วิวาห์ล่ม! ปู ไปรยา ถอนหมั้น แมทธิว เลือกงาน โต้ฝ่ายชายปลอม

วิวาห์ล่ม! – วันที่ 24 ม.ค. ที่ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นางเอกสาว ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน “Venezuela Film Night (เวเนซุเอลา ฟิล์ม ไนท์)” ยอมรับว่าวิวาห์ล่ม ทั้งที่กำหนดวันไปเรียบร้อยว่าจะแต่งงานช่วงเดือน ก.ค.2564 และได้ถอนหมั้นกับแฟนหนุ่มตาน้ำข้าว แมทริว บราก พร้อมกับโต้ข่าวลือ ฝ่ายชายไม่รวยจริง และไม่ได้เป็นคนซื้อแหวนเพื่อจัดฉากให้ฝ่ายชายของแต่งงาน

นักแสดงสาวเเผยว่า “เริ่มตั้งแต่ต้นเลยดีกว่า เพื่อความเข้าใจ ปูก็เป็นคนตรงๆ เดือนนี้มีอีเวนต์เข้ามา 4 งานตั้งแต่ข่าวนี้ แต่ว่าปูไม่รับ เพราะส่วนตัวปูคิดว่า ข่าวที่ไม่ได้เกี่ยวกับปูโดยตรงแต่คนที่ปูรักไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ปูหาเงินจากข่าวนี้ไม่ได้ เพราะปูมีหลายเรื่องจะต้องแก้นิดนึง เพราะปูรู้สึกว่ามีบางเรื่องไม่ค่อยแฟร์ ”

วิวาห์ล่ม!

ปู ไปรยา

“แต่เอาทีละประเด็นละกัน ประเด็นแรกคือ ตอนนี้ปูกับแมทธิวลดสถานะจริง แต่เหตุผลใดปูจะอธิบายต่อ เรื่องข่าวคือ เขาย้ายมาอยู่เมืองไทยเพื่อที่จะอยู่กับแฟนเขา เขาต้องเสียสละอาชีพ เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติ เขาต้องย้ายมาทำบริษัทที่นี่โดยที่เขาไม่ได้พูดภาษา ไม่ได้รู้จักใคร เพื่อนพ่อแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เพราะปูไม่ยอมเสียสละอาชีพที่นี่ เพราะปูถือว่าสิ่งที่ปูสร้างมาปูถอยไม่ได้ เพราะปูยังต้องรับผิดชอบครอบครัว ปูยังทำงานUNที่ปูอยากทำ ปูมีเด็กที่ปูให้ทุนการศึกษา 5 คน ที่ปูรับปากว่าจะส่งจนจบ ยังไม่จบสักคน ยังอยู่มัธยม อยู่มหาวิทยาลัย ”

“ปูไม่เคยพูดว่าปูเป็นคนดี หรือเป็นนางฟ้าตามที่ข่าวเขียนไม่เคยคิดด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนที่มีอารมณ์รัก โกรธ โลภ หึง ยังมีกิเลส ยังมีอารมณ์ด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่ปูเชื่อมาตลอดที่ทำงานสังคม ก็เพราะว่า ดูประเทศเราสิ คนที่ยากลำบากมันเยอะมาก แล้วเราเป็นดาราเป็นบุคคลที่มีโอกาสเยอะมากที่ปูทำทุกวันนี้ เพียงเพราะปูคิดว่าตัวเองมีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่เพราะปูคิดว่าปูเป็นคนดี ปูทำงาน UN มาเกือบ 6 ปี ทำงานสังคมมาเกือบ 7 ปีครึ่ง แล้วส่วนมากที่ปูทำ ปูไม่เคยลดหย่อนภาษี ปูทำไม่ได้ ปูทำโดยตรง ทำด้วยใจ”

“ข่าวนี้ออกมาสิ่งเดียวที่ปูรู้สึกคือหลายรอบที่พาดหัวข่าวว่านางฟ้าภาพลักษณ์จากสวรรค์ ปูไม่ใช่นางฟ้าและไม่คิดว่าตัวเองเป็น ปูคือมนุษย์นี่แหละ แต่มนุษย์ รู้สึกว่า พอละ ปูได้เห็น ปูมีโอกาสเยอะแยะ ปูเข้างานก็ได้ค่าตัวแล้ว แล้วคนค่อยประเทศที่ไม่มีข้าวกินไม่มีน้ำป่วยอยู่บนเตียงปูขอร้องที่จะให้ปูมีภาพลักษณ์ที่จะหารายได้ต่อไป

อย่าทำให้ปูบั่นทอนจิตใจเลย เพราะทุกวันนี้ ที่เขียนว่าปูตาสว่าง ปูตาสว่างไม่พอเหรอ ปูเดินข้างทางปูก็ตาสว่างแล้ว ปูเลี้ยงเด็ก เมื่อวานไปนครศรีธรรมราช ไปหาเด็กที่ปูให้ทุนการศึกษา แม่เขาทำงานอยู่ในปั๊ม พ่อเขาทำงานอยู่ในสวน เขาใช้เงินเดือนละแค่ 1500 กับคนในกรุงเทพข้าวมื้อนึงของบางคน”

“แต่ในเรื่องของแมทริว ข่าวอักษรย่อ บางครั้งเขียนเวอร์เพื่อให้คนคลิก ไลน์ แชร์ คอมเมนต์ บางครั้งมันบั่นทอนและทำร้ายจิตใจของคนคนนึงมาก โดยในแบบที่เขาแก้ไม่ได้ แล้วแมทริวเขาเป็นคนต่างชาติ ไม่มีพื้นที่ที่จะแก้ เขาไม่เคยอวดรวย แต่บ้านเขาโอเคมีเงินใช้ แล้วคำว่าปลอมมันแรงมาก ในใจปูรู้สึกว่าเขาสูญเสียคู่หมั้นเขาแล้ว เขาต้องย้ายกลับประเทศเขาแล้ว และมาเจอข่าวนี้ตอนที่เราลดสถานะ เขาไม่ได้โกรธ เขาเข้าใจ ล่าสุดที่ตนบินไปเจอเขาที่แอลเอ ตนเห็นน้ำตาเขาคลอ เขาอึ้ง เพราะเขาไม่คิดว่าจุดจบของการที่เราจะคุยกันเป็นคำพูดที่ไม่เกี่ยวกับเขา เพราะเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอาชีพ และรายได้ของตน

ตอนนี้ที่ปูคืนแหวนเขาไปแล้ว ปูไม่ต้องซื้อแหวนให้ตนเอง เพราะตอนนี้ปูยังมีงานโฆษณา ยังมีอาชีพ ที่การแต่งงานมันจะเปลี่ยนความรับผิดชอบในชีวิตการทำงานของปู การแต่งงานมันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว เป็นแม่ของลูก พอใกล้วันแต่งงานมาเรื่อยๆ ซึ่งเราวางไว้แล้วเป็นเดือน 6 ปีหน้า ปูมองว่าปูยังไม่พร้อมที่จะสละสิ่งที่ปูสร้างมาในเมืองไทย ใครจะเสียสละชีวิตของตัวเองในวัย 30 แล้วเราจะเสียใจทีหลังมั้ย และจะมาเป็นภาระพ่อแม่เรามั้ย ทั้งที่เราสร้างมาขนาดนี้ ลูกที่คลอดมาจะยังไง

ปูคิดเรื่องพวกนี้ พี่ ป้า น้า ที่อยู่ต่างจังหวัด เด็กที่ปูส่งเรียน ภาระปูเยอะมาก ปูแต่งไม่ได้ ไม่ใช่ปูไม่รัก ปูรักเขาสุดหัวใจ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก เขาเป็นแฟนที่ซื่อสัตย์กับ ไม่เคยมีคนอื่น ไม่เคยเอาเปรียบ แต่ปูเลือกอาชีพ ผู้หญิงถ้าเลือกแล้วเราถอยหลังไม่ได้ เราแต่งงานแล้ว สมมุติมันไม่เป็นสิ่งที่เราฝัน มันจะเหนื่อยมากถ้าจะกลับมา ปูเห็นจากแม่ปูมากแล้ว เห็นจากคนรอบข้าง ปูยอมเจ็บในวันนี้เพื่อเขาจะได้ในสิ่งที่เขาคู่ควร เพราะปูเลือกแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจากข่าวลือที่เกิดขึ้นมีอะไรอยากชี้แจงบ้าง นักแสดงสาวตอบว่า

ไม่เคยซื้อแหวนเอง ถ้าตนจัดฉากทำไมไม่สร้างภาพให้มันหรูหรา ในโรงแรม ใส่ชุดราตรี ทำไมต้องญี่ปุ่น ทำต้องในสวน ทำไมต้องใส่กางเกงยีนส์ ปูไปรถ้าเมคต้องอิตาลีบนเรือ จ้างออแกไนท์ไปเลย อันที่สองที่รู้สึกว่าไม่ใช่คือ บริษัทเขาไม่ได้เจ๊ง อันนี้เลยไปนิดนึง แล้วเรื่องเขาเอาเปรียบปู แล้วเรื่องเปย์ ปูไม่ใช่ธนาคาร ตัวเขามีพ่อมีแม่ ถ้าปูมีอาชีพขนาดนี้ แล้วปูไม่คิดจะเลี้ยงแฟนสักมื้อ ไม่เคยซื้อของขวัญให้เขา คืออะไรคบมา 4 ปี ตอนนี้ไปเดินห้างคนก็มองดูว่ามีแหวนไหม มองสีหน้าตน

แล้วช่วง 4 วันก่อนปีใหม่ ตนรู้สึกผิดมากเพราะว่าเราห่างมาได้ 4-5 เดือนแต่ยังคุยกันทุกวัน คนเรารักกันมันไม่ได้เลิกกันง่ายๆ แต่เราก็มีความรับผิดชอบต่อเขา เพราะการเตรียมงานแต่งงานมันมีค่าใช้จ่าย เดี๋ยวจะเตรียมส่งบัตรเชิญออก ทุกอย่างตนตัดสินใจลดสถานะก่อนที่จะเป็นเรื่องลำบากกับพ่อแม่ของเขา แล้วจริงๆ ถ้าตนต้องการจะสร้างซีนสร้างภาพ คงต้องแต่งที่เมืองไทย

ทางแมทธิวยื้อขนาดไหนในวันที่ถอดแหวนคืนเขา นางเอกสาว กล่าวว่า

“เขาไม่ได้ยื้อเพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีศักดิ์ศรี ประโยคเดียวที่เขาพูดตอนท้ายกับตนรอบล่าสุดคือ “ยังไงก็ตามเธออย่าแพ้และอย่าล้ม ถ้าเลือกแล้วก็อย่าแพ้และอย่าล้ม ทำหน้าที่ของเธอต่อไป ถ้าอยากช่วยคน อยากทำงานสังคม คนไม่เห็นด้วย คนว่าเธอ ไม่เป็นไรเธอจะไปแคร์ทำไม ตั้งแต่ต้นเธอเลือกแล้วนิ่”

การตัดสินใจแบบนี้คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วใช่ไหม นางเอกคนเดิม กล่าวว่า

“ถ้ารู้ว่าตัวเรารับผิดชอบหน้าที่ของภรรยาและการเป็นแม่ของคนยังไม่ได้ ตอนยังไม่พร้อม การที่กั๊กคนในช่วงอายุ 30-35 ปีมันเป็นช่วงหนุ่มเนื้อหอม ตนรักเขาเกินที่จะกั๊กเขาเอาไว้ ถ้ารักใครจริงต้องปล่อย แล้วถ้าเขาเป็นของตน เชื่อว่าอีก 5 ปีเขาอาจจะมาขอตนอีกทีก็ได้”

ย้อนถามถึงงานแต่งที่เคยเตรียมการไว้ถึงขั้นไหน ปู ไปรยา บอกว่า

“เตรียมแล้วค่ะ ล็อกสถานที่ทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว แต่ก็ยกเลิกด้วยเหตุผลอย่างที่บอกไป ถึงได้บอกว่าข่าวไม่ตรงสักอย่างเลย แต่ว่าเจ็บ”

เมื่อถามถึงเรื่องที่มีคนตั้งประเด็นว่าฝ่ายชายไม่รวยจริง นางเอกคนดัง เผยว่า

คำถามนี้ตอบยาก เพราะว่าถ้าประชาชนฟังแล้วตนตอบว่ารวยก็ดูเหมือนอวดรวย ตอบว่าปานกลางก็ดูเหมือนตอบเป็นกลางอีก และถ้าให้ตอบว่าไม่รวยมันก็ไม่จริง ถึงได้บอกว่าเป็นคำถามที่ตอบยาก ฉะนั้นให้ลองไปเสิร์ชประวัติว่าคุณพ่อของเขาทำอาชีพอะไรดีกว่า แล้วครอบครัวของเขาทำอะไร

ที่ผ่านมาตนรู้สถานะทางบ้านของเขาทั้งหมด ตอนไปเยี่ยมบ้านเขา ได้ไปเจอพ่อแม่เขา แล้วพ่อแม่เขาดีมาก คุณแม่ของเขารู้ถึงข่าวนี้ด้วย ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ดาราคืออาชีพของตนนี่ ธรรมดาเรื่องนินทาเป็นเรื่องปกติ พ่อแม่เขาไม่ซีเรียส ตนกับแมทธิวแค่อึ้งทั้งคู่ เพราะจังหวะเวลามันมาในช่วงเวลาที่พวกเราคิดว่าจะได้ซ่อมแซมจิตใจ

“ตอนนี้เวลาปูมีอะไรก็ยังปรึกษาแมทธิวทุกวัน สิ่งเดียวที่ไม่ได้ปรึกษาคือบทสัมภาษณ์นี้ เพราะถ้าปูพูดกับเขาด้วยเหตุผลอีกรอบในโทรศัพท์ คิดว่ามันเจ็บปวดเกินไปแล้วสำหรับเขา แต่เรื่องอื่นปรึกษากันทุกวัน ตอนที่ไปแอลเอก็ยังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย เป็นความรู้สึกที่แปลกเพราะว่าไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แล้วยังเห็นแววตาที่เขามองปูเหมือนเดิม แต่พอถึงเวลากลับบ้านก็ต่างคนต่างกลับ บาย แค่นี้นะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยกันมาเกือบ 4 ปี” ปู กล่าว

คิดว่าจะมีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมไหม นางเอกดัง บอกว่า

ตนตอบไม่ได้ว่าเขาจะรอไหม แต่ตนรู้ด้วยใจของเขา เขาบอกว่ามันคือรักแท้ ไม่อย่างนั้นคงไม่คุกเข่าขอแต่งงาน เลยไม่รู้ว่าเขาจะรอหรือเปล่า แต่ตนทิ้งเมืองไทยไม่ได้ อาจจะให้ไปทำงานที่เมืองนอกชั่ววูบได้ แต่จะทิ้งเมืองไทย ทิ้งครอบครัว ตนยังทำไม่ได้ ส่วนว่าเรื่องที่จะให้ตัวเขาย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย คือเขาไม่มีเพื่อนที่นี่ เขาพูดภาษาไทยไม่ได้ จะให้หาเพื่อนที่มีแบ็กกราวนด์คล้ายๆ กันก็ยาก แมทธิวไม่ใช่คนชอบเที่ยวกลางคืน เขารอตนทุกวันตอนตนออกไปทำงาน พอเขาเริ่มมีงานทำเราสองคนก็ไม่ได้เจอกัน เลยเป็นสถานการณ์ที่มันไม่เวิร์ก

คุยกันหลายรอบไหมกว่าจะตัดสินใจแบบนี้ ปู ไปรยา ตอบว่า

ช่วงที่ตนเริ่มเครียดมากคือตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ถ้าติดตามข่าวก็จะเห็นว่าตนมีข่าวหลายๆ อย่างอยู่ช่วงหนึ่ง ตนเลยมุ่งอยู่กับงานสังคม เป็นปีแรกที่ตนไม่ได้รับละคร รับแต่โฆษณาและก็อยู่เมืองนอก เพราะว่าตนเริ่มรับรู้อะไรเยอะ จนรู้สึกว่าใจตัวเองไม่อยากรับรู้อะไรมาก เลยไปอยู่เมืองนอก พอแรงกดดันของงานแต่งเกิดขึ้น

ตนก็บอกเขาว่าขอทำงาน ซึ่งตนก็ทำงานจริงๆ เดือนกันยายนที่ไปเวเนซุเอลา ตนบินไปทั้งหมด 19 ไฟลต์ เขาไม่ได้เจอตนเกือบ 3 เดือน จาก 3 เดือนกลายเป็น 4 เดือน และ 4 เดือนครึ่ง เขาก็เรียกตนไปคุยว่ายังไง มีอะไรก็พูดได้ ตนเลยบอกเขาตรงๆ ว่า การเป็นผู้หญิงที่สู้มาตลอด คนพูดไม่ได้ว่าเจออะไรมาบ้าง แต่พี่นักข่าวก็รู้ว่าวงการเป็นยังไง กว่าตนจะมีวันนี้มันไม่ง่าย ตนถอยไม่ได้

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

“แฮปปี้ค่ะ มีความสุขดี แต่จะเศร้าก็ตอนที่นึกถึงเขาเพราะรู้สึกผิดกับข่าวสารที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดกับการที่ปูเรื่องตัวเองเลือกอิสรภาพของตัวเอง การเลิกกันของข่าวดารามักจะบอกว่ามีมือที่สาม ไปไม่รอด ผู้ชายปลอม ผู้หญิงปลอมนิสัยไม่ดี แต่ชีวิตของมนุษย์จริงๆ มันคือความรับผิดชอบ สเต็ปต่อไปคือความมั่นคง แล้วตัวเราพร้อมไหมแล้วกันเลิกแบบนี้มันไม่ได้เลิกแบบโกรธกัน ไม่ได้อะไรเลย แต่รู้ว่าเราทั้งคู่คือผู้ใหญ่ และรู้ว่าเดินหน้าต่อไปตอนนี้ยังไม่ได้” นางเอกสาวกล่าว

หลังจากนี้จะปิดโอกาสคนอื่นเพื่อรอเขาไหม นางเอกคนเดิมกล่าวต่อว่า

“ตนไม่มีคนอื่น เพราะตนรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือรักแท้ของตน เพราะเขาเป็นคนดี แต่รักแท้ของตนอีกคนหนึ่งคือตัวปู ตนรักตัวเอง รักประเทศตัวเอง รักครอบครัวตัวเอง รักงานสังคม รักวงการบันเทิง รักพี่นักข่าว รักกล้อง ตนถอยไม่ได้ หลังจากนี้เรื่องแต่งงานไม่ได้อยู่ในหัวตนแล้ว ถึงได้บอกว่าข่าวไม่ตรงสักเรื่อง ไม่ได้ร้อนตัวว่าอยากจะแต่งงานเพราะกลัวที่จะเสียอิสรภาพตัวเอง แต่เขาพร้อมที่จะแต่งเพราะคิดว่าถ้าตนได้แต่งงานจะได้ไปพักผ่อนพักใจที่เมืองนอก ชีวิตตนอาจจะมีความสุขมากกว่าการแข่งขันในจุดนี้ แต่คนทำงานมา 17 ปีปล่อยวางปลงยาก”

“ตอนนี้ตนได้มุมมองความรักที่โต รักใครจริงต้องปลงและปล่อย อาจจะเป็นเพราะว่าปูทำงานสังคมเยอะ เวลาที่ได้ไปอุปถัมภ์เด็กและได้เห็นว่าทำไมครอบครัวของเขาดูแลเขาไม่ได้ แล้วปูก็คิดในใจว่าถ้ามีลูกของตัวเอง ความรับผิดชอบของคนเป็นแม่ก็คือลูก แล้วเด็กๆ ที่ป่วยอุปถัมภ์เขาก็ไม่เหลือใครแล้ว อย่างเวลาที่ปูเห็นลีเดียอุ้มลูกคือน่ารักมาก แต่ในใจตัวเองคิดว่ายังไม่ได้อยากมี ปูแค่อยากอุ้มลูกของเพื่อน หรืออยากอุปถัมภ์เด็กคนอื่นๆ ค่ะ” นางเอกคนดังกล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณรูปจากไอจี : prayalundberg

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน