เขตต์มองอาหารเหนือมากมายหลากหลายเมนูบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันไปคุยกับป้าคำแดงและแหลมทองที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะเพื่อสร้างความสนิทสนม

“อาหารน่ากินมากครับ ป้าทำเองหมดเลยเหรอ”

“แม่ช้อยนางรำหรือจะสู้ป้าคำแดงฟ้อนเงี้ยว ต่อนยอน..ต่อนย้อน โอ๊ย”

“ไม่รู้จะถูกปากคุณเขตต์รึเปล่า”

ป้าคำแดงแอบหยิกแหลมทองทั้งที่ยังยิ้มให้เขตต์

“ผมกินได้ทุกอย่างครับ ได้กินข้าวกับภรรยาแสนสวยก็ยิ่งเจริญอาหาร”

เขตต์หันไปยิ้มหวานให้แพรนวล พลอยทำให้ป้าคำแดงกับแหลมทองยิ้มตามไปด้วย แพรนวลตีสีหน้านิ่งไม่แสดงความรู้สึก เริ่มตักอาหารกินคนเดียวเงียบๆ เขตต์รีบตักกับข้าวให้แพรนวลอย่างเอาใจ แต่แพรนวลกลับเขี่ยกับข้าวที่เขตต์ตักให้ไว้ตรงมุมจานไม่ยอมกิน เขตต์ไม่ละความพยายาม ตักกับข้าวอย่างอื่นให้แพรนวลอีก

“น้ำพริกอ่องกับผักสดก็น่าอร่อย”

แพรนวลตักกับข้าวอย่างอื่นมากินโดยไม่สนใจกับข้าวที่เขตต์ตักมาให้ ป้าคำแดงกับแหลมทองสบตากัน รู้สึกได้ว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มกร่อย

หลังกินอาหารเสร็จ แพรนวลบอกให้เขตต์กลับ แต่เขาพยายามตื้อ

“เรามาคุยกันดีๆ เถอะแพร อย่าทรมานผมแบบนี้เลย”

“เขตต์รู้มั้ยว่าแพรเจ็บปวดเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของเขตต์มานานแค่ไหน”

แพรนวลจะเดินหนี เขตต์โผเข้ามากอดเธอไว้จากด้านหลัง

“ผมขอโทษ..ผมผิดไปแล้ว..ขอโอกาสให้ผมแก้ไขความผิดที่ทำกับแพรได้มั้ย”

“แม่กับพี่ภาคไม่บอกเหรอคะว่าแพรขอหย่า”

เขตต์ชะงัก ทำให้แพรนวลอาศัยจังหวะนั้นเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดของเขาทันที

“ผมจะไม่เลิกกับแพร ผมยังรักแพรเหมือนเดิม”

“แพรให้อภัยเขตต์ได้แต่เราจะไม่เหมือนเดิม”

“ไม่จริง..แพรรักผมมาก แพรไม่มีทางเลิกกับผม”

“แพรอาจเคยเป็นใครสักคนในอดีต แต่ปัจจุบัน..แพรก็คือแพร”

แพรนวลไม่รอฟังคำพูดใดๆ จากเขตต์เดินเลี่ยงไปทันที เขตต์วิ่งมาดักหน้าแพรนวล ยังคงพยายามขอโอกาสแก้ตัวจากแพรนวล

“ผมรักแพร..รักจนแทบบ้าตายเพราะคิดถึงแพร”

“เขตต์ขับรถชนกำแพงบ้านเพราะไม่รักตัวเอง แล้วเขตต์จะรักแพรได้ยังไง”

“ผมสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีก ผมเข็ดแล้วจริงๆ”

สายตาอ้อนวอนน่าสงสารของเขตต์ทำให้แพรนวลสงสารเขาขึ้นมาแวบหนึ่ง แต่ยังใจแข็ง

“กลับไปเถอะค่ะ แพรมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”

“ผมศึกษางานใหม่เสร็จแล้ว ตอนบ่ายว่าง”

“งานใหม่?”

