เป็นเคสที่ยากที่สุดเลยไหมตั้งแต่ช่วยสัตว์มา
“คืออั้มไม่ค่อยได้ลงไปช่วยใครเท่าไหร่ แต่เผอิญวันนั้นเป็นช่วงสงกรานต์ว่าง ไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ ก็เลยแบบว่า อุ้ย เราต้องช่วย”

 

แล้วตอนนี้ใครดูแลอยู่
“ก็คนที่ช่วยตามหาค่ะ ที่ไปตามหาคนแรกเขาเป็นคนดูแลเพื่อประกาศหาบ้านต่อไป ถ้าใครสนใจก็ติดต่อมาได้”

 

แล้วยังมีเคสแบบนี้ที่ให้เราช่วยเหลืออีกไหม
“คือถ้าเราเห็น เราว่างและใกล้บ้าน รถไม่ติด เราไปได้ แต่ถ้าไกลๆ เราก็จำเป็นต้องส่งใจช่วยจริงๆ ถ้าเราไปไม่ได้ค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน