ปั้นจั่น ปรมะ เปิดสเปกสาว เล่าย้อนถึงรักที่ไม่สมหวังเพราะข่าวลือลบ พร้อมแผนอนาคต
ปั้นจั่น ปรมะ เปิดสถานะหัวใจ-ถือเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่มีเสน่ห์ และผ่านการมีข่าวกับสาวๆมากหลายคน ทั้งที่เป็นข่าวลือบ้าง รวมทั้งที่ออกมายอมรับว่าจริงบ้าง จนตอนนี้หลายคนมองถาพของนักแสดงหนุ่มผิวเข้ม ปั้นจั่น ปรมะ ว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้
ล่าสุด (2 พ.ย.63) นักแสดงหนุ่มคนดังเปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานในวงการ การใช้ชีวิต หรือกระทั่งเรื่องดราม่าที่โดนโจมตี ถูกแบนผลงาน เพราะแสดงความคิดเห็นทางด้านการเมือง ตามที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
- “ปั้นจั่น ปรมะ” เปิดทุกมุมความรู้สึก โพสต์เดียวพลิกชีวิต จากดังเปรี้ยงปร้างมาดิ่งลงเหว
ปั้นจั่น ยังได้พูดถึงรื่องของหัวใจ และเรื่องราวความรักที่ผ่านมา พร้อมทั้งเปิดเผยสเป๊กสาวๆ ให้ฟังอีกด้วย ไม่เท่านั้น ก่อนจะเข้าคำถามเรื่องความรัก ดาราหนุ่มเผยถึงวิธีจัดการความทุกข์ ว่าใช้วิธีปล่อยวาง ส่วนความรักจะปล่อยวางด้วยหรือไม่ ไปอ่านคำสัมภาษณ์เต็มๆ กันดีกว่า
แล้วก็ปล่อยวางชีวิตรัก
“รักก็ปล่อยวาง(หัวเราะ)”
ชีวิตรักที่แล้วดูเหมือนจะไปได้สวย
“ชีวิตรักที่จริงมันก็ห้ามไม่ได้ ผมก็ไม่ได้กล้าบอกหรอกว่าผมปล่อยวางแล้ว ผมโสดหรือเปล่า เพราะคนจะมีมันก็มี มันก็พูดยากนะ สมมุตินักแสดง-ดาราบางคนบอกว่าไม่เอาแล้ว จะไม่มีแฟนแล้วขออยู่เป็นโสดดีกว่า พอผ่านไปอีกเดือนนึง อ้าวมี คือเอาจริงๆไปว่าเค้าไม่ได้นะ เพราะว่าคนเรา เวลามันจะสปาร์กกันหรือวันไหนจะเจอกันมีความรู้สึกให้กัน มันก็พูดยาก มันไม่สามารถเลือกเวลาเลือกสถานที่ได้ แต่ถามผมว่าตอนนี้ผมมีไหม? ตอนนี้ผมโสด ถามว่าจะมีไหม? มีได้ ถามว่าไม่มีได้ไหม? ได้”
แล้วมีแฟนกับไม่มีแฟน ชอบอะไรมากกว่ากัน อันไหนมีความสุขมากกว่ากัน
“ตอบยาก มันมีความสุขคนละแบบ ชอบแบบไหนมากกว่ากันพูดยากเพราะว่า อยากมีอยากก็อยากมี แต่ถ้ามีแล้ว มันกระทบต่อสิ่งที่เราเคยเป็น แล้วมันกระทบต่อเค้า เอาเป็นว่ามีแล้วทำให้ความสุขที่มีอยู่ในปัจจุบันของเราและเค้ามันน้อยลง มองว่าทำอันนั้นไม่ได้เรียกว่าความรักที่ดีนะ มันก็พูดยาก พอเราโตแล้วมันก็ไม่ใช่ว่าเดินไปแล้วจีบๆๆ ยิ่งเราเป็นนักแสดง คนเค้าบอกว่า เจ้าชู้มีผู้หญิงเยอะ เค้าก็กลัวนะ แค่เนี่ยก็ติดภาพปั้นจั่นเจ้าชู้แบดบอยอ่ะ ”
แต่คนที่เราไปจีบ เราก็ชัดเจน
“เราก็ก็ชัดเจน แต่ประเด็นมันคือคุยๆไป แล้วมันไม่ใช่อ่ะ แล้วยังไงเราต้องอยู่หรอ ใช่ไหมล่ะ มันเสียเวลาเค้า มันก็แค่กลับไปเป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไรแน่นอน ไปเร็วก็ดีกว่าอยู่กันไปนานๆแล้ว ถ้าไม่ใช่มันเสียเวลาทั้งเค้าและเรา”
ณ ตอนนี้ผู้หญิงที่ปั้นจั่นชอบเป็นยังไง เพราะว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้ทุกปี
“อ่ะใช่ต้องพูดอย่างนี้แหละ เพราะมันเปลี่ยนทุกวันเลย ผู้หญิงที่ปั้นจั่นชอบเหรอ เหมือนแม่มั้ง คือชอบผู้หญิงเหมือนแม่มาโดยตลอด คือชอบจีบผู้หญิงเก่งกว่า ชอบผู้หญิงที่ทำงาน ผู้หญิงที่ดูเหนือกว่าเราหน่อยๆอ่ะ รู้สึกว่าเค้ามีเสน่ห์ ผมชอบเวิร์กกิ้งวูเมน ทำงาน แล้วก็เป็นคนที่อยู่ง่ายกินง่ายอยู่ แต่งตัวดูดี เหมือนเราจะเยอะเนอะ (หัวเราะ)
คือแต่งตัวดูดี หน้าตามันก็เป็นส่วนสำคัญนะ ใครที่เราจะอยากอยู่ไปด้วยทั้งชีวิต ตื่นมาตอนเช้าแล้วแบบ เอ้อ..สบายใจ แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าแบบไหนดีไม่ดี เพราะว่าแต่ละคนก็ มีสเป๊กไม่เหมือนกัน บางทีหน้าตาดีของผม แม่ผมบอกว่าไม่เห็นสวยเลย บางทีหน้าตาดีของผมเพื่อนผมบอกอะไรไม่เห็นสวยเลย เราอาจจะมองกันคนละแบบอ่ะ แต่จริงๆ ถ้าปั้นจั่นไม่มีสเป๊กนะ ดูรวมๆ แล้วเค้าเป็นผู้หญิงเก่ง มีเสน่ห์ วางตัวดี”
ที่ชอบผู้หญิงเก่งกว่าเพราะอยากให้เขาเอาเราอยู่ด้วยไหม เพราะเราก็ทำงานเก่ง
“ไม่หรอก ปั้นจั่นรู้สึกว่าผู้หญิงเก่งมันทำให้เรา…ไม่ได้เกี่ยวกับชาเลนจ์นะ เพราะชาเลนจ์มันดูเป็นเหมือนแข่งขัน ดูเหมือนเป็นผู้ชายเจ้าชู้ไปหน่อย แต่รู้สึกว่าผู้หญิงเก่งมันมีเสน่ห์สำหรับเรา ทำให้เรารู้สึกว่า เป็นพลังให้เราดีขึ้นไปอีก เพราะทุกครั้งที่ผมคบหรือคุยกับผู้หญิงที่เก่งกว่า ผมรู้สึกว่าชีวิตผมจะดีขึ้นเรื่อยๆ “
ไม่เกี่ยวกับอายุนะ
“ไม่เกี่ยว อายุมากก็ได้ อายุน้อยก็ได้นะ ขอที่เก่งเข้าตาเรา (หัวเราะ) บางทีเก่งเข้าตาเราแต่เราไม่เข้าตาเขาก็เยอะไป (หัวเราะ) “
แต่เราเป็นผู้ชายชัดเจนใช่ไหม ถ้าเกิดเราชอบผู้หญิงคนไหนเราก็จีบ
“ชัดเจน แต่หลังๆผมก็ไม่เปิดตัวแล้วนะ เพราะว่าพอเวลามันเปิดตัวข่าวมันมีผลต่อการตัดสินใจของอีกฝ่าย เพราะเดิมที ข่าวตัวปั้นจั่นเองมันก็ทำให้คนตัดสินปั้นไปในแบบที่ข่าวออกไปอยู่แล้วอ่ะ แล้วพอข่าวออกไป มันมีผลกระทบหลายอย่าง ผมเลยเข้าใจแล้วว่าพี่ๆบางคนที่เก็บเงียบเลยเป็นเพราะอะไร ผมรู้สึกว่าการเก็บเงียบมันทำให้สถานะความสัมพันธ์มันค่อยๆไป แล้วมันก็ มั่นคงกว่าเราประกาศออกไป
พอเราประกาศออกไปข่าวลง อีกฝ่ายเค้าจะรู้สึกว่าเค้าไม่ปลอดภัยแล้ว เดี๋ยวฉันก็โดนเขียนว่าฉันเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ อยู่กับดาราอย่างนี้หรือเปล่า ดีเทลมันละเอียดอ่อน แต่ก่อนไม่เข้าใจ แต่ก่อนโมโหเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าเออ..เราเป็นที่สนใจเราเป็นนักแสดงเป็นคนของประชาชน หน้าที่ก็คืออยู่ให้เป็น”
มีผู้หญิงเข้ามาจีบไหม
“ก็มีนะ ก็มีบ้าง ก็มีคนดีๆ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่อ่ะ “
ถ้าผู้หญิงจีบก่อนแล้วถ้าตรงสเปก เราก็โอเคใช่ไหม
“มันก็ยุคนี้แล้วก็เข้าใจได้ ผมไม่ได้ติดอะไร”
วางแผนไว้ไหม ถ้ามีจะครอบครัวจะ ซักอายุเท่าไหร่
“ 40 เอาจริงไม่ติด เพราะผมไม่ได้มายด์เรื่องมีลูก ผมมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แม่ผมอยากมี แต่ผมไม่ติด ผมแบบไม่มีดีกว่า ไม่ใช่เชิงสังคมนะ ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับสังคม ผมไม่มีความเชื่อในเรื่องของสังคม ฐานะที่บ้านที่จะทำให้เด็กคนหนึ่งออกมาเป็นเด็กดีมันไม่ได้เกี่ยวกับฐานะทางสังคม มันไม่ได้กลัวเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ผมเชื่อว่าการมีลูกเหมือนกันจับฉลาก อันนี้รู้สึกเองนะ เพราะว่ามันจะดีหรือไม่ดี สุดท้ายต่อให้มัน เลี้ยงลูก สุดท้ายมันจะเป็นคนไม่ดี จะเป็นภาระให้กับสังคม เป็นภาระให้ตัวเอง เป็นภาระให้พ่อแม่หรือให้กับโลกเนี่ย มันก็เป็นด้วยตัวของมันเองเลยอ่ะ
ผมว่าจิตสำนึกพวกนี้มันสอนกันได้ แต่มันรู้สึกเป็นด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะอย่างคนดีๆ รวยๆ อยู่ในสังคมดีๆ คนไม่ดีก็มี คนที่ดีที่เค้าเกิดในที่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยถ้าเค้าจะดีมันก็ดี แล้วอะไรมันคือจุดชี้วัดล่ะ ผมว่ามันอยู่ในธรรมที่ติดอยู่ในตัวข้างในหรือเปล่า เพราะว่าเราก็หาคำตอบไม่ได้ ”
แม่เร่ง
“แม่เค้าอยากมี เค้าก็อยากจะเลี้ยงหลาน เพราะว่าอายุ 60 กว่าแล้ว “
แม่มีแบบหาเองไม่ได้แม่หาให้ไหม
“ไม่ๆ แม่ผมเค้ารู้นิสัยปั้น คือลูกรักใครแม่ก็รักด้วย ประเด็นผมก็มีกฎเหล็ก ก็คือติดแม่นะ ถ้าเค้าเข้ากับแม่เราไม่ได้ก็ยาก เพราะว่าผมเป็นคนที่ดูแลและอยู่กับแม่ คือถ้ามาอยู่ก็ไม่ติดนะ เค้าเอาครอบครัวเค้ามาอยู่ คือผมก็ต้องหาเพิ่ม บ้านที่ใหญ่ขึ้น ถ้ามันจะมีแบบนั้นอ่ะนะ แต่ยังไงแม่ต้องอยู่กับผม ไม่ได้หมายความว่าอยู่ห้องเดียวกันนะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าติดอะไรขนาดนั้น แต่สมมุติมีบ้านก็ต้องอยู่ในละแวกเดียวกัน เพราะว่าผมก็มีแม่คนเดียวอ่ะ”
พูดถึงแผนในวงการบ้าง
“ไม่มีแผนเลย ด้นสด ยังเป็นที่รักของผู้ใหญ่ ยังเป็นที่รักของประชาชน เค้าก็ยังให้งานให้ละครผมก็ทำเต็มที่ในด้านตรงนี้ครับ ผมก็รู้สึกว่าผมพอใจในสิ่งที่ผมยืนอยู่ ณ ตอนนี้แล้ว ไปไหนมาไหนก็ทุกคนยังน่ารักกับผมอยู่ คืออาจจะไม่มีคนมาวิ่งตามกรี๊ดแต่ว่าก็ยังมีพี่ๆ แม่ๆ ป้าๆ น้าๆ พี่น้องเพื่อนๆ ที่เวลาไปไหนก็ยังน่ารักกับผม ผมก็ยังตั้งใจทำงานของผมต่อไป ใจหวังว่าจะมีละครที่ประทับใจที่ให้ความรู้สึกเหมือนบุพเพฯ อีกซักเรื่องหนึ่ง”
แล้วพรหมลิขิตเล่นไหม
“พรหมลิขิตเล่นครับ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง ก็คือไม่จำเป็นต้องพรหมลิขิตก็ได้ เป็นเรื่องอื่นก็ได้ ในชีวิตมันก็เหมือนมาสเตอร์พีซเนอะสำหรับบุพเพสันนิวาส เราก็คิดว่าอยากจะมีผลงานที่สร้างความสุขปรากฏการณ์ ในประเทศอีกครั้งให้ประชาชนอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกในช่วงสั้นๆ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่อิ่มมากกับความสุขตรงนั้น
มันเหมือนเป็นช่วงเวลาเสพความสุข เสพชื่อเสียง เสพเงินทอง แต่ปั้นรู้สึกว่าเราโตพอที่จะรู้ทันมัน เราเลยไม่ได้หลงอะไรกับมันมากมาย เราก็รู้ว่ามันมีเวลาของมัน แล้วเราก็มีความสุขกับช่วงนั้นให้เต็มที่ โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนตัวเองมากมายขนาดนั้น ผมว่าผมไม่เรื่องเยอะ ผมรู้แค่นี้แหละ ผมไม่ได้เยอะอ่ะ”
แล้วอย่างเบื้องหลังร้านเราคิดอยากจะทำอะไรเป็นของตัวเองไหม เพราะว่าเพื่อนๆ หลายคนก็ไปทำ YouTube
“จริงๆ YouTube ผมคุยกับพิชญ์ไว้ว่าผมจะทำรายการหนึ่งกับเค้า ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงคุยๆ อยู่ก็ยังเตรียมงานไม่เสร็จสักที เพราะมันมีหลายอย่างที่ต้องทำต้องหาอะไรเพิ่ม ทำอยู่แล้วแต่ว่าถ้าเป็นรายการคนเดียวเองจริงๆ ผมยังไม่อยากทำ เพราะผมรู้สึกว่าการทำรายการไปที่ต่างๆ มันเอาเวลาส่วนตัวของผมเยอะไปหน่อย เงินก็อยากได้เวลาส่วนตัวก็อยากมี
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเงินทองมันไม่ได้สำคัญอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว คืออยากได้อีกนะ แต่คือ ณ ตอนนี้มันมีทุกอย่างที่ผมพร้อมหมดแล้ว บ้านก็โอเคแล้ว ผมมีที่ต่างจังหวัดที่ผมซื้อปลูกต้นไม้ไว้ ถ้าเกิดว่าเดือดร้อนหรือว่าไม่มีคนจ้างในวงการก็ไปปลูกผักปลูกสวนอยู่นั่นได้ไง ผมมีแผนว่าจะเทิร์นโปรกอล์ฟ แล้วถ้าผมทำได้ ผมก็อาจจะไปทำงานเกี่ยวกับกอล์ฟ มันก็มีหลายอย่างให้ผมทำ”
ก็คือวางแผนปูพื้นไว้หมดแล้ว
“ที่จริงอันนี้เค้าเรียกว่าวางแผนแล้วเนาะ ก็ประมาณนั้นล่ะ มันก็วางแผนไว้แหละแต่ก็เป็นการวางแผนในสิ่งที่เราชอบ เพราะผมไม่ได้มีหัวด้านธุรกิจ เพราะผมรู้สึกว่าถ้าผมโยนเงินไปให้คนอื่นบริหารก็หายอีก เราทำอะไรที่เราถนัดและเข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้งดีกว่า”
เตรียมเรียกโปรปั้น
“ครับ โปรปั้น (ยิ้ม)”