“คุณมานพอนุญาตให้ผมย้ายมาทำงานที่โรงแรมสาขาในเชียงราย เพราะอยากให้ผมได้อยู่กับครอบครัว ผมตั้งใจย้ายมาอยู่กับแพรที่นี่ เพื่อยืนยันว่าผมมีแพรคนเดียว”

แพรนวลโกรธจนแทบกรีดร้อง ไม่คิดว่าเขตต์จะใช้วิธีนี้กับเธอ

แหลมทองเห็นแพรนวลถือสมุดบันทึกและรูปถ่ายของกิ่งแก้วนั่งนิ่งอยู่บนเตียง จมอยู่กับความคิดกังวล นานจนเขาเริ่มเป็นห่วง

“คุณแพรมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”

“แหลมต้องสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”

“ผมรักษาสัญญาเสมอครับ”

แพรนวลยื่นรูปถ่ายในมือให้แหลมทองดู “เจ้าของรูปชื่อกิ่งแก้ว เป็นภรรยาคนแรกของพ่อฉัน เคยนอนบนเตียงนี้และฝันเหมือนฉัน”

“ฝันว่าไปเวียงขินเหรอครับ”

“ความจริงแล้วไม่ใช่แค่ฝัน..แต่ฉันย้อนเวลากลับไปตื่นที่เมืองเวียงขินในปีพุทธศักราชสองพันสี่ร้อยแปดสิบเจ็ด”

แหลมทองเบิกตาโต รีบขยับตัวออกห่างจากเตียงที่แพรนวลนั่งอยู่ทันที

“เตียงนี้มีอาถรรพ์และปาฏิหาริย์..แต่ไม่ใช่เตียงผีสิง”

“ถ้าทำให้คุณแพรย้อนอดีตได้เหมือนในหนังมันก็น่ากลัวอยู่ดี”

ความงุนงงบนใบหน้าและสายตาของแหลมทองทำให้แพรนวลรู้ว่าความนึกคิดของแหลมทองกำลังสับสน ซึ่งเธอก็คงไม่เชื่อหากไม่ได้ประสบด้วยตัวเอง

“ฉันกับคุณกิ่งแก้วไปตื่นในเวียงขินเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คุณกิ่งแก้วถึงกลับมาไม่ได้”

“กลับมาไม่ได้?”

“คุณกิ่งแก้วนอนตายบนเตียงนี้”

“แล้วคุณแพรไม่กลัวตายเหรอครับ”

แพรนวลอึ้งไป คำถามของแหลมทองเสียดแทงความหวั่นวิตกในใจเธอไม่น้อย เสียงแจกันแตกดังมาจากข้างล่าง แพรนวลกับแหลมทองหันขวับไปทางต้นเสียงด้วยความตกใจ

แพรนวลกับแหลมทองรีบเดินลงมาข้างล่าง จังหวะเดียวกับที่ป้าคำแดงวิ่งออกมาจากครัว เห็นเขตต์กำลังเก็บเศษแจกันและดอกกุหลาบสีชมพูที่กระจัดกระจายเต็มพื้น

“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”

เขตต์ยิ้มเจื่อน “ผมอยากจัดกุหลาบใส่แจกันแพรก่อน แต่ซุ่มซ่ามทำแจกันแตก”

“คุณเขตต์โดนเศษแจกันบาดมือนี่คะ” ป้าคำแดงร้องทัก

เขตต์พลิกมือข้างขวาขึ้นมาดู เพิ่งรู้ว่านิ้วโป้งที่มือข้างนั้นมีบาดแผลจนเลือดไหลซิบออกมา

แพรนวลช่วยทำแผลให้เขตต์เสร็จ เขตต์รีบช้อนมือของแพรนวลขึ้นมาจูบอย่างชื่นใจ โดยที่แพรนวลไม่ทันตั้งตัว

“ขอบคุณครับที่รัก”

“เชิญคุณกลับไปได้แล้ว” แพรนวลสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขตต์และลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ผมไม่มีรถ เพราะเมื่อกลางวันสุนัยมาส่ง”

“อารถแพรไปก็ได้ค่ะ”

“ผมเจ็บนิ้วและยังไม่คุ้นทางแถวนี้เลย”

“เขตต์ไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวแพรจะเขียนแผนที่บอกทางให้”

แพรนวลชำเลืองมองเวลาที่นาฬิกา เริ่มกังวลใจว่าหลาวเปิงจะมาหาเธอที่ห้อง

“จะมืดแล้ว..ถ้าแพรไม่ไปส่งผมก็จะนอนที่นี่ เพราะหมอห้ามผมเพ่งสายตาขับรถตอนกลางคืน”

แพรนวลจ้องเขตต์อย่างไม่พอใจ กำลังจะเหลืออด

“หมอสั่งห้ามจริงๆ นะ ถ้าแพรไม่เชื่อก็โทรถามพี่ภาคได้”

“งั้นเขตต์ก็นอนตรงนี้ เดี๋ยวแพรจะให้แหลมเตรียมหมอนกับผ้าห่มไว้ให้”

เขตต์ดีใจ “เราออกไปดินเนอร์กันมั้ย?”

“แพรจะนอน”

“เพิ่งจะห้าโมงกว่าเอง”

“แพรปวดหัว ถ้าเขตต์หิวก็หาอะไรกินเองเถอะ”

แพรนวลเดินหนีไป เขตต์แอบดีใจที่คืนนี้เขาได้นอนบ้านเดียวกับแพรนวล

แพรนวลยื่นกุญแจห้องให้แหลมทองพร้อมกำชับ

“ฉันจะล็อคกุญแจด้านใน แหลมเข้ามาปลุกฉันตอน 8 โมงเช้าและอย่าให้คุณเขตต์รู้นะว่าแหลมมีกุญแจ”

แหลมทองรับกุญแจแล้วมองแพรนวลอย่างเป็นห่วง “คุณแพรครับ”

“ฉันต้องหาคำตอบให้ได้ว่าปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับฉันและคุณกิ่งแก้วคืออะไร”

แพรนวลเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นชุดไทเขินของเจ้านางตองริ้วชุดเดิม พร้อมที่จะเข้านอน กลิ่นดอกลั่นทมรวยรินเคลียเคล้าบรรยากาศแห่งสนธยาอันสงบ หญิงสาวเอนตัวลงนอน จับนาฬิกาพกไว้ในมือ พยายามข่มตาข่มใจหลับแม้ความกังวลจะรุมเร้าไม่ผ่อนคลาย แต่เมื่อเธอซบหน้าลงแนบหมอนได้ไม่นาน ภวังค์จิตของเธอก็ดิ่งลึกลิบลับไปไกลถึงห้วงแห่งกาลที่เธอปรารถนา

หลาวเปิงนั่งฟุบหลับกับโต๊ะหนังสือและเริ่มรู้สึกตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เจ้านางตองริ้วเปิดประตูเดินเข้ามา หลาวเปิงกำลังจะลุกขึ้น เผลอเอามือปัดไปโดนสมุดวาดรูปตกลงพื้น เจ้านางตองริ้วช่วยหยิบสมุดภาพขึ้นมาให้ เห็นภาพสเกตซ์ของแพรนวลในสมุดวาดรูปเล่มนั้น

“รูปคุณแพรนวลสวยมาก แต่ตัวจริงสวยกว่า”

เจ้านางตองริ้วเปิดดูภาพวาดหน้าอื่นซึ่งมีเพียงภาพของแพรนวลในแบบต่างๆ เกือบทั้งเล่ม

“พี่หลาวเปิงวาดรูปนางในฝันเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ”

“พี่ไม่เคยบอกว่าแม่หญิงแพรนวลเป็นใคร”

“ถ้าไม่สำคัญ..พี่หลาวเปิงคงไม่มอบของรักของหวงให้คุณแพรนวลหรอกค่ะ”

เจ้านางตองริ้วมองนาฬิกาที่หลาวเปิงห้อยคอกับนาฬิกาในรูปสเกตซ์ของแพรนวล ยิ้มแซว หลาวเปิงทำเป็นขรึมเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน

“แล้วเรื่องหมั้นกับพี่เรืองระยับจะทำยังไงคะ”

หลาวเปิงเงียบไป ยังไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้ยังไง

แพรนวลเปิดประตูออกมาจากห้อง ตกใจที่เจอเจ้านางเรืองระยับยืนรออยู่กับทองเพ็ง

“ขวัญผวาเหมือนคนมีความลับ”

“ไม่เหนื่อยที่ต้องคอยจับผิดฉันบ้างเหรอคะ”

“หล่อนจะไม่รอดพ้นสายตาฉันถ้ายังอยู่ที่นี่”

แพรนวลไม่อยากต่อปากต่อคำ จึงเดินหนี แต่ถูกเจ้านางเรืองระยับคว้าแขนรั้งไว้และจับสายสร้อยตรงคอแพรนวลที่ซ่อนอยู่ในคอเสื้อออกมาจนเห็นเรือนนาฬิกา แพรนวลหน้าเสียกลัวเจ้านางเรืองระยับโกรธจนมีเรื่อง แต่เจ้านางเรืองระยับกลับปล่อยมือจากนาฬิกาที่ห้อยคอ แต่พอแพรนวลจะเดินไป เจ้านางเรืองระยับก็ยื่นเท้าไปขัดเท้าแพรนวล ทำให้เธอเสียหลักล้มไปกับพื้นอย่างไม่ทันระวังตัว

“โอ๊ย”

“เจ็บมากไหม” เจ้านางเรืองระยับก้าวเข้าไปยืนเหนือร่างแพรนวล แล้วใช้เท้าเหยียบบดมือแพรนวลไว้ไม่ให้ลุก

แพรนวลร้องออกมาด้วยความเจ็บ พยายามจะดึงมือออกจากเท้าเรืองระยับ แต่ถูกกดไว้แน่น

“หล่อนยังเจ็บได้ไม่ถึงเศษเสี้ยวที่ฉันเจ็บ อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าหลาวเปิงคิดยังไงกับหล่อน เป็นแค่หิ่งห้อย อย่ามาอวดแสงแข่งกับพระจันทร์”

“ฉันไม่เคยคิดจะแข่งอะไรกับเจ้านาง”

“เจ้านางตองริ้วมาค่ะ”

ทันทีที่ทองเพ็งหันมาบอก เจ้านางเรืองระยับรีบดึงตัวแพรนวลลุกขึ้น ก่อนเจ้านางตองริ้วกับจันสมจะเดินมาเห็น แล้วหันไปยิ้มให้เจ้านางตองริ้ว

“พี่มีเรื่องจะคุยกับน้องตองริ้วอยู่พอดี”

เจ้านางเรืองระยับ เจ้านางตองริ้ว แพรนวล นั่งประจำที่ตัวเองตรงโต๊ะอาหารที่มีอาหารเช้าสไตล์ยุโรปหลายอย่าง เจ้านางตองริ้วดีใจเมื่อรู้เรื่องจากเจ้านางเรืองระยับ

“พี่เรืองระยับจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ตองริ้วจริงเหรอคะ แสดงว่าพี่เรืองระยับไม่โกรธตองริ้วแล้ว”

“พี่อยากให้น้องตองริ้วมีความสุขในวันที่สำคัญที่สุด”

เจ้านางเรืองระยับปรายตามองแพรนวลที่กุมมือที่เจ็บของเธอไว้ ยิ้มเย้ยอย่างเหนือกว่า

“ตองริ้วดีใจมากค่ะที่งานแต่งงานของตองริ้วจะมีเพื่อนเจ้าสาวสองคน”

“มีพี่คนเดียวก็พอ”

“แต่ตองริ้วเตรียมชุดเพื่อนเจ้าสาวให้คุณแพรนวลแล้ว”

“ให้ฉันไปช่วยงานอย่างอื่นก็ได้ค่ะ”

“เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนเป็นลางไม่ดี ตองริ้วกลัวจะเกิดเรื่องร้ายอีก”

แพรนวลสงสารเจ้านางตองริ้ว แต่ก็ไม่อยากเป็นเพื่อนเจ้าสาวคู่กับเจ้านางเรืองระยับ เจ้านางเรืองระยับอารมณ์เสีย ไม่อยากคุยด้วย ก่อนจะเห็นว่าที่นั่งว่างเปล่าอีกสองที่ในโต๊ะอาหาร

“หลาวเปิงกับซานแปงหายไปไหน”

ทหารของอูซอที่ถูกจับได้ ใส่ความแพรนวลว่าเป็นคนแอบส่งแผนผังในหอคำไปให้อูซอ เจ้านางเรืองระยับสั่งทหารให้จับแพรนวลไปขัง แต่หลาวเปิงจะขอสอบสวนเอง และให้ขังแพรนวลไว้ในห้องนอนของเขา ทำให้เจ้านางเรืองระยับไม่พอใจ

ซานแปงเห็นว่าแพรนวลอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากจึงไปหาบุญสิงห์ขอร้องให้มาช่วย บุญสิงห์จึงชวนพันตรีประกิตและนายต่วนที่อยู่ด้วยกันในเวลานั้นมา บุญสิงห์ยืนยันต่อหน้าเจ้านางเรืองระยับและทุกคนว่าแพรนวลเป็นครูไทยคนใหม่ที่มาช่วยงานเขา ไม่มีทางเป็นสายลับให้ใคร เจ้านางเรืองระยับเกรงใจพันตรีประกิตและบุญสิงห์จึงไม่กล้าแย้งอะไร ขณะที่แพรนวลดีใจมากที่ได้คุยกับพ่ออีกครั้ง

ทหารรายงานให้หลาวเปิงรู้ว่าทหารของอูซอที่ถูกขังอยู่เสียชีวิตแล้ว หลาวเปิง พันตรีประกิต ซานแปง บุญสิงห์และนายต่วนไปดูศพด้วยกัน พันตรีประกิตตรวจสภาพศพ จนรู้ว่าคนของอูซอไม่ได้ฆ่าตัวตายเพราะไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย โดยจะให้หมอที่ค่าย ซึ่งมีความรู้ทางด้านนิติเวช หาสาเหตุการตาย

อูซอส่งอองเฮียนกับลูกน้องไปเล่นงานซานแปงขณะที่เขาจะกลับบ้าน แต่พันตรีประกิตได้รับรายงานจากสายลับจึงพาทหารมาช่วยไว้ทัน หลาวเปิงมั่นใจว่าเป็นฝีมืออูซอ จึงให้ซานแปง ปอสาและบัวเขมย้ายมาอยู่ที่หอคำจนกว่าจะปลอดภัย

เจ้านางจามรีเรียกหลาวเปิงไปพบที่ห้องหนังสือพร้อมกับเจ้านางเรืองระยับแล้วบอกว่าเขาควรจะแต่งงานกับเจ้านางเรืองระยับได้แล้ว หลาวเปิงปฏิเสธทันทีว่ายังไม่พร้อม

“ฉันไม่เห็นว่าคุณบกพร่องตรงไหน”

“ผมไม่มีสายเลือดของชนชั้นสูงที่เท่าเทียมกับเจ้านาง”

“ถ้าจะนับกันตามจริง..หลาวเปิงก็มีศักดิ์เป็นเจ้าฟ้าเหมือนกัน พ่อของหลาวเปิงเกือบจะได้เป็นเจ้าฟ้าองค์หนึ่งของเวียงขิน แต่ตอนนั้นเขายังเด็ก..จึงปากระดาษที่เขียนพินัยกรรมเข้ากองไฟเตาผิง ทำให้ไม่ได้รับแต่งตั้งยศศักดิ์เป็นเจ้าฟ้า”

“แม่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับผม”

“คงไม่อยากให้หลานน้อยเนื้อต่ำใจ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เจ้าเมืองบุญรักและเมตตาหลาวเปิงมาก”

“แสดงว่าคุณมีเกียรติเท่าเทียมกับฉัน” เจ้านางเรืองระยับดีใจ

“เมืองเวียงขินกับเมืองเชียงฟ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน คำสัญญาของเจ้าเมืองบุญกับเจ้าร้อยจอมคือการรักษาชาติพันธุ์ของเราไว้ให้คงอยู่ตลอดไป”

“ฉันปรึกษากับเจ้าย่าแล้วว่าเราควรแต่งงานกันหลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานของน้องตองริ้ว”

เจ้านางเรืองระยับยิ้มร้ายอย่างได้เปรียบและถือไพ่เหนือกว่า หลาวเปิงเครียดมาก ปฏิเสธไม่ได้

เจ้านางตองริ้ว ซานแปง ปอสา บัวเขมนั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับการจัดพิธีแต่งงาน โดยมีแพรนวลร่วมฟังอยู่ด้วย ซานแปงเล่าว่ายายของเขาเป็นคนไทย เสียชีวิตมายี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ยังไม่ทันได้เล่าอะไรมากกว่านั้น จันสมก็เข้ามาบอกว่านางในหอคุยกันว่าเจ้านางเรืองระยับจะแต่งงานกับจายหลาวเปิงหลังงานแต่งของเจ้านางตองริ้ว แพรนวลเศร้า เพราะสถานะของเธอตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะรักหลาวเปิง

แพรนวลออกมาเดินเล่นที่ลานลั่นทม ยกนาฬิกาที่ห้อยคออยู่ขึ้นมาดูด้วยความเศร้าและว้าวุ่นใจ

“แม่หญิงลืมของไว้”

แพรนวลหันไปเห็นหลาวเปิงเดินเข้ามา แปลกใจว่าเธอลืมอะไร หลาวเปิงยื่นดอกลั่นทมสีขาวบานสวยสดในมือให้แพรนวลดู แล้วจึงเอาดอกลั่นทมดอกนั้นทัดหูให้แพรนวล

“อย่าลืมหัวใจของผม”

แพรนวลอึ้ง พูดไม่ออก เพราะในโลกของความจริงเขาและเธอต่างก็มีเจ้าของแล้ว

“ผมไม่รู้ว่าหัวใจของแม่หญิงเป็นของใคร แต่หัวใจของผมให้แม่หญิงไปหมดแล้ว”

“คุณไม่ควรทำให้เจ้านางเรืองระยับเสียใจ”

แพรนวลสะบัดมือหลุดจากหลาวเปิงแล้ววิ่งหนีไป

ซานแปงกำลังไปดูคนงานขึงหน้ากลองมังคลา ซึ่งจะใช้ตีในวันแต่งงาน จึงชวนแพรนวลไปด้วย

“น้าปอสากับบัวเขมไม่ไปด้วยเหรอคะ”

ซานแปงบอกว่าปอสากับบัวเขมไปไหว้อัฐิยายกิ่งแก้วที่วัด แพรนวลใจระทึก นึกลุ้นว่ายายกิ่งแก้วคืออดีตภรรยาของพ่อ

++++++

ย้อนอ่าน

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 5

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 4

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 3

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 2

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน